บทความ

Article

โบท็อกซ์ริ้วรอย ลดรอยเหี่ยวย่น กี่วันเห็นผล ต้องใช้ยี่ห้อไหน ?
Facebook
X
Email

โบท็อกซ์ริ้วรอย ลดรอยเหี่ยวย่น กี่วันเห็นผล ต้องใช้ยี่ห้อไหน ?

หัวข้อที่น่าสนใจ

ปัญหาริ้วรอยกวนใจ แก้ยังไงก็ไม่หายทำอย่างไรดี ? วันนี้แอดมินมีวิธีแก้ไขที่เห็นผลเร็ว ชัดเจน และที่สำคัญราคาไม่แพง นั้นก็คือ การฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยนั้นเอง ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นวิธีคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า จากทุกช่วงวัยต่างก็ให้ความสนใจ อีกทั้งยังเป็นการทำหัตถการที่มีความปลอดภัยและไม่ต้องพักฟื้นอีกด้วย ในบทความนี้ Lienjang Clinic Thailand จะพาทุกคนมาเจาะลึกเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยว่า ควรฉีดจุดไหน , กี่วันเห็นถึงผล , แต่ละจุดใช้กี่ยูนิต , มีข้อดีข้อเสียอย่างไร หาคำตอบได้ที่นี่

โบท็อกซ์ริ้วรอย คืออะไร ?

โบท็อกซ์ริ้วรอย คือสารที่ใช้ในการลดริ้วรอยบนใบหน้า โดยเฉพาะริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ เช่น ริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยขมวดคิ้ว และริ้วรอยตีนกา โดยการฉีดสาร  โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin A) ที่มีคุณสมบัติออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ เข้าไปในกล้ามเนื้อ เพื่อทำให้ริ้วรอยดูลดลง ผิวตึงกระชับขึ้น และยังป้องกันการเกิดริ้วรอยถาวรในอนาคตได้ด้วย

ริ้วรอยเกิดจากอะไร ?

ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจากหลายสาเหตุหลักที่มีผลกระทบต่อผิวหนัง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก

ปัจจัยภายใน

  • อายุ: เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังจะลดลง ทำให้ผิวหนังสูญเสียความกระชับและความชุ่มชื้น จึงเกิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายขึ้น
  • พันธุกรรม: เนื่องจากพันธุกรรมจะเป็นตัวกำหนดโครงสร้างและลักษณะผิวของแต่ละคน ทำให้แต่ละคนเกิดริ้วรอยเร็วหรือช้า บางหรือลึก แตกต่างกันออกไป
  • ฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงวัยหมดประจำเดือน อาจทำให้ผิวหนังแห้งและเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น

ปัจจัยภายนอก

  • การสัมผัสแสงแดด: แสงอัลตราไวโอเลต (UV) จากดวงอาทิตย์ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำลายความยืดหยุ่นของเซลล์และเกิดริ้วรอยได้เร็วขึ้น
  • การสูบบุหรี่: สารเคมีในบุหรี่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังลดการไหลเวียนของเลือดไปยังผิวหนัง ทำให้ผิวหนังได้รับสารอาหารน้อยลง
  • มลภาวะ: มลภาวะในอากาศ เช่น ฝุ่นละอองและสารพิษ สามารถทำลายผิวหนังและก่อให้เกิดการอักเสบซึ่งส่งผลให้เกิดริ้วรอย
    การขยับกล้ามเนื้อใบหน้าบ่อย ๆ การแสดงอารมณ์ซ้ำ ๆ เช่น การยิ้ม การขมวดคิ้ว หรือการยิ้ม หัวเราะสามารถทำให้กล้ามเนื้อหดตัวและเกิดริ้วรอยในบริเวณนั้นได้
  • การดื่มแอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งส่งผลให้ผิวหนังแห้งและเกิดริ้วรอยได้ง่าย
  • การพักผ่อน: การนอนหลับไม่เพียงพอและการนอนในท่าที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดริ้วรอยได้

ลักษณะของริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนใบหน้า

ริ้วรอยบนผิวหน้ามีลักษณะและรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามสาเหตุและบริเวณที่เกิดขึ้น สามารถพบได้หลัก ๆ 2 ลักษณะ ดังนี้

  • ริ้วรอยตื้น (Fine Lines): เป็นเส้นบาง ๆ ที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวของผิวหนัง พบได้บ่อยในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย เช่น รอบดวงตาและรอบปาก
  • ริ้วรอยลึก (Deep Wrinkles): เป็นเส้นลึกและชัดเจน ที่เกิดขึ้นจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง พบได้บ่อยในบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว และร่องแก้ม

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยอันตรายไหม ?

ตัวยาแต่ละยี่ห้อที่ผ่านอย.ไทยมีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นอันตราย หากฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ ใช้เทคนิคที่ถูกต้อง และใช้ปริมาณยาหรือจำนวนยูนิตที่เหมาะสม

สามารถฉีดบริเวณไหนได้บ้าง ?

การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยสามารถทำได้ในหลายบริเวณบนใบหน้า โดยบริเวณที่นิยมและได้ผลดีในการลดริ้วรอย มีดังนี้

สามารถฉีดบริเวณไหนได้บ้าง ?

บริเวณหน้าผาก

การใช้โบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยบนหน้าผาก (Forehead Lines) โดยริ้วรอยบนหน้าผากนี้เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อหน้าผาก เช่น การเลิกหน้าผากอยู่บ่อย ๆ การฉีดโบท็อกซ์จะช่วยยับยั้งกล้ามเนื้อในส่วนนี้ค่ะ

บริเวณระหว่างคิ้ว

มักจะเกิดขึ้นจากการขมวดคิ้วจนมีรอยระหว่างคิ้ว แก้ไขโดยการฉีดโบท็อกซ์ในบริเวณรอยยับระหว่างคิ้วทั้งสองข้างของใบหน้าค่ะ

โบท็อกซ์ตีนกา

การใช้โบท็อกซ์เพื่อลดตีนกา (Crow’s feet) เป็นบริเวณที่พบริ้วรอยได้บ่อยอีก 1 จุด โดยตีนกาเป็นริ้วรอยที่เกิดขึ้นที่หางตา เกิดจากการยิ้มหรือการหัวเราะค่ะ

บริเวณใต้ตา

ปัญหาริ้วรอยใต้ตา เป็นบริเวณที่เกิดริ้วรอยได้ง่ายที่สุด การฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตาจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัวชั่วคราว ริ้วรอยจางลง

บริเวณร่องแก้ม

ริ้วรอยร่องแก้ม หรือรอยย่นที่แก้ม มีสาเหตุหลักมาจากการหย่อนคล้อยของผิว การฉีดโบท็อกซ์ร่องแก้มสามารถทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยลดเลือนริ้วรอยให้จางลงได้

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยได้จริงไหม ?

การฉีดโบท็อกซ์สามารถลดริ้วรอยได้จริง โดยเฉพาะริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น ริ้วรอยหน้าผาก รอยขมวดคิ้ว และรอยตีนกา โบท็อกซ์ทำงานโดยการคลายกล้ามเนื้อที่ก่อให้เกิดริ้วรอย ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นและลดริ้วรอยที่มองเห็นได้ชัดให้จางลงได้

ฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใช้กี่ยูนิต ?

จำนวนยูนิตของโบท็อกซ์ที่ใช้ในการลดริ้วรอยจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และการประเมินของแพทย์ เนื่องจากแพทย์จะพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความลึกของริ้วรอย ขนาดของกล้ามเนื้อ และผลลัพธ์ที่ต้องการ จำนวนยูนิตโดยทั่วไปที่ใช้ในบริเวณต่าง ๆ มีดังนี้

  • หน้าผาก 20-30 ยูนิต
  • ระหว่างคิ้ว  15-25 ยูนิต
  • รอบดวงตา ตีนกา ข้างละ 12-25 ยูนิต
  • รอบปาก ร่องแก้ม 2-6 ยูนิต
  • คาง 2-6 ยูนิต
  • คอ 20-50 ยูนิต (ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการฉีด)

*ข้อควรรู้ การปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้ได้รับการประเมินที่ถูกต้องและการฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณที่เหมาะสมกับคุณ*

ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย

ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย

  1. ลดริ้วรอย ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น
  2. ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว มักเห็นผลลัพธ์ภายในไม่กี่วันหลังการฉีด
  3. เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น
  4. ป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ ลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
  5. สามารถใช้เพื่อปรับรูปหน้า เช่น การลดขนาดกราม
  6. สามารถใช้รักษาภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติที่รักแร้ ฝ่ามือ และฝ่าเท้า
  7. ช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดศีรษะแบบไมเกรนในบางคน

ความเสี่ยงของการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย

  1. ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกซ์จะเป็นผลลัพธ์ที่ชั่วคราว หลังจากนั้นต้องฉีดซ้ำ
  2. อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือแดงบริเวณที่ฉีด และในบางกรณีอาจมีอาการปวดศีรษะ หรือรู้สึกไม่สบาย
  3. หากฉีดในปริมาณมากเกินไปหรือฉีดผิดตำแหน่ง อาจทำให้เกิดปัญหา เช่น หนังตาตก ใบหน้าดูแข็ง หรือไม่เป็นธรรมชาติ ดังนั้นควรทำการฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์
  4. การแพ้ บางคนอาจมีอาการแพ้ต่อสาร Botulinum toxin

ฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย กี่วันเห็นผล ?

การฉีดโบท็อกซ์เพื่อรักษาริ้วรอยจะเริ่มเห็นผลในเวลาไม่นานหลังการฉีด โดยทั่วไปจะมีการเปลี่ยนแปลงและเห็นผลลัพธ์ได้ในช่วงเวลาต่อไปนี้

  • 3-4 วันแรก เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง โดยกล้ามเนื้อจะเริ่มคลายและริ้วรอยจะเริ่มลดลง
  • 7-14 วัน เห็นผลลัพธ์สูงสุด ริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อจะลดลงอย่างชัดเจน ผิวหน้าดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น

ผลลัพธ์การฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย อยู่ได้กี่เดือน ?

ผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด และลักษณะริ้วรอยของแต่ละบุคคล หลังจากผลลัพธ์เริ่มหมดไป กล้ามเนื้อจะกลับมาทำงานตามปกติและริ้วรอยจะกลับมาอีกครั้ง ดังนั้น หากต้องการรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ จำเป็นต้องฉีดซ้ำตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ

การฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย ราคาเท่าไร ?

ในการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย ราคาในการฉีดจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ตำแหน่งที่ฉีด ปริมาณยูนิตที่ใช้ สถานที่ให้บริการ และความชำนาญของแพทย์ โดยทั่วไปแล้วราคามักจะอยู่ในช่วงประมาณ 1,000 – 8,000 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและสถานที่

*คลิกสอบถามโปรโมชั่นและราคาโบท็อกซ์กับ Lienjang ได้ที่ @Lienjangthailand*

รีวิวโปรแกรมโบท็อกซ์ริ้วรอยที่ Lienjang

รีวิวโปรแกรมโบท็อกซ์ริ้วรอยที่ Lienjang

รีวิวโปรแกรมโบท็อกซ์ริ้วรอยที่ Lienjang

รีวิวโปรแกรมโบท็อกซ์ริ้วรอยที่ Lienjang

ฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย ยี่ห้อไหนดี ?

การเลือกยี่ห้อโบท็อกซ์ที่เหมาะสมสำหรับการลดริ้วรอยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ความชำนาญของแพทย์ และความพึงพอใจของผู้ใช้ และยี่ห้อดังต่อไปนี้เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและมีคุณภาพสูง

  1.  Allergan
    คุณสมบัติ: เป็นยี่ห้อที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและใช้ในทางการแพทย์มาเป็นเวลานาน
    ข้อดี: มีความน่าเชื่อถือสูง ผลลัพธ์ที่ได้เป็นธรรมชาติ
    การใช้งาน: นิยมใช้ในบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า รวมถึงการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ และไมเกรน
  2.  Xeomin
    คุณสมบัติ: โบท็อกซ์เยอรมัน กำจัดโปรตีนที่ไม่จำเป็นออก ทำให้โบท็อกมีความบริสุทธิ์สูง โอกาสการดื้อยาต่ำ
    ข้อดี: ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน
    การใช้งาน: เหมาะสำหรับผู้ที่มีการดื้อยา จะเห็นผลมากกว่าฉีดยี่ห้ออื่น ๆ
  3.  Neuronox
    คุณสมบัติ: ผลิตในประเทศเกาหลี
    ข้อดี: มีราคาย่อมเยาและได้รับการยอมรับในเรื่องประสิทธิภาพ
    การใช้งาน: นิยมใช้ในเอเชีย และมีผลลัพธ์ที่น่าพอใจในผู้ใช้หลายราย

การเตรียมตัวก่อนการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย

การเตรียมตัวก่อนการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอย

  1. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์ให้ละเอียด ทั้งสถานที่ฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ที่มีประสบการณ์ วิธีดูโบท็อกซ์แท้ เป็นต้น
  2. งดกินยากลุ่ม NSAIDs เช่น Aspirin, Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan
  3. งดวิตามินและอาหารเสริมบางประเภทที่มีฤทธิ์เกี่ยวกับการไหลเวียนโลหิต อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนฉีดโบท็อกซ์
  4. งดการสครับหน้า เลเซอร์ผิว บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ 2-3 วัน
  5. ก่อนการฉีดโบท็อกซ์ควรตรวจสอบโบท็อกซ์แท้จากกล่อง
  6. หากมีโรคประจำตัวควรเข้าปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีดโบท็อกซ์

ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดโบลดริ้วรอย

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันยากระจายตัวไปยังบริเวณอื่น
  2. ไม่ควรนอนคว่ำ และก้มหัวต่ำกว่าอก ประมาณ 4 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อกซ์
  3. งดเเอลกอฮอล์ อย่างน้อย 3-7 วัน
  4. ห้ามให้ใบหน้าสัมผัสความร้อน

สรุป

โดยรวมแล้วการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยถือว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาริ้วรอยได้อย่างตรงจุด และทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ผิวกระชับและเต่งตึงขึ้น นอกจากโบท็อกซ์จะฉีดลดริ้วรอยแล้ว ยังสามารถใช้ทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคบางชนิดอีกด้วย เช่น ฉีดลดเหงื่อในภาวะเหงื่อออกมาก โรคไมเกรน ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง อย่างไรก็ตามก่อนตัดสินใจ ควรตรวจสอบยี่ห้อที่ผ่านมาตรฐานอย.และรายละเอียดการบริการจากสถานพยาบาลหรือคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือและมีแพทย์ผู้ชำนาญในการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และมีความปลอดภัย

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี