บทความ

Article

Yag Laser นวัตกรรมเลเซอร์กำจัดขน เผยผิวเนียน ไม่ทิ้งตอ
Facebook
X
Email

Yag Laser นวัตกรรมเลเซอร์กำจัดขน เผยผิวเนียน ไม่ทิ้งตอ

หัวข้อที่น่าสนใจ

หากพูดถึงเลเซอร์กำจัดขน Yag Laser ก็เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่นึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ เป็นเลเซอร์กำจัดขนตัวดังที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะตอบโจทย์สำหรับหลายคนที่ประสบปัญหาเส้นขนเยอะ เส้นขนหนา ในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ขนแขน ขนขา ขนรักแร้ หรือหนวดเครา เนื่องจากสามารถช่วยกำจัดขนได้ถึงรากลึก ไม่ทำรายผิว และไม่ทิ้งตอขนอีกด้วย ถือว่าเป็นเลเซอร์กำจัดขนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ในบทความนี้ ลีเอนจาง คลินิก ได้รวบรวมข้อมูลแบบเจาะลึกเกี่ยวกับ YAG คืออะไร ? มีกี่แบบ ? เจ็บไหม ? มีข้อดีอย่างไรบ้าง ? เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาก่อนการตัดสินใจทำ

ทำความรู้จัก! yag laser คืออะไร ?

Yag Laser คือ Yttrium Aluminum Garnet Laser เลเซอร์ชนิดหนึ่งที่ใช้ Yttrium Aluminum Garnet เป็นตัวกลางในการปล่อยแสงเลเซอร์ มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 1,064 นาโนเมตร และยังมีพลังงานของโปรแกรมสูงถึง 80 จูล มีระบบที่ช่วยควบคุมการปล่อยพลังงานเลเซอร์เพื่อให้ตรงตามความต้องการในการรักษา และมีระบบระบายความร้อนเพื่อป้องกันการทำร้ายผิวหนังและเพิ่มความปลอดภัยในการรักษาอีกด้วย จึงเป็นนวัตกรรมเลเซอร์กำจัดขนที่มีประสิทธิภาพสูงและได้รับความนิยมในการรักษาทางการแพทย์และความงาม เนื่องจากความสามารถในการกำหนดความลึกและมีการทำงานที่มีความแม่นยำสูง เมื่อพูดถึง yag laser มีกี่แบบ ? สามารถแบ่ง Yag Laser ตามตัวกลางในการปล่อยพลังงานได้ 2 แบบ ได้แก่

  • Nd Laser เป็นเลเซอร์ที่มีส่วนผสมของแร่จากเนโอดิเมียม Neodymium ions เป็นตัวกลางการปล่อยพลังงาน มีความยาวคลื่นอยู่ที่ 1,064 นาโนเมตร ซึ่งมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในการรักษาหลายประเภท เช่น การกำจัดขน การลบรอยสัก การรักษาหลอดเลือดขยาย และการรักษาความผิดปกติของผิวหนัง
  • Er Laser เป็นเลเซอร์ที่มีส่วนผสมของแร่ Erbium เป็นตัวกลางการปล่อยพลังงาน มีความยาวคลื่น 2,940 นาโนเมตร ใช้ในการฟื้นฟูผิวหน้า รักษาหลุมสิว และการปรับสภาพผิว โดยมันจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและสดใส

Yag Laser มีหลักการทำงานอย่างไร ?

Yag Laser มีหลักการทำงานอย่างไร ?

Yag Laser ทำงานตามหลักการของเลเซอร์ทั่วไป โดยหลักการทำงานมีดังนี้

  1. YAG ใช้ผลึก Yttrium Aluminum Garnet เป็นตัวกลางในการสร้างแสงเลเซอร์ ซึ่งมีการเติมธาตุอื่น ๆ เช่น Neodymium (Nd) หรือ Erbium (Er) เพื่อปรับความยาวคลื่นของแสงเลเซอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
  2. เมื่อตัวกลางได้รับพลังงานและมีการกระตุ้น พลังงานจะถูกปล่อยออกมาในรูปแบบของแสงเลเซอร์ ความยาวคลื่นของแสงเลเซอร์จะขึ้นอยู่กับธาตุที่ถูกเติมเข้าไป
  3. แสงเลเซอร์จะถูกส่งผ่านระบบเลเซอร์และโฟกัสไปยังบริเวณที่ต้องการรักษา ผ่านทางเลนส์และกระจกในเครื่องเลเซอร์ เพื่อให้ได้ลำแสงที่มีความเข้มข้นสูง
  4. เม็ดสี (เมลานิน) ในขนหรือรอยสัก จะดูดซับพลังงานของแสงเลเซอร์ พลังงานเลเซอร์ที่ดูดซับจะถูกแปลงเป็นความร้อน ซึ่งจะทำลายหรือกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงในเซลล์หรือเนื้อเยื่อเป้าหมาย
  5. พลังงานความร้อนจะทำลายเซลล์ที่ผลิตขนในรูขุมขน ทำให้ขนหยุดการเจริญเติบโตหรือหลุดออกไป
  6. พลังงานเลเซอร์จะทำลายเม็ดสีของหมึกในรอยสัก ทำให้หมึกค่อย ๆ ถูกทำลายและขับออกจากร่างกาย

Yag Laser สามารถกำจัดขนบริเวณใดได้บ้าง ?

Yag Laser สามารถใช้ในการกำจัดขนได้หลายบริเวณของร่างกาย เนื่องจากพลังงานของเลเซอร์มีความสามารถในการเจาะลึกและทำลายเซลล์ที่ผลิตขนในรูขุมขน โดยทั่วไปสามารถใช้กำจัดขนในบริเวณดังต่อไปนี้

  • บริเวณหนวด : กำจัดขน yag laser หนวด เพื่อให้ผิวเรียบเนียน
  • บริเวณคิ้ว : เป็นจุดที่มีไรขนอ่อน ๆ สามารถช่วยกำจัดไรคิ้วได้
  • บริเวณรักแร้ : การกำจัดขนบริเวณรักแร้เพื่อให้ผิวเรียบเนียนและลดการเกิดกลิ่นตัว
  • บริเวณแขน : กำจัดขนที่แขนเพื่อให้ผิวเรียบเนียนและผิวกระจ่างใสขึ้น
  • บริเวณขา : สาว ๆ หลายคนไม่กล้าใส่ขาสั้น เพราะขนขาเยอะเหมือนผู้ชาย การกำจัดขนบริเวณขาช่วยให้ขาดูใสขึ้น ดูสว่าง สะอาดตา
  • บริเวณบิกินี่ : กำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้น เพื่อให้ความสะอาด สบาย และลดการอับชื้น
  • บริเวณหลัง : การกำจัดขนที่หลังสำหรับผู้ที่มีขนหนาและเข้ม
  • บริเวณหน้าอก : การกำจัดขนที่หน้าอกสำหรับผู้ชายหรือผู้หญิงที่มีขนที่ไม่ต้องการ

Yag Laser มีข้อดีอย่างไร ?

Yag Laser มีข้อดีอย่างไร ?

การใช้ Yag Laser สำหรับการกำจัดขนมีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมในการกำจัดขน โดยข้อดีมีดังนี้

  • เหมาะสำหรับทุกสีผิว เพราะสามารถทำงานได้ดีโดยไม่ทำลายเมลานินในผิวหนังมากเกินไป ทำให้ปลอดภัยสำหรับทุกสีผิวหรือผิวที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • สามารถทำลายขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะขนที่หนาและเข้ม เนื่องจากเลเซอร์มีความสามารถในการเจาะลึกลงไปในรูขุมขน
  • สามารถควบคุมพลังงานและโฟกัสลำแสงได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถกำจัดขนในพื้นที่ที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ช่วยลดจำนวนขนและทำให้ขนที่เหลือบางลง การรักษาหลายครั้งสามารถให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานและลดความหนาของขนได้
  • กระบวนการรักษามักใช้เวลาไม่นาน ซึ่งช่วยให้การกำจัดขนเป็นกระบวนการที่สะดวกและไม่ทำให้เสียเวลา
  • มีความปลอดภัยสูงเมื่อทำการเลเซอร์ด้วยแพทย์ผู้ชำนาญการ เนื่องจากการควบคุมพลังงานและการปรับแต่งโหมดการทำงานช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
  • นอกจากการกำจัดขนแล้ว ยังสามารถใช้ในการฟื้นฟูผิวหน้าและลดริ้วรอยได้อีกด้วย

Yag Laser เหมาะกับใคร ?

เหมาะกับกลุ่มบุคคลที่ต้องการกำจัดขนในระยะยาวหรือถาวร โดยเฉพาะในกลุ่มที่อาจมีข้อจำกัดกับการใช้เลเซอร์ชนิดอื่น ต่อไปนี้คือบุคคลที่เหมาะกับการเลเซอร์กำจัดขน

  • ผู้ที่มีผิวสีเข้ม (ผิวระดับ 4-6 ตาม Fitzpatrick Scale) : เหมาะสำหรับคนที่มีผิวสีเข้มหรือผิวที่มีเมลานินสูง เนื่องจากเลเซอร์ชนิดนี้มีความสามารถในการเจาะลึกลงไปในผิวหนังโดยไม่ทำลายเม็ดสี (เมลานิน) ในชั้นบนของผิว ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดแผลเป็นหรือรอยดำหลังการรักษา
  • ผู้ที่มีขนหนา : เหมาะสำหรับคนที่มีขนหนาและมีสีเข้ม เช่น สีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม เนื่องจาก Yag สามารถจับเม็ดสีเมลานินในขนได้ดีและมีประสิทธิภาพสูงในการทำลายรากขน
  • ผู้ที่ต้องการกำจัดขนในบริเวณที่กว้างหรือยากต่อการรักษา : เหมาะสำหรับการกำจัดขนในบริเวณที่กว้าง เช่น ขา แขน หลัง หรือหน้าอก เพราะ Yag สามารถครอบคลุมพื้นที่กว้างได้ดี และสามารถเจาะลึกเพื่อกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว : สำหรับผู้ที่ต้องการลดจำนวนขนอย่างถาวรหรือระยะยาว สามารถให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานได้ โดยหลังจากทำการรักษาหลายครั้ง ขนจะค่อย ๆ ลดลงและบางลง ทำให้ไม่จำเป็นต้องกำจัดขนบ่อยครั้ง
  • ผู้ที่มีประสบการณ์ไม่ดีกับเลเซอร์ชนิดอื่น : หากมีการใช้เลเซอร์ชนิดอื่นที่ไม่ได้ผลหรือทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น ผิวไหม้หรือระคายเคือง Yag Laser อาจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า โดยเฉพาะสำหรับผิวที่ไวต่อการระคายเคือง
  • ผู้ที่มีผิวบอบบางหรือมีความอ่อนไหว : เหมาะสำหรับการกำจัดขนในบริเวณที่บอบบาง เช่น ใบหน้า บิกินี่ไลน์ รักแร้ เพราะสามารถปรับความเข้มของเลเซอร์ได้ตามความเหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง

ข้อควรพิจารณา

  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีขนสีอ่อนมาก (เช่น สีบลอนด์ สีแดง สีเทา) : Yag Laser จะจับเม็ดสีเมลานินได้ไม่ดีในขนสีอ่อน ทำให้ผลลัพธ์อาจไม่ดีเท่าที่ควร
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหรือโรคผิวหนัง : ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษาด้วยเลเซอร์ หากมีโรคผิวหนังเรื้อรัง แผลเป็น หรือผิวหนังที่มีปัญหาอื่น ๆ
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร : การใช้เลเซอร์ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

เปรียบเทียบ Yag Laser กับเลเซอร์อื่น ๆ

เมื่อเปรียบเทียบ Yag Laser กับเลเซอร์ประเภทอื่นๆ เช่น Alexandrite Laser , Diode Laser , และ IPL (Intense Pulsed Light) จะเห็นความแตกต่างในด้านต่าง ๆ ดังนี้

Yag Laser (Nd) : ความยาวคลื่น 1064 นาโนเมตร เหมาะสำหรับ การกำจัดขน, รอยแผลเป็น, การรักษาหลอดเลือด และการกระชับผิว ข้อดีคือ สามารถซึมลึกลงไปในผิวหนังได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีเส้นขนหนา รวมถึงการรักษาในสภาพอากาศร้อนหรือผิวแห้ง ข้อจำกัดคือ อาจมีอาการระคายเคืองหรือรู้สึกเจ็บมากกว่าเลเซอร์บางประเภท

Alexandrite Laser : ความยาวคลื่น: 755 นาโนเมตร เหมาะสำหรับ การกำจัดขน, การรักษาผิวที่มีจุดด่างดำ ข้อดีคือ มีความสามารถในการกำจัดขนได้ดีสำหรับผิวที่มีความสว่างถึงปานกลาง ข้อจำกัดคือไม่เหมาะกับสภาพผิวที่บอบบาง

Diode Laser : ความยาวคลื่น: 800-810 นาโนเมตร เหมาะสำหรับ การกำจัดขน ข้อดีคือ มีความสามารถในการกำจัดขนได้ดีสำหรับผู้ที่มีเส้นขนบางถึงหนาปานกลาง ข้อจำกัดคือ อาจมีความรู้สึกเจ็บบ้างระหว่างการรักษา

IPL (Intense Pulsed Light) : ความยาวคลื่น ครอบคลุมช่วงที่กว้างกว่าเลเซอร์ (ประมาณ 500-1200 นาโนเมตร) เหมาะสำหรับ การกำจัดขน การรักษาจุดด่างดำ การกระชับผิว ข้อดีคือ สามารถใช้กับหลายปัญหาผิวและมีความหลากหลายในการรักษา ข้อจำกัดคือ อาจไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการกำจัดขนมากเท่ากับเลเซอร์ชนิดอื่น และมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงมากขึ้น

Yag Laser ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล ?

Yag Laser ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล ?

มักจะเห็นผลหลังทำครั้งแรกทันที โดยเฉพาะในการรักษาปัญหาผิวบางประเภท เช่น จุดด่างดำ กระ หรือรอยสัก แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยั่งยืน แนะนำให้ทำต่อเนื่องประมาณ 4-6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ระยะห่างในการทำแต่ละครั้งควรอยู่ที่ประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวมีเวลาฟื้นฟูตัวเองระหว่างการรักษา หากมีปัญหาผิวที่ลึกหรือต้องการผลลัพธ์ที่มากขึ้น อาจต้องทำหลายครั้ง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดค่ะ

Yag Laser เจ็บไหม ?

ในการเลเซอร์กำจัดขนอาจมีความรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปความรู้สึกนั้นมักจะคล้ายกับการถูกดีดด้วยยางเส้นเล็ก ๆ หรือรู้สึกเหมือนมีความร้อนเล็กน้อยที่บริเวณผิวหนัง บางคนอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยถึงปานกลางขึ้นอยู่กับความไวต่อความรู้สึกของผิวหนัง ในกรณีที่กังวลในเรื่องความเจ็บ สามารถแจ้งกับผู้ให้บริการหรือแพทย์ได้ สำหรับการใช้เจลทำความเย็นเพื่อลดความรู้สึกเจ็บระหว่างการรักษาได้ค่ะ

การเตรียมตัวก่อนทำ Yag Laser

การเตรียมตัวก่อนทำ Yag Laser

การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์กำจัดขน เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ข้อต่อไปนี้คือขั้นตอนการเตรียมตัวอย่างถูกวิธี

  1. หลีกเลี่ยงการถอนหรือแว็กซ์ขน อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ก่อนการรักษา เนื่องจากการถอนหรือแว็กซ์จะทำให้รากขนถูกดึงออกไป ซึ่งส่งผลให้เลเซอร์ไม่สามารถจับเม็ดสี (เมลานิน) ในรากขนได้ดี
  2. งดการใช้ครีมกำจัดขนหรือสารเคมีที่มีผลต่อผิว เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol) , กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA เป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนการรักษา เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองหรือการบาดเจ็บของผิว
  3. หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง หรือการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการรักษา การที่ผิวถูกทำให้เข้มขึ้นจากแสงแดดอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดแผลเป็นหรือผิวไหม้
  4. ควรโกนขนบริเวณที่จะทำเลเซอร์ในวันหรือคืนก่อนการรักษา เพื่อให้เลเซอร์สามารถเข้าถึงรากขนได้โดยตรง โดยการโกนจะช่วยลดความร้อนที่สะสมอยู่บนผิวหนังและลดความเสี่ยงในการระคายเคือง
  5. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในวันทำเลเซอร์ เพื่อให้ผิวสะอาดและไม่มีสิ่งกีดขวางที่อาจส่งผลต่อการทำงานของเลเซอร์
  6. ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติสุขภาพ ยา หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น ยารักษาสิว , ยาที่มีส่วนผสมของวิตามิน A หรือยาฮอร์โมนบางชนิด ซึ่งอาจมีผลต่อการตอบสนองของผิวต่อเลเซอร์
  7. งดการใช้ยาแอสไพรินหรือยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนการรักษา เพื่อป้องกันการเกิดรอยช้ำหรือเลือดออกใต้ผิวหนัง
  8. ควรสวมเสื้อผ้าที่หลวมและสบายในวันทำเลเซอร์ เพื่อให้สะดวกต่อการรักษาและไม่ทำให้ผิวหนังถูกเสียดสีหลังจากการทำเลเซอร์

การดูแลตัวเองหลังทำ Yag Laser

การดูแลตัวเองหลังทำ Yag Laser

การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์กำจัดขนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุดและเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ต่อไปนี้เป็นแนวทางการดูแลตัวเองหลังทำ

  1. ควรหลีกเลี่ยงการตากแดดโดยตรงหรือโดนแสงแดดที่แรงเป็นเวลานาน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หลังการทำเลเซอร์ เนื่องจากผิวอาจไวต่อแสงและมีโอกาสที่จะเกิดรอยดำหรือแผลเป็นได้
  2. เมื่อออกไปข้างนอก ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดผิวบริเวณที่ทำการรักษา
  3. หากมีอาการแดงหรือบวมเล็กน้อย สามารถประคบเย็นในบริเวณที่ทำการรักษาเป็นเวลา 10-15 นาที เพื่อช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการระคายเคือง
  4. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เรตินอล AHA หรือ BHA หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีที่อาจทำให้ผิวระคายเคืองอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  5. หลังจากทำเลเซอร์ ควรงดการถอน แว็กซ์ หรือใช้ครีมกำจัดขน เนื่องจากอาจทำให้ผิวระคายเคืองและลดประสิทธิภาพของการรักษาด้วยเลเซอร์
  6. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน การใช้ซาวน่า หรือการทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวที่เพิ่งรักษาเกิดการระคายเคืองหรืออักเสบ
  7. หลีกเลี่ยงการถู ขัด หรือการใช้ผ้าเช็ดตัวที่หยาบ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวที่รักษาเกิดการระคายเคืองหรือเกิดแผล
  8. ใช้ครีมหรือโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้นและอ่อนโยนต่อผิว เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ หรือครีมที่ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง เพื่อช่วยฟื้นฟูผิว
  9. หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในสระที่มีคลอรีนสูง การอาบน้ำทะเล หรือการออกกำลังกายที่หนักมากเกินไปเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  10. นัดติดตามผลการรักษากับแพทย์ตามกำหนด เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของการรักษาและรับคำแนะนำเพิ่มเติมตามความเหมาะสม
  11. พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือแกะเกาบริเวณที่ทำเลเซอร์ เนื่องจากอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือเกิดแผลเป็นได้

Yag Laser ราคาเท่าไร ?

Yag Laser ราคาสำหรับกำจัดขนในประเทศไทยโดยทั่วไปจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 5,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดของบริเวณที่ต้องการกำจัดขน เช่น รักแร้ ใบหน้า แขน ขา ฯลฯ และสถานที่ที่ทำการรักษา หากเป็นการกำจัดขนในบริเวณเล็ก ๆ เช่น รักแร้ หรือเหนือริมฝีปาก ราคาจะอยู่ในช่วงประมาณ 1,000 – 2,500 บาทต่อครั้ง แต่หากเป็นบริเวณที่ใหญ่ขึ้น เช่น แขนหรือขา ราคาจะสูงขึ้นไปถึง 3,000 – 5,000 บาทต่อครั้ง หรือมากกว่านั้น ราคาที่แท้จริงอาจแตกต่างไปตามสถานที่และแพทย์ผู้ให้บริการ แนะนำให้สอบถามโดยตรงจากคลินิกที่สนใจ เพื่อทราบข้อมูลที่ชัดเจนและโปรโมชั่นที่อาจมีอยู่

การทำ Yag Laser ใช้เวลากี่นาที ?

เวลาที่ใช้ในการทำจะขึ้นอยู่กับความหนาแน่นและปริมาณของเส้นขน รวมถึงความชำนาญของผู้ให้บริการและอุปกรณ์ที่ใช้ค่ะ การทำเลเซอร์กำจัดขนใช้เวลาประมาณ 15-60 นาที ต่อครั้ง บริเวณขนาดเล็ก เช่น รักแร้ ริมฝีปากบน หรือคางใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที ต่อครั้ง และบริเวณขนาดกลาง เช่น แขนหรือขาล่าง ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ต่อครั้ง และบริเวณขนาดใหญ่ เช่น ขาทั้งสองข้างหรือแผ่นหลัง อาจใช้เวลาถึง 60 นาที หรือมากกว่านั้น

การทำ Yag Laser ใช้เวลากี่นาที ?

ทำ Yag Laser มีผลข้างเคียงไหม ?

การทำ Yag Laser กำจัดขนมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นวิธีที่ปลอดภัย ผลข้างเคียงที่อาจเจอได้บ่อยคือ อาจรู้สึกเจ็บหรือมีอาการบวมแดงในบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งมักจะหายไปในไม่กี่วัน และบางครั้งอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของสีผิว เช่น สีผิวที่เข้มขึ้นหรือจางลง แต่ส่วนใหญ่จะกลับสู่สภาพปกติภายในไม่กี่สัปดาห์ และอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยระหว่างการทำเลเซอร์ ในกรณีที่หายากอาจเกิดแผลเป็นหรือการไหม้ที่ผิวหนังได้

สรุป

Yag Laser (Yttrium Aluminium Garnet) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้แสงเลเซอร์ในการกำจัดขนโดยตรงที่รากขน โดยเฉพาะเหมาะสำหรับผิวเข้มและขนหนา เพราะสามารถเจาะลึกเข้าไปในชั้นผิวหนังได้ดีและมีความปลอดภัยสูง ซึ่งช่วยลดปัญหาผิวไหม้หรือเกิดผลข้างเคียงจากการรักษา ข้อดีอีกประการหนึ่ง คือสามารถทำการรักษาได้ในสภาพอากาศที่ร้อนหรือผิวที่มีความแห้ง แตกต่างจากเลเซอร์ประเภทอื่นที่อาจไม่เหมาะกับสภาพผิวเหล่านี้ หากท่านใดสนใจในการเลเซอร์กำจัดขน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี