Table of Contents

Ivdip-ไอวีดริป-ดริปวิตามิน-ไร้ฝา-ไร้กระ-สิว

การดริปวิตามิน สำคัญอย่างไร ทำไมถึงต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ?

ในปัจจุบันเทรนด์สวยสุขภาพดี ถือเป็นสิ่งที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หรือที่บางคนได้กล่าวไว้ว่า “สวยจากภายในสู่ภายนอก” เพราะเมื่อร่างกายสุขภาพดีแล้วนั้น อวัยวะภายนอกอย่างผิวหนัง เส้นผม หรือเล็บ ก็จะดูดีเช่นกัน

ด้วยสาเหตุดังกล่าว หนุ่มสาววัยทำงานหลายคนจึงเลือกที่จะกินอาหารเสริมหลายเม็ดต่อวัน เพื่อบำรุงร่างกายให้สุขภาพดีอย่างสม่ำเสมอ แต่รู้หรือไม่ว่า … วิตามินทุก ๆ เม็ดที่ทานเข้าไปนั้น ร่างกายสามารถดูดซับได้เพียง 30% เท่านั้น แล้ววิธีไหนหละ ที่จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซับวิตามินได้อย่างเต็มที่ ?

คำตอบก็คือ “การดริปวิตามิน หรือ IV Drip” นั่นเอง การดริปวิตามินจะทำให้ร่างกายสามารถดูดซับสารอาหารได้อย่างเต็มที่ ส่งผลประโยชน์ให้กับร่างกายในหลากหลายด้าน ทั้งในด้านความสวยความงาม และสุขภาพร่างกาย

ในบทความนี้ Lienjang จะพาทุกท่าน ไปทำความรู้จักกับการดริปวิตามินให้มากขึ้นกัน ว่าทำไมถึงได้รับการยอมรับให้เป็นเคล็ดลับผิวสวยของเหล่าดาราทั่วโลก

สิ่งที่น่าสนใจในบทความนี้

Table of Contents

  1. การดริปวิตามิน (Vitamin Drip) คืออะไร ?
  2. การดริปวิตามิน (Vitamin Drip) ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
  3. การดริปวิตามิน (Vitamin Drip) ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?
  4. วิธีการดริปวิตามินมีลักษณะอย่างไร ?
  5. ผลข้างเคียงของการดริปวิตามิน (Vitamin Drip)

การดริปวิตามิน (Vitamin Drip) คืออะไร ?

การดริปวิตามิน (Vitamin Drip) หรือที่เรียกว่า IV Drip ซึ่งย่อมาจาก Intravenous Vitamin therapy คือการเสริมสุขภาพของผิวและร่างกาย โดยการนำวิตามินและสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ เข้าสู่ร่างกายผ่านทางหลอดเลือด

ด้วยวิธีนี้ร่างกายจะสามารถดูดซับวิตามินได้มากถึง 100% ซึ่งมากกว่าการรับประทานหรือการทา การดริปวิตามินนอกจากจะช่วยเรื่องของความสวยความงามแล้ว ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะวิตามินจะช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น และอื่น ๆ อีกมากมาย

ด้วยประโยชน์ดังกล่าวจึงทำให้เหล่าเซเลปตัวโลก ให้การยอมรับ และเข้ารับการดริปวิตามินอย่างต่อเนื่อง

การดริปวิตามิน (Vitamin Drip) ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

การดริปวิตามิน ให้ประโยชน์ทั้งในแง่ของความสวยความงาม และสุขภาพ โดยข้อดีของการดริปวิตามิน มีดังต่อไปนี้

Ivdip-ไอวีดริป-ดริปวิตามิน-ไร้ฝา-ไร้กระ-สิว

ประโยชน์ด้านความสวยความงาม

  1. ทำให้ผิวดูกระจ่างใส บรรเทาความหมองคล้ำของผิว
  2. เพิ่มระดับการต้านอนุมูลอิสระ เสริมคอลลาเจน ทำให้ผิวชุ่มชื้น สุขภาพดียิ่งขึ้น
  3. กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ ทำให้การควบคุมน้ำหนักเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
  4. ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ช่วยชะลอความชรา ป้องกันการเหี่ยวย่นของผิว

ประโยชน์ด้านสุขภาพร่างกาย

  1. ทำให้ร่างกายรีเฟรช สดชื่น หลับสบาย แก้อาการเมาค้าง
  2. กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ต่อต้านอนุมูลอิสระ เหมาะกับผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ ป่วยบ่อย ลดโอกาสเกิดโรคภัยไข้เจ็บน้อยลง

การดริปวิตามิน (Vitamin Drip) ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?

ในช่วงแรกแนะนำให้เข้ารับการดริปวิตามินสัปดาห์ละครั้ง โดยจะเริ่มเห็นผลหลังจากดริปประมาณ 2 – 3 ครั้ง
เมื่อ ผิวเริ่มกระจ่างใส เห็นผลชัดเจนมากขึ้นแล้ว ผู้เข้ารับการดริปวิตามิน สามารถเปลี่ยนเป็น สองสัปดาห์ต่อหนึ่งครั้งได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น การดริปวิตามิน จะค่อย ๆ ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น จากภายในสู่ภายนอก

ดังนั้นจึงไม่ควรเร่งรัด ทำบ่อยจนเกินไป เพราะการรับวิตามินในปริมาณที่มากเกินไป จะส่งผลเสียต่อร่างกาย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

การดริปวิตามินมีลักษณะอย่างไร ?

โดยปกติแล้วการดริปวิตามินเข้าสู่ร่างกายจะสามารถทำได้ โดยการให้ผ่านสายน้ำเกลือ

การดริปวิตามินผ่านสายน้ำเกลือ – วิธีนี้จะคล้ายกับการให้น้ำเกลือตอนป่วย แต่จะเปลี่ยนน้ำเกลือเป็นวิตามินแทน โดยผู้เข้ารับการรักษาจะต้องรอให้วิตามินค่อย ๆ เข้าสู่ร่างกายหมด ใช้เวลาประมาณไม่เกินหนึ่งชั่วโมง

ผลข้างเคียงของการดริปวิตามิน (Vitamin Drip)
ในปริมาณที่มากเกินไป

โดยปกติแล้วหากผู้เข้ารับการดริปวิตามิน ได้รับตัวยาที่ได้มาตรฐาน และทำกับสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรอง การดริปวิตามินจะไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ อย่างไรก็ตามผลข้างเคียงจากการดริปวิตามินมักมาจากการได้รับในปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งผลข้างเคียงมีดังต่อไปนี้

  • ระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ
  • คลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง
  • ปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • ปวดศีรษะ หรือปวดไมเกรน

บุคคลดังต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์อย่างถี่ถ้วนการเข้ารับการดริปวิตามิน

  • หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
  • ผู้ป่วยโรคหัวใจ
  • ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด โรคความดันโลหิตสูง
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ยังประคอง
  • อาการให้คงที่ไม่ได้หรือยังต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ
  • ผู้ป่วยโรคตับ
  • ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน
  • ผู้ป่วยโรคไต
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะวิตามินหรือแร่ธาตุเกิน เช่น ภาวะธาตุเหล็กเกิน

เพื่อความปลอดภัยของตัวท่าน ควรมีการศึกษาเกี่ยวกับสถานพยาบาล ผู้ให้บริการควรได้รับการรับรอง และใช้ตัวยาที่มีมาตรฐาน แพทย์ผู้ทำการรักษาก็ควรมีใบรับรอง มีความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงาน

ที่ Lienjang เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไว้คอยให้บริการทุกท่าน ท่านจะสามารถมั่นใจได้ว่า จะได้รับวิตามินที่มีมาตฐาน และได้รับการบริการจากบุคลากรชั้นยอด

สนใจสอบถามเกี่ยวกับ การดริปวิตามินคลิกที่นี่

บทความที่เกี่ยวข้อง

related Article

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *