หากคุณกำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับ Ultraformer เพื่อการยกกระชับและปรับรูปหน้าอยู่ อย่าพลาดในบทความนี้! ลีเอนจาง คลินิกได้รวบรวมคำตอบที่ทุกคนสงสัยเกี่ยวกับ Ultraformer ว่าเหมาะกับใครบ้าง ? ปลอดภัยหรือไม่ ? และใช้เวลาในการรักษานานเท่าไร ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ยังมีข้อสงสัยหรือคำถามที่ค้างคาใจเกี่ยวกับการทำหัตถการนี้ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและมั่นใจมากขึ้นในการตัดสินใจเลือก Ultraformer ให้เป็นตัวช่วยในการดูแลผิว อย่ารอช้ามาอ่านกันเลย!
Ultraformer ทำคู่กับการฉีดโบท็อกซ์ได้ไหม ?
การทำ Ultraformer ควบคู่กับการฉีด โบท็อกซ์ เป็นเรื่องที่ทำได้และได้รับความนิยมในวงการความงาม โดยทั้งสองวิธีนี้มีคุณสมบัติและเป้าหมายที่แตกต่างกัน ซึ่ง Ultraformer มุ่งเน้นที่การยกกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ในขณะที่ โบท็อกซ์ ช่วยลดเลือนริ้วรอยและลดการเกิดริ้วรอยจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ โดยการทำทั้งสองอย่างร่วมกันสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในเรื่องของความกระชับและความเรียบเนียนของผิว แต่ควรมีการปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้แผนการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัย
Ultraformer III กับ MPT แตกต่างกันอย่างไร ?
Ultraformer III กับ MPT เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในกระบวนการยกกระชับและปรับรูปหน้าเหมือนกัน แต่เป็นคนละรุ่นกัน มีหลักการทำงานและวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน ดังนี้
Ultraformer III ใช้เทคโนโลยี HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เพื่อส่งพลังงานคลื่นเสียงไปยังชั้นผิวลึก (SMAS) ซึ่งเป็นชั้นที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน คลื่นอัลตราซาวด์จะเน้นพลังงานไปที่จุดเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยยกกระชับผิว เหมาะสำหรับยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอย และทำให้ผิวดูตึงกระชับขึ้น สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ และจะเห็นผลชัดเจนในช่วง 2-3 เดือน
MPT (Multi-Polar Technology) เป็นการใช้คลื่นวิทยุ (RF – Radio Frequency) ในหลายทิศทางเพื่อให้ความร้อนใต้ผิวหนัง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวที่ตื้นกว่า HIFU คลื่นวิทยุจะทำให้เกิดความร้อนใต้ผิว ซึ่งช่วยในการยกกระชับผิวและลดริ้วรอยเช่นกัน แต่เน้นไปที่การฟื้นฟูสภาพผิวที่ไม่ลึกถึงชั้น SMAS เหมาะสำหรับการกระชับผิวที่หย่อนคล้อยเล็กน้อย และฟื้นฟูความเต่งตึงของผิวชั้นบน
อ่านบทวามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : Ultraformer III
Ultraformer ดีกว่า HIFU ทั่วไปอย่างไร ?
Ultraformer เป็นหนึ่งในเทคโนโลยี HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ที่พัฒนาขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเทียบกับ HIFU ทั่วไปในหลาย ๆ ด้าน จากวงการแพทย์และความงามได้มีการยอมรับว่า Ultraformer ดีกว่า HIFU ในเรื่องของความแม่นยำ ความรวดเร็ว ผลลัพธ์ที่ยาวนาน และความสะดวกสบายขณะรักษา อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้ในบริเวณอื่น ๆ ของร่างกายด้วย ทำให้เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นอย่างโดดเด่นและได้รับความนิยมมากขึ้น
การทำ Ultraformer ปลอดภัยไหม ?
การทำ Ultraformer ถือว่าเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและได้รับความนิยมในการยกกระชับผิว มีผลข้างเคียงน้อย ไม่มีการผ่าตัด และพลังงานที่ใช้สามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำ โดยใช้เทคโนโลยีที่ได้รับการรับรอง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาในหลายประเทศ รวมถึง US FDA และยังมีการใช้งานทั่วโลกในด้านการยกกระชับและลดริ้วรอย ที่ผ่านการทดสอบทางคลินิกและงานวิจัยจำนวนมาก
ใช้เวลาในการรักษานานเท่าไร ?
การทำ Ultraformer เป็นการรักษาที่รวดเร็วเมื่อเทียบกับการยกกระชับแบบอื่น ๆ ระยะเวลาที่ใช้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษา เช่น บริเวณใบหน้า ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ที่ต้องการยกกระชับและความต้องการในการปรับแต่งรูปหน้า ส่วนบริเวณเล็ก ๆ บนใบหน้า เช่น รอบดวงตา หรือแก้ม ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที เนื่องจากมีการทำงานที่ครอบคลุมและส่งพลังงานอย่างแม่นยำ จึงสามารถประหยัดเวลาได้มากในการทำแต่ละครั้ง
ต้องทำการรักษาบ่อยแค่ไหน ?
ไม่จำเป็นต้องทำการรักษาบ่อยมากนัก เนื่องจากผลลัพธ์ของการยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยีนี้มีความยาวนานและเห็นผลชัดเจนในระยะยาว ทั้งนี้ความถี่ในการทำขึ้นอยู่กับลักษณะผิวของแต่ละคนและความต้องการเฉพาะ แนะนำให้ทำ 1 ครั้งต่อปี เพื่อรักษาผลลัพธ์และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก อาจพิจารณาทำซ้ำทุก 6 เดือน เพื่อรักษาความยกกระชับอย่างต่อเนื่องค่ะ
ในการทำ Ultraformer ราคาอยู่เท่าไร ?
ค่าใช้จ่ายในการทำ Ultraformer ราคาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น บริเวณที่ทำ จำนวนช็อตที่ใช้ รวมถึงคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ให้บริการ โดยทั่วไปแล้ว ราคาจะมีความแตกต่างกันตามขนาดพื้นที่และความซับซ้อนของการรักษา โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายจะเริ่มต้นที่ 4000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตและพื้นที่ที่ทำการรักษา ยิ่งใช้จำนวนช็อตมาก ราคาก็จะสูงขึ้น เนื่องจากแต่ละพื้นที่ต้องการจำนวนช็อตต่างกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีค่ะ
มีข้อจำกัดในการทำ Ultraformer หรือไม่ ?
แม้ว่า Ultraformer จะเป็นวิธีการยกกระชับผิวที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดและข้อควรระวังที่ควรพิจารณาอยู่ เพื่อให้มั่นใจว่าการรักษาจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด และข้อจำกัดในการทำนั้นก็คือ
- ผู้ที่มี ปัญหาผิวหนังอักเสบ แผลเปิด หรือติดเชื้อในบริเวณที่จะทำ ควรหลีกเลี่ยงการทำ จนกว่าบริเวณผิวหนังจะหายเป็นปกติ
- ผู้ที่มี โรคผิวหนังที่รุนแรง เช่น โรคเรื้อนกวาง โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคผิวหนังอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- ผู้ที่มี ภาวะเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วย HIV หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง (autoimmune disease) อาจต้องปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมก่อนการรักษา
- ผู้ที่มี เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ควรหลีกเลี่ยงการทำ เพราะอาจเกิดการรบกวนกับการทำงานของอุปกรณ์
- ผู้ที่มีการปลูกถ่ายโลหะ หรือวัสดุที่ฝังอยู่ในบริเวณที่จะทำการรักษา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความปลอดภัย
- ผู้ที่มีผิวหนังบางหรือมี ชั้นไขมันใต้ผิวที่น้อยมาก อาจไม่เหมาะสมกับการทำ ในบางบริเวณ เนื่องจากการใช้พลังงาน HIFU สามารถลงไปถึงชั้น SMAS และอาจทำให้ผิวดูตอบลงได้
ผู้สูงอายุสามารถทำ Ultraformer ได้ไหม ?
ผู้สูงอายุสามารถทำได้ แต่ควรพิจารณาเป็นกรณีไปตามสภาพผิวและสุขภาพโดยรวมของแต่ละบุคคล เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะสูญเสียคอลลาเจนและความยืดหยุ่น ทำให้มีความหย่อนคล้อยมากขึ้น กระบวนการของ Ultraformer คือการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ อาจยังคงได้ผล แต่ความชัดเจนอาจน้อยกว่าในผู้ที่อายุน้อย เนื่องจากการสร้างคอลลาเจนในผู้สูงอายุอาจช้าลง ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมของการรักษา
เครื่อง Ultraformer นำเข้าจากประเทศอะไร ?
โดยเฉพาะรุ่น Ultraformer III เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาและผลิตโดยบริษัท Classys Inc. ซึ่งเป็นบริษัทจากประเทศ เกาหลีใต้ (South Korea) เครื่องนี้ได้รับการออกแบบและพัฒนาเพื่อให้บริการการยกกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วยเทคโนโลยี HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงการเสริมความงามทั่วโลก เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยีความงามและการดูแลผิว จึงเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพ
เช็คเครื่อง ultraformer แท้ แท้หรือของปลอมยังไง ?
การตรวจสอบว่าเครื่อง เป็นของแท้หรือของปลอมสามารถทำได้โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ตรวจสอบจากผู้จัดจำหน่ายที่เชื่อถือได้ ตรวจสอบที่มาของเครื่อง สังเกตคุณภาพของเครื่อง และประสบการณ์ของผู้ให้บริการ เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่อง Ultraformer ที่ใช้เป็นของแท้ ควรเลือกใช้บริการจากคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีชื่อเสียงและมีการรับรองจากผู้ผลิต เพื่อความมั่นใจในการรักษา
Ultraformer vs Ulthera ต่างกันยังไง ?
Ultraformer vs Ulthera เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการยกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (HIFU – High-Intensity Focused Ultrasound) เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันในด้านการทำงาน และระยะเวลาในการเห็นผล โยมีความแตกต่างกันดังนี้
Ultraformer : ใช้เทคโนโลยี HIFU ที่มีความแม่นยำสูง โดยสามารถปรับพลังงานและความลึกในการรักษาได้หลากหลาย ทำให้สามารถเลือกใช้ตามความต้องการของผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม มีการปรับความลึกของการรักษาได้ตั้งแต่ 1.5 mm ถึง 13 mm ทำให้สามารถรักษาได้ทั้งบริเวณผิวหนังชั้นนอกและชั้นลึก ผลลัพธ์มักเห็นได้เร็วกว่า และมักมีราคาและระยะเวลาการทำที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตที่ใช้และบริเวณที่ทำการรักษา
Ulthera : ใช้เทคโนโลยี ซึ่งเป็นเทคโนโลยี HIFU ที่ได้รับการรับรองจาก FDA โดยการส่งพลังงานไปยังชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ที่อยู่ลึกในผิวหนัง การรักษาใน Ulthera มักมีความลึกในการรักษาที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะมีความลึกประมาณ 4.5 mm และ 3.0 mm ผลลัพธ์อาจใช้เวลานานกว่าในการแสดงออก เนื่องจากกระบวนการสร้างคอลลาเจนต้องใช้เวลา ราคาอาจสูงกว่าขึ้นอยู่กับบริการและเทคโนโลยีที่ใช้
อ่านบทวามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : ความแตกต่างระหว่าง ultraformer iii vs ulthera
ทำ Ultraformer เจ็บไหม ?
ความรู้สึกในระหว่ารักษามักจะรู้สึกเจ็บน้อยกว่าการรักษาด้วยเครื่องอื่น ๆ ที่ใช้เทคโนโลยี HIFU เหมือนกัน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลและบริเวณที่ทำการรักษา โดยหลายคนที่เคยทำได้มีการรีวิวว่ามีอาการรู้สึกตึงหรือเจ็บเล็กน้อยขณะทำการรักษา แต่ไม่ถึงกับเจ็บมาก โดยทั่วไปแล้วจะรู้สึกเหมือนมีการกดเบา ๆ ที่ผิวหนัง ความรู้สึกเจ็บหรือไม่เจ็บขึ้นอยู่กับความอดทนต่อความเจ็บปวดของแต่ละบุคคล หากคุณมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวดในระหว่างการรักษา ควรพูดคุยกับแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับความต้องการและความสบายของคุณ
ทำ Ultraformer กี่วันเห็นผล ?
ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังการรักษา แต่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจะปรากฏชัดเจนขึ้นในระยะเวลา ประมาณ 2-3 เดือน หลังจากการทำ เนื่องจากการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจะใช้เวลาในการพัฒนาตัวเอง บางคนอาจรู้สึกถึงความกระชับของผิวในทันทีหลังการทำ แต่โดยทั่วไปแล้วผลลัพธ์นี้อาจไม่คงที่เนื่องจากยังมีอาการบวมอยู่ ควรมีการติดตามผลและปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลลัพธ์หรือการดูแลผิวหลังการรักษา
หลังทำ Ultraformer ออกกำลังกายได้ไหม ?
หลังจากทำ Ultraformer คุณสามารถออกกำลังกายได้ แต่ควรระมัดระวังในช่วงแรกหลังการรักษา โดยทั่วไปแล้วมีข้อแนะนำสามารถเริ่มออกกำลังกายได้หลังจาก 24-48 ชั่วโมง แต่ควรเริ่มจากการออกกำลังกายเบา ๆ และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่หนักหน่วงในช่วงแรก เพื่อให้ผิวได้ฟื้นตัวและลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการบวมและระคายเคือง
หลังทำ Ultraformer ดื่มแอลกอฮอร์ได้ไหม ?
ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เนื่องจากแอลกอฮอล์สามารถมีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของผิวหนังและอาจทำให้เกิดอาการบวมและระคายเคืองได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้กระบวนการสร้างคอลลาเจนช้าลง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูผิวหลังการรักษา จะช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงต่ออาการบวมและระคายเคือง
หลังทำ Ultraformer กินปลาร้าได้ไหม ?
การรับประทาน ปลาร้า หรืออาหารที่มีรสจัด ควรระมัดระวัง เนื่องจาก ปลาร้ามีรสเค็มและมีรสจัด ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารหรือระบบย่อยอาหารได้ โดยเฉพาะในช่วงหลังการทำ เมื่อร่างกายกำลังฟื้นตัว ดังนั้นการรับประทานปลาร้าสามารถทำได้ แต่ควรระมัดระวังและดูว่าร่างกายตอบสนองอย่างไร ควรเลือกอาหารที่มีรสชาติอ่อนและมีประโยชน์ต่อร่างกายในช่วงฟื้นตัวเพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้ดีที่สุด
หลังทำต้องพักฟื้นนานไหม ?
โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน เนื่องจากเป็นการรักษาที่ไม่ทำให้เกิดบาดแผลภายนอก โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันที อย่างไรก็ตาม อาจมีอาการบวม แดง หรือรู้สึกตึง ในบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันแรก แต่โดยทั่วไปจะลดลงและหายไปภายในเวลาไม่นาน ควรดูแลตัวเองในช่วง 1-2 วันแรกเพื่อให้ผิวฟื้นตัวอย่างเหมาะสม หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
Ultraformer กี่ช็อตเห็นผล ?
จำนวนช็อตที่ใช้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น บริเวณที่ต้องการทำการยกกระชับ จะมีจำนวนช็อตที่แตกต่างกันไป และสภาพผิวและความต้องการของแต่ละคน บางคนอาจต้องการผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นจึงต้องใช้ช็อตมากขึ้น โดยทั่วไป สำหรับใบหน้าอาจใช้ประมาณ 200-500 ช็อต และจำนวนช็อตที่ใช้ไม่ได้บ่งบอกถึงคุณภาพของผลลัพธ์เสมอไป แต่การใช้ช็อตที่เพียงพอในบริเวณที่ต้องการจะช่วยให้เห็นผลได้ดีขึ้น
Ultraformer เหมาะกับอายุเท่าไร ?
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีการลดลงของคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิว การทำ Ultraformer ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องทำ เนื่องจากผิวมักยังมีความยืดหยุ่นและยังไม่มีปัญหาหย่อนคล้อยหรือริ้วรอยที่เด่นชัด อย่างไรก็ตาม หากมีปัญหาผิวหรือความต้องการในการป้องกันริ้วรอย สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมได้ค่ะ
สรุป
คำถามเกี่ยวกับ Ultraformer ข้างต้น เป็นคำถามยอดนิยมที่พบบ่อยในผู้ที่สนใจในการทำ ไม่ว่าจะเป็นคำถามเกี่ยวกับระยะเวลาในการทำ ความปลอดภัย และจำนวนช็อตที่ใช้ในการรักษา ลีเอนจาง คลินิกจึงอาสาเป็นตัวแทนในการไขข้อสงสัยเหล่านี้ เพื่อให้คุณได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและมั่นใจในการตัดสินใจเลือก Ultraformer เป็นตัวช่วยในการปรับรูปหน้าและยกกระชับผิวอย่างมีประสิทธิภาพ หวังว่าคำตอบเหล่านี้จะช่วยคลายความกังวัลและข้อสงสัยค่ะ หากท่านใดมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand หรือสามารถเข้ามาติดต่อโดยตรงที่ Lienjang Clinic Thailand ทุกสาขา