หากคุณกำลังเผชิญกับอาการออฟฟิศซินโดรมที่ทำให้รู้สึกปวดเมื่อยบริเวณคอ บ่า และไหล่อยู่ โบท็อกไหล่ช่วยคุณได้! ด้วยคุณสมบัติในการคลายกล้ามเนื้อของโบท็อกจึงทำให้ไหล่ดูเล็กลง การฉีดโบท็อกช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คุณในทุกโอกาส ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานออฟฟิศที่นั่งทำงานเป็นเวลานาน หรือคนที่ต้องเผชิญกับอาการเกร็งของกล้ามเนื้อจากการทำงานหนัก
ลีเอนจาง คลินิกจึงจะพาคุณไปรู้จักกับโบท็อกไหล่ให้มากขึ้น ตั้งแต่ประโยชน์และวิธีการทำงาน ไปจนถึงการดูแลตัวเองหลังการฉีด ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่ยังไม่เคยลอง หรือผู้ที่สนใจในความงามและสุขภาพ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งช่วยให้คุณมีรูปร่างที่สวยงามมีสุขภาพที่ดี
มาทำความรู้จักกับโบท็อกไหล่
โบท็อกไหล่เป็นการฉีดโบท็อกในบริเวณกล้ามเนื้อไหล่เพื่อลดความหนาของกล้ามเนื้อและทำให้ไหล่ดูเล็กและเรียวมากขึ้น โดยจะเน้นไปที่กล้ามเนื้อที่ชื่อว่า “ทราพีเซียส” (trapezius) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อใหญ่ที่อยู่บริเวณไหล่และคอด้านหลัง การฉีดโบท็อกในบริเวณนี้ช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อ ทำให้รูปทรงของไหล่ดูเพรียวขึ้นและยังช่วยให้ไหล่และคอดูยาวขึ้น
เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกว่ามีกล้ามเนื้อไหล่หนาหรือใหญ่จนทำให้หุ่นดูตัน อีกทั้ง การฉีดโบท็อกในกล้ามเนื้อไหล่ยังอาจช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการเมื่อยล้าได้บ้างในบางกรณี เพราะกล้ามเนื้อจะได้รับการคลายตัวจากสารโบท็อก
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : โบท็อก
การฉีดโบท็อกไหล่ อันตรายไหม ?
การฉีดโบท็อกไหล่โดยทั่วไปถือว่ามีความปลอดภัยเมื่อดำเนินการโดยแพทย์ เนื่องจากเป็นการใช้โบท็อกในปริมาณที่เหมาะสมและฉีดลงไปในกล้ามเนื้อเฉพาะจุด อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น อาการปวด บวม แดง หรือช้ำ ที่อาจเกิดขึ้นในบริเวณที่ฉีด แต่จะหายไปเองภายในไม่กี่วัน และ อาจมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง หากฉีดโบท็อกในปริมาณที่มากเกินไปหรือในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้กล้ามเนื้อรอบ ๆ อ่อนแรงและขยับลำบาก
บางคนอาจแพ้โบท็อก ซึ่งอาจมีอาการคัน บวมแดง หรือในกรณีที่รุนแรงอาจมีอาการหายใจลำบากหรือบวมที่ใบหน้า และหากโบท็อกไหลไปยังกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ อาจทำให้เกิดปัญหาในการขยับกล้ามเนื้อหรือทำให้ท่าทางของคอและไหล่เปลี่ยนไป เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้ ควรเข้ารับการฉีดโบท็อกจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ในสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง
อาการออฟฟิศซินโดรม สาเหตุเกิดจากอะไร ?
อาการออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) เกิดจากการทำงานในท่าทางที่ไม่เหมาะสมต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่นั่งทำงานในสำนักงานหรือต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ สาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้
- ท่าทางการนั่งไม่ถูกต้อง : นั่งทำงานโดยไม่ปรับระดับเก้าอี้และโต๊ะให้เหมาะสม เช่น นั่งหลังงอ ไหล่ห่อ หรือนั่งคอเอียง ทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อต้องรับน้ำหนักมากเกินไป
- การใช้กล้ามเนื้อซ้ำ ๆ : การใช้กล้ามเนื้อเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน เช่น การพิมพ์งานหรือใช้เมาส์ตลอดเวลา อาจทำให้กล้ามเนื้อตึงตัวและเกิดอาการปวดเรื้อรังได้
ขาดการพักผ่อนและการเคลื่อนไหว : การนั่งทำงานนาน ๆ โดยไม่ลุกขึ้นเดินหรือยืดเส้นยืดสาย ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี และกล้ามเนื้อเริ่มตึงเกร็ง - ความเครียดสะสม : ความเครียดจากการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันอาจทำให้กล้ามเนื้อตึงเครียดมากขึ้น เพราะร่างกายจะเกร็งโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้
- สภาพแวดล้อมการทำงานไม่เหมาะสม : เช่น แสงสว่างไม่เพียงพอ อุณหภูมิไม่เหมาะสม หรือการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ถูกต้อง ทำให้ต้องปรับตัวด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสม
โบท็อกไหล่ช่วยลดอาการออฟฟิศซินโดรมได้ยังไง ?
โบท็อกไหล่สามารถช่วยลดอาการออฟฟิศซินโดรมได้โดยการฉีดสารโบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum toxin) เข้าไปในกล้ามเนื้อทราพีเซียส (trapezius) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อใหญ่ที่มักจะตึงตัวในผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรม โดยเฉพาะคนที่นั่งทำงานนาน ๆ หรือนั่งทำท่าทางที่ไม่เหมาะสม โบท็อกช่วยลดอาการเหล่านี้ได้ด้วยหลักการทำงานดังต่อไปนี้
- ลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ : โบท็อกจะออกฤทธิ์ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายลง ทำให้ความตึงและเกร็งของกล้ามเนื้อทราพีเซียสลดลง ซึ่งช่วยลดอาการปวดบริเวณคอ บ่า และไหล่ที่มักเกิดในคนที่มีออฟฟิศซินโดรม
- ลดแรงกดทับเส้นประสาท : เมื่อกล้ามเนื้อทราพีเซียสผ่อนคลายลง แรงกดทับที่ส่งผลต่อเส้นประสาทที่อยู่ในบริเวณไหล่และคอก็ลดลง ทำให้รู้สึกสบายและลดความปวดเมื่อยได้
- ลดอาการปวดหัวจากความตึงของกล้ามเนื้อ : สำหรับบางคน การตึงของกล้ามเนื้อทราพีเซียสอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวร่วมด้วย การฉีดโบท็อกในบริเวณนี้ช่วยลดโอกาสการเกิดปวดหัวได้
อย่างไรก็ตาม การฉีดโบท็อกไหล่เพื่อลดอาการออฟฟิศซินโดรมอาจเป็นการบรรเทาอาการชั่วคราว และควรทำควบคู่กับการปรับพฤติกรรม เช่น การปรับท่าทางการนั่ง การยืดเส้นยืดสาย และการออกกำลังกายที่เน้นกล้ามเนื้อหลังและไหล่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
ใครบ้างที่ควรฉีดโบท็อกไหล่ ?
การฉีดโบท็อกไหล่เหมาะสำหรับบุคคลที่มีลักษณะหรือปัญหาดังนี้
- ผู้ที่มีไหล่ใหญ่หรือกล้ามเนื้อไหล่หนา : สำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อทราพีเซียสหนาเกินไป ทำให้ไหล่ดูใหญ่ การฉีดโบท็อกช่วยลดความหนาของกล้ามเนื้อ ทำให้ไหล่ดูเรียวและเพรียวมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงของไหล่และคอ : คนที่อยากให้ไหล่และคอดูยาวขึ้นหรือดูมีสัดส่วนมากขึ้น การฉีดโบท็อกจะช่วยปรับรูปร่างของไหล่ให้ดูเรียวและช่วยให้คอมีสัดส่วนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
- ผู้ที่มีอาการปวดเมื่อยจากออฟฟิศซินโดรม : สำหรับผู้ที่มีอาการปวดไหล่ บ่า และคอจากการทำงานในท่าทางที่ไม่เหมาะสม การฉีดโบท็อกช่วยลดการตึงและเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำให้อาการปวดเมื่อยลดลงได้
- ผู้ที่มีกล้ามเนื้อตึงเครียดสะสม : คนที่ทำงานหนัก หรือต้องออกแรงที่กล้ามเนื้อบริเวณไหล่และบ่าอยู่เสมอ ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อทราพีเซียสตึงเครียด การฉีดโบท็อกสามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อและลดความตึงเครียดได้
- ผู้ที่มีอาการปวดหัวจากกล้ามเนื้อตึง : สำหรับบางคนที่มีอาการปวดหัวหรือไมเกรนจากกล้ามเนื้อไหล่ที่ตึง การฉีดโบท็อกอาจช่วยลดอาการปวดหัวได้เนื่องจากกล้ามเนื้อคลายตัว
โบท็อกไหล่ ช่วยอะไรบ้าง ?
นอกจากจะช่วยเรื่องของออฟฟิสซินโดมแล้วโบท็อกไหล่ยังมีประโยชน์หลายอย่าง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อไหล่ใหญ่หรือมีอาการปวดเมื่อยบริเวณไหล่และคอ ประโยชน์หลัก ๆ ของโบท็อกไหล่มีดังนี้
- ลดขนาดของไหล่ให้ดูเรียวขึ้น : โบท็อกจะช่วยลดความหนาของกล้ามเนื้อทราพีเซียส (trapezius) ทำให้ไหล่ดูเล็กและเพรียวขึ้น ซึ่งทำให้รูปร่างโดยรวมดูสมส่วนมากขึ้น
- ทำให้คอดูยาวและเรียวขึ้น : เมื่อกล้ามเนื้อไหล่ลดขนาดลง จะช่วยให้คอมีสัดส่วนที่ชัดเจนและดูยาวขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่อยากได้ลุคที่ดูปราดเปรียว
- ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวจากความตึงของกล้ามเนื้อ: กล้ามเนื้อทราพีเซียสที่ตึงเครียดอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวหรือไมเกรนได้ การฉีดโบท็อกช่วยคลายกล้ามเนื้อ ทำให้อาการปวดหัวลดลง
- เพิ่มความสบายในการเคลื่อนไหวไหล่และคอ : เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัวลง การเคลื่อนไหวของไหล่และคอจะสะดวกสบายมากขึ้น และลดโอกาสการเกิดตึงเกร็ง
- ปรับบุคลิกภาพ : การมีไหล่ที่ดูเรียวขึ้นช่วยให้ท่าทางการยืนและนั่งดูดีขึ้น ทำให้ดูมีบุคลิกภาพที่สง่างามยิ่งขึ้น
ต้องฉีดโบท็อกไหล่ กี่ยูนิต ?
ปริมาณยูนิตของโบท็อกที่ใช้ในการฉีดไหล่จะขึ้นอยู่กับขนาดของกล้ามเนื้อทราพีเซียส (trapezius) และความต้องการในการลดขนาดหรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ สำหรับคนที่มีขนาดกล้ามเนื้อไม่ใหญ่มาก และต้องการให้ไหล่ดูเรียวขึ้นเล็กน้อย ปกติแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 50 ยูนิตต่อข้าง และสำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อหนาหรือใหญ่พอสมควร ต้องการลดขนาดกล้ามเนื้อให้ชัดเจนขึ้น จะอยู่ที่ประมาณ75-100 ยูนิตต่อข้าง อย่างไรก็ตาม การกำหนดจำนวนยูนิตที่แน่นอนควรได้รับการประเมินจากแพทย์ เนื่องจากต้องพิจารณาสภาพกล้ามเนื้อและผลลัพธ์ที่ต้องการ
ฉีดโบท็อกไหล่ กี่วันเห็นผล ?
หลังจากฉีดโบท็อกไหล่กล้ามเนื้อจะคลายตัวลงจะรู้สึกปวดน้อยลงและสบายตัวขึ้นทันที และจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยเริ่มรู้สึกว่ากล้ามเนื้อผ่อนคลายและไม่ตึงเกร็งเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ในการลดขนาดของกล้ามเนื้อจนเห็นชัดเจนจะปรากฏประมาณ 4-6 สัปดาห์หลังการฉีด ซึ่งไหล่จะดูเรียวและคอดูยาวขึ้นตามที่ต้องการ
วิธีการดูแลตนเองหลังฉีดโบท็อกไหล่กว้าง
หลังจากฉีดโบท็อกไหล่กว้าง การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่นานและลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงได้ คำแนะนำในการดูแลหลังฉีดมีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด : ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส นวด หรือกดจุดบริเวณไหล่ที่ฉีดโบท็อกอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้สารโบท็อกไหลไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่น
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ใช้กล้ามเนื้อไหล่มาก ๆ : ควรงดการยกของหนัก ออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่ต้องใช้กล้ามเนื้อไหล่มาก ๆ ในช่วง 1-2 วันแรก
- หลังฉีด เพื่อให้โบท็อกเริ่มทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- งดการทำทรีตเมนต์ความร้อน : ควรงดการอบซาวน่า อบไอน้ำ หรือทำทรีตเมนต์ความร้อน เช่น การใช้เครื่องประคบร้อน หรืออาบน้ำร้อนจัด เป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพราะความร้อนอาจลดประสิทธิภาพของโบท็อก
- ดื่มน้ำมาก ๆ : การดื่มน้ำเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้ดีและช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้น
- งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ : ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่อย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีด เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนเลือด และทำให้ร่างกายฟื้นตัวช้าลง
ควรฉีดโบท็อกไหล่บ่อยได้แค่ไหน ?
การฉีดโบท็อกไหล่โดยปกติจะให้ผลลัพธ์ประมาณ 4-6 เดือน หลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อย ๆ ฟื้นฟูตัวเองและกลับมาเป็นปกติ ดังนั้น หากต้องการคงผลลัพธ์ให้ไหล่เรียวและไม่ตึงเกร็งเหมือนเดิม ควรฉีดซ้ำทุก ๆ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนและการตอบสนองต่อโบท็อก การฉีดโบท็อกไม่ควรทำบ่อยเกินไป เช่น ทุก 2-3 เดือน
เพราะการฉีดถี่เกินไปอาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงถาวรหรือเกิดการดื้อโบท็อกได้ ซึ่งจะทำให้การรักษาในครั้งต่อ ๆ ไปได้ผลน้อยลง การปรึกษาแพทย์เพื่อกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมระหว่างการฉีดแต่ละครั้งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแพทย์จะสามารถประเมินได้ว่าควรฉีดซ้ำเมื่อไรเพื่อความปลอดภัย
ฉีดโบท็อกไหล่ อยู่ได้นานไหม ?
ผลของการฉีดโบท็อกไหล่จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณยูนิตที่ใช้ในการฉีด ซึ่งจะมีผลต่อระยะเวลาในการคงผลลัพธ์ หากฉีดในปริมาณที่มากขึ้นอาจทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น และผู้ที่มีกล้ามเนื้อหนาหรือใหญ่จะต้องฉีดโบท็อกในปริมาณที่มากขึ้นและอาจใช้เวลานานกว่ากว่าจะฟื้นตัวรวมถึงพฤติกรรมประจำวัน เช่น การออกกำลังกาย การทำงานหนัก หรือการมีท่าทางที่ไม่เหมาะสม สามารถมีผลต่อระยะเวลาที่โบท็อกจะอยู่ในร่างกาย
การตอบสนองต่อโบท็อก แต่ละคนมีการตอบสนองต่อโบท็อกแตกต่างกัน บางคนอาจพบว่าผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าในขณะที่บางคนอาจจะอยู่ได้น้อยกว่า หากต้องการคงผลลัพธ์ให้ยาวนานขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการดูแลและปรับพฤติกรรมที่เหมาะสมในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยสามารถทำได้เช่น การรักษาท่าทางที่ถูกต้อง การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
โบท็อกไหล่ ราคาเท่าไร ?
โบท็อกไหล่ ราคามักขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คลินิกที่ให้บริการ ประสบการณ์ของแพทย์ และจำนวนยูนิตที่ต้องใช้ โดยทั่วไปแล้ว ราคาประมาณ 8,000 – 15,000 บาทต่อครั้ง หรืออาจสูงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณโบท็อกที่ใช้และประเภทของผลิตภัณฑ์ที่คลินิกเลือกใช้ เพื่อให้ได้ราคาที่ชัดเจน ควรติดต่อสอบถามจากคลินิกที่คุณสนใจโดยตรง หรือขอคำปรึกษาเพื่อประเมินราคาที่เหมาะสมตามสภาพของคุณ รวมถึงตรวจสอบโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจที่คลินิกมีให้บริการในขณะนั้นด้วย
ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและโปรโมชั่นโบท็อกประจำเดือนนี้ “คลิกดูโปรโมชั่น”
โปรแกรมราชินีไหล่เหลี่ยมที่สุดปังของลีเอนจาง
โปรแกรมราชินีไหล่เหลี่ยมที่ลีเอนจาง คลินิก เน้นการฉีดโบท็อกเพื่อช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อไหล่ ทำให้ไหล่ดูเรียวและสวยงามยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงให้มีความสมส่วนมากขึ้น และยังช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเกร็ง และสามารถบรรเทาอาการปวดบริเวณไหล่ คอ และบ่าที่เกิดจากการนั่งทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสม เป็นการรักษาที่มีประโยชน์ทั้งในด้านความงามและสุขภาพ
ที่ลีเอนจางคลินิก มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อก ทำให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการรักษา ด้วยข้อดีเหล่านี้ โปรแกรมราชินีไหล่เหลี่ยมที่ลีเอนจางคลินิกจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างไหล่และบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรมในเวลาเดียวกัน หากท่านใดสนใจโปรแกรมและรับโปรโมชั่นราชินีไหล่เหลี่ยม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand
สรุป
โบท็อกไหล่เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการออฟฟิศซินโดรม ซึ่งเกิดจากความตึงเครียดของกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ คอ และบ่า โดยการฉีดโบท็อกจะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงและลดความเจ็บปวด ทำให้รู้สึกสบายและเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยปรับรูปร่างของไหล่ให้ดูเรียวขึ้น ซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความมั่นใจในบุคลิกภาพ สำหรับผู้ที่ทำงานในออฟฟิศหรือมีไลฟ์สไตล์ที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน การฉีดโบท็อกไหล่จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการรักษาอาการปวดเมื่อยและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น