Table of Contents

ไฮยาลูรอนข-Hya-Under-eyes-รอยสิว-ริ้วรอย-กระ-จุดด่างดำ-ฝ้า

ไฮยาลูรอน แก้ไขปัญหา แพนด้า ใต้ตาลึก ได้จริงหรือไม่ !?

  • ช่วงนี้ทำงานหนัก พักผ่อนบ้างนะ
  • ได้นอนบ้างไหมเนี่ย แพนด้ามาเชียว

เบื่อไหม ต่อให้นอนพอแค่ไหน แต่ตอนออกไปเจอเพื่อนกี่ที ก็เจอแต่คนทักแบบนี้ !

ใต้ตาคล้ำ พาหน้าโทรม แก่กว่าวัย แก้ไขปัญหา ให้หน้าแลดูเด็ก กลับมาด่วน ๆ ด้วย “ไฮยาลูรอน

ไม่ว่าจะเป็นแพนด้า ใต้ตาลึก หรือปัญหาความหย่อนคล้อย ไฮยาลูรอน ก็สามารถแก้ได้ เห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ ทำความรู้จักไฮยาลูรอน ตัวช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตา ได้ในบทความนี้

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการทำ ไฮยาลูรอน คลิกที่นี่

ปัญหาใต้ตากับไฮยาลูรอน

ปัญหาใต้ตาถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาบนใบหน้ายอดฮิตที่กำลังกวนใจใครหลาย ๆ คน โดยปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้ในคนหลากหลายวัย ในบางรายอาจเกิดขึ้น ตั้งแต่ในวัยรุ่น ปัญหาใต้ตาไม่ได้มีสาเหตุมาจากการใช้ชีวิตเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้อีก เช่น กรรมพันธุ์ และอาการแพ้เป็นต้น ซึ่งปัญหาใต้ตาที่พบบ่อยในปัจจุบันมีดังต่อไปนี้

ใต้ตาคล้ำ – ใต้ตาคล้ำเป็นปัญหาที่พบได้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ลักษณะของปัญหาดังกล่าวคือผิวบริเวณใต้ตาจะมีสีเข้มผิดปกติ ทำให้หน้าดูโทรม คนทั่วไปมักจะเชื่อว่า ผู้ที่มีผิวใต้ตาเข้มผิดปกติ เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่จริง ๆ แล้ว อาการภูมิแพ้ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ใต้ตาคล้ำ กรรมพันธุ์ก็มีผลทำให้ใต้ตาคล้ำเช่นเดียวกัน หรือการขยี้ตาบ่อย ๆ  ก็จะทำให้ผิวมีการสร้างเม็ดสีมากขึ้น เนื่องจากเกิดการระคายเคือง

เบ้าตาลึก (ตาโบ๋) – ผู้ที่มีปัญหาเบ้าตาลึก จะมีลักษณะดวงตาที่ลึกลงไปจากโหนกแก้ม และโหนกคิ้ว ทำให้เห็นโครงสร้างกระดูกในบริเวณดังกล่าวอย่างชัดเจน ผู้ที่มีลักณะเบ้าตาลึก จะทำให้หน้าโดยรวมดูอิดโรย โทรม ไม่สดใส ปัญหานี้สามารถเกิดได้ทั้งในผู้ที่เคยทำตาสองชั้น และมีการเอาไขมันในชั้นตาออกมาเกินไป ผู้ที่มีความเครียด พักผ่อนน้อย และเช่นเดียวกันกับ ใต้ตาคล้ำ กรรมพันธุ์ ก็ถือเป็นอีกสิ่งที่ส่งผลให้เกิดปัญหานี้เช่นเดียวกัน

ใต้ตาหย่อนคล้อย (ถุงใต้ตา) – ถุงใต้ตาเป็นเสมือนดาบสองคม หากถุงใต้ตาที่มีไม่หย่อนคล้อย ได้รูป ก็จะทำให้หน้าดูอ่อนกว่าวัย แต่ถ้าหากเป็นถุงใต้ตาที่เกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณใต้ดวงตา บอกเลยว่าไม่ดีแน่ เพราะถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณ ที่เห็นได้ชัดเจนว่าคุณกำลังมีอายุที่มากขึ้น ! ดังนั้นหากเริ่มมีปัญหาดังกล่าว การรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะทำได้ง่าย และไม่ยุ่งยากนัก

ปัญหาทั้ง 3 อย่างที่ได้กล่าวมา เป็นปัญหาโลกแตก ที่หนุ่มสาววัยทำงาน หลายคนกำลังพบเจอ และหาทางแก้ไข บางรายก็ถึงกับต้องซื้อครีมใต้ตา ราคาแพง ๆ มาใช้ เพื่อบำรุงผิวใต้ตาไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว

แต่ในบางรายที่ปัญหาค่อนข้างเรื้อรัง ครีมบำรุงก็อาจจะไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสมนัก การรักษาโดยใช้สารเติมเต็มอย่าง “ไฮยาลูรอน” จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่เห็นผลชัดเจน และได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการทำ ไฮยาลูรอน คลิกที่นี่

ไฮยาลูรอนคืออะไร ? ช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาได้อย่างไร ?

ไฮยาลูรอนข-Hya-Under-eyes-รอยสิว-ริ้วรอย-กระ-จุดด่างดำ-ฝ้า

ไฮยาลูรอนหรือที่เรียกว่ากรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) คือสารที่ร่างกายสามารถผลิตเองได้ตามธรรมชาติ ทำหน้าที่ในการกักเก็บน้ำ ทำให้ผิวชุ่มชื้น และช่วยหล่อลื่น เส้นผม ผิวหนังดวงตา และตามจุดข้อต่าง ๆ เช่นเดียวกันกับคอลลาเจน และอิลาสติน เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายก็จะผลิตไฮยาลูรอนน้อยลง ทำให้ผิวไม่ชุ่มชื้น ขาดน้ำ หย่อนคล้อย ซึ่งดวงตาก็ถือเป็นอีกหนึ่งบริเวณ ที่แสดงออกมาอย่างจัดเจน เมื่อร่างกายขาดไฮยาลูรอน

ด้วยสาเหตุดังกล่าวแพทย์จึงมีการคิดค้นกรดไฮยาลูโรนิคสังเคราะห์ขึ้นมา เพื่อรักษา โรคข้อเข่าเสื่อม อาการปวดกล้ามเนื้อ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งในวงการความงาม ก็ได้มีการนำมาใช้เช่นเดียวกัน

โดยไฮยาลูรอนถูกใช้เพื่อเติมเต็มในบริเวณที่มีความหย่อนคล้อย และบริเวณที่มีริ้วรอย เนื่องจากไฮยาลูรอน เป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบธรรมชาติ จึงทำให้เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ไม่มีอาการแพ้ ปลอดภัย และช่วยให้ผิวอิ่มฟู ชุ่มชื้น คงตัว ดูอ่อนกว่าวัย

ไฮยาลูรอนเหมาะกับใครบ้าง ?

  • ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อย มีปัญหาถุงใต้ตา
  • ผู้ที่มีปัญหาตาโหล ตาลึก อยากเติมเต็มให้เบ้าตาตื้นขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ จากกรรมพันธุ์ และพักผ่อนน้อย
  • ผู้ที่ต้องการปรับโหงวเฮ้งใบหน้า อยากให้ใต้ตาอิ่มมากขึ้น ดูสดใสกว่าเดิม
  • ผู้ที่มีริ้วรอยรอบดวงตา เช่นตีนกา อยากให้ริ้วรอยจางลง

ไฮยาลูรอน ควรทำบ่อยแค่ไหน ? ควรทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?

สำหรับการเติมไฮยาลูรอนใต้ตา จะสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรก ผิวใต้ตาจะมีความกระจ่างใสมากขึ้น โดยการทำครั้งแรกจะสามารถอยู่ได้ประมาณ 1-3 สัปดาห์ ครั้งที่สองจะอยู่ได้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ แนะนำให้ทำติดต่อกัน 3 ครั้ง หลังจากนั้น สามารถเว้นระยะห่างได้ประมาณ 2 – 3 เดือน ต่อหนึ่งครั้ง ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อกำหนดแนวทางในการรักษา เนื่องจากปัญหาของแต่ละบุคคล อาจใช้เวลาในการรักษาแตกต่างกันออกไป

การเตรียมตัวก่อนทำ และการดูแลหลังทำไฮยาลูรอน

คำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนทำไฮยาลูรอนมีดังต่อไปนี้

  • งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ก่อนเข้ารับการรักษา
  • หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ในบริเวณใต้ตาก่อนเข้ารับการรักษาประมาณ 3 วัน
  • งดทานวิตามินและยาที่มีผลต่อการเลือดออกเช่น วิตามินอี น้ำมันตับปลา แอสไพริน และไอบูโพรเฟน
  • งดการออกกำลังกายหนัก ๆ และการเข้าซาวน่า ก่อนเข้ารับการรักษา

หลังเติมไฮยาลูรอนในบริเวณใต้ตา ควรมีการดูแลตนเองตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

  • ดื่มน้ำเยอะ ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ
  • งดการแต่งหน้าหลังทำ เป็นเวลา 12 ชั่วโมง 
  • งดการเลเซอร์ผิว หรือการทำทรีทเม้นท์เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • งดการกดนวดหรือถูแรง ๆ ในบริเวณที่ทำ
  • งดการออกกำลังกายหนัก ๆ และกิจกรรมที่ต้องโดนความร้อน

ข้อควรระวังในการทำไฮยาลูรอน

แน่นอนว่าผิวใต้ตาเป็นบริเวณที่มีความอ่อนโยน ดังนั้นผู้เข้ารับการรักษาควรมั่นใจทุกครั้งว่า สารที่นำเข้าสู่ร่างกายนั้นได้มาตรฐานและเป็นของแท้ ตรวจเช็คกับทางสถานเสริมความงามทุกครั้งว่ากล่องผลิตภัณฑ์ ถูกผิดผนึกมาอย่างดี และถูกแกะครั้งแรก

ผู้ที่ทำการรักษาก็ควรมีความเชี่ยวชาญ และได้รับการรับรอง มีความน่าเชื่อถือ

Lienjang สถานเสริมความงามชื่อดังจากประเทศเกาหลีใต้ เปิดให้บริการในประเทศไทยแล้ววันนี้ ! เรามีเครื่องมือมากมายที่ได้มาตรฐาน พร้อมทีมแพทย์และบุคลากรที่ได้รับการรับรอง ไว้คอยให้บริการทุกท่าน

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการทำ ไฮยาลูรอน คลิกที่นี่