บทความ

Article

ลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วัน แบบเร่งด่วนทำอย่างไร ?
Facebook
X
Email

ลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วัน แบบเร่งด่วนทำอย่างไร ?

หัวข้อที่น่าสนใจ

เมื่อพูดถึงปัญหาเหนียงหย่อนคล้อย ก็มักจะมีปัญหาในเรื่องของไขมันสะสมใต้คางเยอะทำให้คางมีลักษณะหลายชั้น ดูไม่กระชับ หรือที่เรียกกันว่าเหนียง จนทำให้เราสูญเสียความมั่นใจได้ ซึ่งเหนียงใต้คางสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทุกช่วงอายุวัย และไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ ปัญหากวนใจนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ 

วันนี้ Lienjang Clinic Thailand นำวิธีลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วัน มาฝาก มีทั้งวิธีแก้ไขและเคล็ดลับในการลดไขมันใบหน้าบริเวณเหนียงใต้คาง ซึ่งแต่ละวิธีเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับหลาย ๆคนที่กำลังกังวลกับปัญหานี้ และเป็นวิธีที่เห็นผลไว เพื่อให้รูปหน้ากลับมาเรียวสวย เห็นกรอบหน้าชัด ถ่ายรูปมุมไหนก็ดูดีมีมิติ และที่สำคัญช่วยเพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยจะมีวิธีไหนบ้างและสาเหตุของการเกิดเหนียงคืออะไร เรามาดูกันได้เลย

เหนียงใต้คางคืออะไร?

ก่อนที่จะไปดูวิธีลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วัน เรามาทำความรู้จักกับเหนียงกันก่อนว่าคืออะไร เหนียงใต้คางหรือที่เรียกว่า double chin เป็นการสะสมของไขมันบริเวณใต้คางและคอมากเกินไป ซึ่งทำให้คอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวหนังเสื่อมสภาพลง จึงส่งผลให้เกิดการหย่อนคล้อยของผิวหนังและไม่กระชับ จนเกิดเป็นรอยพับใต้เนื้อคาง ทำให้เกิดเหนียงขึ้นมานั่นเอง

เหนียงใต้คางคืออะไร?

เหนียงใต้คางเกิดจากอะไร? สาเหตุมาจากไหน?

เหนียงใต้คางเกิดจากการสะสมของไขมันที่อยู่ใต้บริเวณคางและคอ สาเหตุหลักที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเหนียงใต้คาง ได้แก่

  1. พันธุกรรม: สามารถเกิดขึ้นได้จากพันธุกรรมโดยกำเนิด
  2. การหย่อนคล้อยของผิวหนัง: เกิดจากการมีอายุมากขึ้น โดยกล้ามเนื้อ (Platysma) กล้ามเนื้อส่วนนี้จะหย่อนคล้อย แล้วดึงหน้าส่วนล่างของเราให้ตกลงไปตามแรงโน้มถ่วง
  3. ฮอร์โมนร่างกาย: การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน อาจมีผลในการสะสมไขมันใต้คาง เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิงหรือเพศชาย
  4. พฤติกรรมการใช้ชีวิต: การนอนเล่นโทรศัพท์มือถือที่ต้องอาศัยการกดหน้าลงอยู่เป็นประจำ และการนอนดึกหรือกินดึกทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานไม่ดีพอ
  5. การรับประทานอาหาร: อาหารที่รับประทานอาจมีผลต่อการสะสมไขมันใต้คาง เช่น การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงหรืออาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตที่สูงอาจทำให้เกิดเหนียงใต้คางได้
  6. ขาดการออกกำลังกาย: การขาดการออกกำลังกายและการมีพฤติกรรมที่ส่งผลต่อการเผาผลาญไขมัน อาจทำให้เกิดการสะสมไขมันใต้คางได้

เหนียงใต้คางมีกี่ระดับ เช็คว่าตนเองมีเหนียงหรือไม่!

เหนียงใต้คางมี 3 ระดับหลัก ๆ ซึ่งสามารถเช็คเบื้องต้นได้ด้วยตนเองง่าย ๆ ดังนี้

  1. ระดับเบา (Mild): เหนียงใต้คางมีลักษณะน้อย มักจะมีการสะสมของไขมันเล็กน้อย ซึ่งอาจไม่มีการแสดงผลที่ชัดเจนมาก เมื่อมองดูอาจจะสังเกตุได้ยาก ให้เช็คโดยการรูปถ่ายตนเองมุมหันข้างต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด
  2. ระดับปานกลาง (Moderate): เหนียงใต้คางมีลักษณะปานกลาง มักจะมีการสะสมไขมันที่มากขึ้น ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้นที่บริเวณคอและบริเวณคาง สามารถตรวจสอบได้ด้วยการมองจากด้านข้างผ่านกระจก และสามารถใช้มือสัมผัสบริเวณใต้คางได้
  3. ระดับรุนแรง (Severe): เหนียงใต้คางมีลักษณะมาก มีการสะสมไขมันที่มาก ทำให้ช่วงคอและบริเวณคางมีความหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัดเจน และมีขนาดใหญ่เป็นคางสองชั้นทำให้สังเกตุเห็นได้ง่าย 

เหนียงใต้คาง ลดยังไง

เหนียงใต้คาง ลดยังไง?

ในการลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วัน เป็นเป้าหมายที่มีความท้าทาย เนื่องจากการสะสมไขมันในบริเวณนี้มักจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากในการสลายไขมันภายในระยะเวลาสั้น อย่างไรก็ตาม วันนี้เรามีวิธีที่สามารถลดเหนียงใต้คางได้ภายในเวลาสั้น ๆ และเห็นผลลัพธ์ได้จริง มีดังนี้ค่ะ

1.Ulthera

Ulthera เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใช้ในการรักษายกกระชับผิวหน้า โดยใช้เทคโนโลยี ultrasound เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดริ้วรอยและยกกระชับผิวหนัง เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้เวลานานในการพักฟื้น

2.โปรแกรม Ultraformer III

Ultraformer III เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในเทคโนโลยี ultrasound เช่นเดียวกับ Ulthera ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการยกกระชับผิวหนังและลดริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือการฉีด เป็นการใช้คลื่นเสียง ultrasound เพื่อกระตุ้นเซลล์ใต้ผิวหนัง เมื่อคลื่นเหล่านี้ผ่านผิวหนังไปยังชั้นเนื้อเยื่อกลาง จะกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังผลิตคอลลาเจนในจำนวนมากขึ้น ทำให้เกิดการกระตุ้นในการยกกระชับและลดริ้วรอย

3. โปรแกรม Potenza

Potenza เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้คลื่นความถี่ (Radiofrequency, RF) เพื่อให้เกิดการกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังให้ผลิตคอลลาเจนและยกกระชับผิวหนัง โดยทั่วไป Potenza ใช้สำหรับการรักษาและปรับปรุงสภาพผิวหนัง โดยเฉพาะในการลดริ้วรอยที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวหนัง ยกกระชับผิว และการลดเหนียงใต้คาง

4. โปรแกรม Morpheus8

Morpheus8 เป็นเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีใช้คลื่นความถี่ (Radiofrequency, RF) เช่นเดียวกันกับ โปรแกรม Potenza ที่ผสมผสานคลื่นความถี่และเข็มที่มีขนาดเล็ก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง ช่วยในการยกกระชับผิวหนังและลดริ้วรอย 

5. โปรแกรม InMode

InMode คือกระบวนการที่ใช้เทคโนโลยีพลังงาน RF (Radio Frequency) ร่วมกับเลเซอร์หรือแสง IPL (Intense Pulsed Light) เพื่อทำการรักษาปัญหาผิวและลดไขมันเฉพาะจุด เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและมีความเสี่ยงต่ำ เทคโนโลยี InMode มีหลายโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น การลดไขมัน การกระชับผิว

6. โปรแกรม Liftera

Liftera เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยี (Radiofrequency, RF) เพื่อการยกกระชับผิวหนังและลดริ้วรอย โดยเครื่อง Liftera ใช้คลื่นความถี่สูงเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง พร้อมกับเข็มที่มีขนาดเล็ก อีกทั้งยังช่วยให้สารบำรุงที่ใช้ไปเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ลึกมากขึ้น

7. เมโสแฟต

การฉีดเมโสแฟต (Mesotherapy)  เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่ใช้การฉีดสารเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อรักษาปัญหาผิวพรรณต่าง ๆ รวมถึงการลดไขมันเฉพาะจุด เช่น เหนียงใต้คาง โดยมีส่วนผสมของสารสลายไขมันและวิตามินเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง สารเหล่านี้จะช่วยในการสลายไขมันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งช่วยให้ผิวดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น

8. โบท็อกเหนียง

โบท็อกเหนียง (Botulinum Toxin) การใช้โบท็อกซ์เพื่อลดเหนียงหรือไขมันใต้คาง ไม่ใช่วิธีการลดไขมันบริเวณเหนียงที่ตรงจุด เนื่องจากโบท็อกซ์ เป็นสารที่ใช้ฉีดเพื่อคลายกล้ามเนื้อและลดริ้วรอย ไม่ได้ลดไขมันโดยตรง แต่ช่วยในการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น อย่างไรก็ตาม มีการใช้โบท็อกในบางกรณีเพื่อลดกล้ามเนื้อที่คางเพื่อทำให้คอดูเรียวขึ้น แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญ

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหนียงใต้คาง

การป้องกันการเกิดเหนียงสามารถทำได้ด้วยตนเองง่าย ๆ เพียงแค่ทำให้สม่ำเสมออย่างมีวินัย การดูแลรักษาสุขภาพและพฤติกรรมที่ดีก็เป็นวิธีลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วัน และลดโอกาสการเกิดเหนียงได้ดีอีกด้วย วิธีที่คุณสามารถป้องกันการเกิดเหนียงมีดังนี้

  1. การออกกำลังกาย: ควรทำการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ 
  2. การทานอาหาร: ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรต ลดอาหารที่มีไขมันสูงและน้ำตาล เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้ เพื่อลดปริมาณพลังงานที่ร่างกายได้รับ ซึ่งอาจช่วยให้ลดไขมันใต้คางได้
  3. การดื่มน้ำเพียงพอ: การดื่มน้ำมากพอเพื่อช่วยให้ร่างกายมีความชุ่มชื้นเพียงพอและช่วยในการเผาผลาญ การขับถ่ายสารพิษและไขมันออกจากร่างกายได้ดีขึ้น หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป

สามารถลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วันได้จริงไหม ?

ลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วัน ได้จริงค่ะ สำหรับคนที่อยากเห็นผลลัพธ์ที่เร่งด่วนในการลดเหนียง โดยการทำตามวิธีที่ได้แนะนำไปข้างต้น ถือว่าเป็นวิธีที่เห็นผลลัพธ์และการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน แต่ละวิธีจะมีระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์แตกต่างกันดังนี้

สามารถลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วันได้จริงไหม ?

  • เครื่องยกกระชับ Hifu ,  RF เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 20% เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน คงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 5-8 เดือน
  • เมโสแฟตเหนียง เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 10-15% เหนียงยุบลงใน 5-7 วัน เห็นผลเต็มที่ 2-3 สัปดาห์ คงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน
  • โบท็อกเหนียง เริ่มเห็นผลใน 2-3 วัน เห็นได้ผลเต็มที่ในเวลา 1 สัปดาห์ คงผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ  2-3 เดือน

การลดเหนียงใต้คาง ราคาอยู่ที่เท่าไร ?

ลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วัน มีหลายวิธี และการลดเหนียงใต้คาง ราคาแต่ละวิธีมีค่าใช้จ่ายอาจแตกต่างกันไปตามคลินนิกและแพทย์ที่ทำการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทำหัตถการใด ๆ และเลือกคลินนิกที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์ อย่าลืมตรวจสอบโปรโมชั่นหรือส่วนลดที่อาจมีอยู่ในช่วงเวลาที่ทำการรักษา มาดูรายละเอียดและค่าใช้จ่ายโดยประมาณของแต่ละวิธีดังนี้

  1. การใช้เครื่องยกกระชับ Hifu ,  RF: ค่าใช้จ่าย: 5,000 – 50,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่ใช้และสถานพยาบาล
  2. การฉีดเมโสแฟต (Meso Fat): ค่าใช้จ่าย: 5,000 – 20,000 บาทต่อครั้ง มักต้องฉีดหลายครั้งเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  3. การฉีดโบท็อกซ์เพื่อปรับรูปหน้า: ค่าใช้จ่าย: 5,000 – 15,000 บาทต่อครั้ง ไม่ได้ลดไขมันโดยตรงแต่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น

ข้อควรระวังในการลดเหนียง

  1. การใช้ผลิตภัณฑ์ลดเหนียง: ควรตรวจสอบส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ก่อนใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงสารที่อาจทำให้เกิดการแพ้ ใช้ผลิตภัณฑ์ตามคำแนะนำของแพทย์
  2. การทำหัตถการทางการแพทย์: ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำหัตถการใด ๆ เช่น การยกระกระชับโดยใช้เครื่อง, กาฉีดสารละลายไขมัน ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือและแพทย์ที่มีประสบการณ์
  3. การดูแลหลังการทำหัตถการ: ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น การพักฟื้น การดูแลแผล หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บในบริเวณที่ทำหัตถการ

ข้อควรระวังในการลดเหนียง

สรุป

การลดเหนียงใต้คาง ภายใน 7 วัน ด้วยวิธีที่ได้แนะนำไปข้างต้น ถือว่าเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ไว และไม่ต้องผ่าตัดอีกด้วยเป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่มักจะเลือกทำกัน อย่างไรก็ตามทุก ๆ วิธีควรศึกษาและพิจารณาอย่างละเอียด โดยเฉพาะวิธีทางการแพทย์ ที่ควรศึกษาในเรื่องของความปลอดภัยและได้มาตฐานของคลินิกที่ทำการรักษารวมถึงแพทย์ผู้ให้รักษาต้องมีความชำนาญและประสบการณ์อีกด้วย

หากท่านใดสนใจในการลดเหนียง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand หรือสามารถเข้ามาติดต่อโดยตรงที่ Lienjang Clinic Thailand ที่สาขาใกล้บ้านคุณ เจ้าหน้าที่พร้อมให้คำปรึกษาและคุณหมอพร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี