บทความ

Article

เมโสหน้าใส คืนความอ่อนเยาว์ ปรับผิวฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี
Facebook
X
Email

เมโสหน้าใส คืนความอ่อนเยาว์ ปรับผิวฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี

หัวข้อที่น่าสนใจ

เมื่อพูดถึงทรีทเม้นท์ใบหน้าที่ช่วยในเรื่องของผิวสวยหน้าใสแล้วก็ต้องนึกถึง “เมโสหน้าใส” เป็นอย่างแรก เพราะถือว่าเป็นตัวช่วยในการฟื้นฟูผิวและปรับสภาพผิวให้กลับมาเปล่งปลั่งกระจ่างใสอย่างรวดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันการดูแลตนเองเป็นสิ่งที่สำคัญและควรใส่ใจในทุกวัน ยิ่งเป็นเรื่องของผิวพรรณแล้วยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะในทุกวันต้องเจอกับมลภาวะ แสงแดด และปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและอ่อนแอลง วันนี้ลีเอนจาง จะมาอธิบายให้ฟังกันค่ะ ว่าเมโสคืออะไร ? ช่วยในเรื่องอะไร ? และอยู่ได้นานแค่ไหน ? จะเป็นอย่างไรมาตามอ่านกันได้ในบทความนี้!

เมโสหน้าใส คืออะไร ?

เมโสหน้าใส หรือชื่อที่ใช้เรียกในวงการแพทย์ คือ Mesotheraphy เป็นการทำทรีตเมนต์ผิวหน้าที่นิยมในวงการความงาม โดยการใช้เข็มขนาดเล็กฉีดสารบำรุงผิว เช่น วิตามิน กลูต้าไธโอน คอลลาเจน และสารต้านอนุมูลอิสระ เข้าไปในชั้นผิวหนังโดยตรง วิตามินและสารบำรุงจะช่วยปรับสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูกระจ่างใส และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวดูเต่งตึงและยืดหยุ่นมากขึ้น อีกทั้งยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่ฉีด ทำให้การนำสารอาหารและออกซิเจนไปยังผิวหนังมีประสิทธิภาพมากขึ้น การฉีดโดยตรงเข้าสู่ชั้นผิวนี้ทำให้สารบำรุงสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วไป

เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใส

เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใส

เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสมีหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความชำนาญของแพทย์ รวมถึงความต้องการของผู้รับบริการ โดยมี 2 เทคนิคหลัก ๆ ดังนี้่

การฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด : เป็นเทคนิคหนึ่งของการทำ Mesotherapy ที่นิยมใช้ในการฟื้นฟูและบำรุงผิวหน้า เทคนิคนี้ใช้การฉีดสารบำรุงผิวเข้าสู่ผิวชั้นกลาง (mesoderm) ผ่านการใช้เข็มฉีดยาสะกิดผิวหน้าเป็นจุดเล็ก ๆ ทั่วบริเวณใบหน้า แต่การฉีดด้วยเทคนิคนี้อาจทำให้เกิดรอยแดงขึ้นบนใบหน้า เป็นเทคนิคที่ทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคืองได้มากกว่าการฉีดแบบ 16 จุด

การฉีดเมโสหน้าใสแบบ 16 จุด : เป็นเทคนิคการฉีดสารบำรุงผิวที่เน้นการฉีดในตำแหน่งเฉพาะเจาะจงบนใบหน้า รวม 16 จุด เช่น บริเวณหน้าผาก รอบดวงตา แก้ม มุมปาก และคาง เพื่อให้สารบำรุงซึมลึกเข้าไปในชั้นผิวและกระจายได้ทั่วถึง เป็นการฉีดในตำแหน่งที่สำคัญทั่วใบหน้า ทำให้สารบำรุงซึมลึกและกระจายได้ดี เทคนิคนี้ได้รับความนิยมมากกว่าเพราะเป็นการฉีดที่แม่นยำ ทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว

เมโสหน้าใส มีกี่แบบ ?

เมโสหน้าใสมีหลายแบบที่สามารถเลือกใช้ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล การเลือกฉีดแบบเมโสควรพิจารณาจากปัญหาผิวและคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยหลัก ๆ มีทั้งหมด มีดังนี้

  1. เมโสที่มีวิตามิน (Vitamin Meso) ประกอบด้วยวิตามินต่าง ๆ เช่น Vitamin A, Vitamin B, Vitamin C และ Vitamin E ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว
  2. เมโสที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ (Natural Extract Meso) ใช้สารสกัดจากพืชหรือสมุนไพร เช่น สารสกัดจากชาเขียวหรืออโลเวร่า ที่ช่วยฟื้นฟูผิว ปกป้องผิวจากความเสียหาย และเพิ่มความกระจ่างใส
  3. เมโสที่มีกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid Meso) ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดริ้วรอยและทำให้ผิวดูเรียบเนียนและอิ่มน้ำ
  4. เมโสที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant Meso) มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากการเสื่อมสภาพและช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์
  5. เมโสที่มีสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Collagen Stimulator Meso) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง ซึ่งช่วยให้ผิวมีความกระชับและเรียบเนียน

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : 14 วิธีทำให้หน้าใส สวยอย่างมั่นใจ แบบผิวสุขภาพดี

จุดเด่นของการฉีดเมโสหน้าใส

จุดเด่นของการฉีดเมโสหน้าใส

การฉีดเมโสหน้าใสมีจุดเด่นหลายประการ โดยเฉพาะในด้านการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกและบำรุงผิวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมชาติ ต่อไปนี้คือข้อดีของการฉีดเมโสหน้าใส

  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว สารบำรุงเช่น กรดไฮยาลูรอนิกจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและเปล่งปลั่งขึ้น ลดอาการแห้งกร้าน
  • ปรับผิวให้กระจ่างใส วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่ฉีดเข้าไปในผิว จะช่วยลดความหมองคล้ำ ปรับผิวให้ดูสดใสขึ้น และลดจุดด่างดำ
  • ลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก การฉีดเมโสสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึก ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์
  • ฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก การฉีดสารบำรุงเข้าไปในชั้นผิวช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวดูสดใสและสุขภาพดี
  • ช่วยปรับสมดุลน้ำมันในผิว การฉีดเมโสบางชนิดสามารถช่วยลดความมันบนใบหน้า ทำให้ผิวมีความสมดุล ไม่แห้งหรือมันเกินไป
  • ลดการเกิดสิว การปรับสมดุลผิวและลดความมันส่วนเกิน ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวและปัญหาผิวอื่น ๆ ที่เกิดจากน้ำมันส่วนเกิน
  • กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด การฉีดเมโสช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่ฉีด ทำให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารและออกซิเจนเพิ่มมากขึ้น
  • การฟื้นตัวรวดเร็ว การฉีดเมโสเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด จึงใช้เวลาในการฟื้นตัวน้อย ผิวจะฟื้นฟูตัวเองได้เร็ว โดยไม่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน
  • ผลลัพธ์เห็นได้ชัดเจนและรวดเร็ว หลังจากการฉีดเมโสผิวหน้าจะดูสดใส ชุ่มชื้น และกระจ่างใสได้ในระยะเวลาที่รวดเร็ว

เมโสหน้าใส อันตรายไหม ?

การฉีดเมโสหน้าใสโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการและใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม เมโสอาจมีความเสี่ยงและอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประสบการณ์ของแพทย์ ประเภทของสารที่ใช้ และการดูแลหลังทำ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นมีดังนี้

  1. หลังจากการฉีด อาจเกิดรอยแดงหรือบวมในบริเวณที่ฉีด แต่จะหายไปได้เองภายใน 1-2 วัน
  2. หากสถานที่ทำการฉีดไม่สะอาดหรือการดูแลหลังฉีดไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  3. บางคนอาจมีอาการแพ้สารที่ฉีด เช่น วิตามินหรือกรดไฮยาลูรอนิค แม้ว่าจะเกิดขึ้นไม่บ่อย แต่อาจทำให้เกิดอาการคัน ผื่น หรือบวมได้
  4. เนื่องจากการฉีดใช้เข็ม อาจเกิดรอยฟกช้ำเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด แต่จะหายไปในไม่กี่วัน
  5. หากสารบำรุงที่ไม่กระจายตัวอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดตุ่มหรือรอยนูนเล็ก ๆ บนผิวหนังได้

เมโสหน้าใส เหมาะกับใครบ้าง ?

การฉีดเมโสหน้าใสเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวหน้าให้กระจ่างใส ชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีปัญหาผิวหรือผู้ที่มีความต้องการ ดังนี้

  • ผู้ที่มีผิวหน้าแห้ง เมโสช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและทำให้ผิวหน้าไม่แห้งกร้าน
  • ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำ การฉีดสารบำรุงเช่น วิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสและลดจุดด่างดำ
  • ผู้ที่มีริ้วรอยหรือร่องลึก เมโสช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกบนผิวหน้า
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้น ลดการเกิดแผลเป็นจากสิวหรือรอยดำ
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหลังการทำทรีตเมนต์หรือการใช้ยาที่ทำให้ผิวแห้ง ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวให้กลับมาดูสดใสและสุขภาพดี
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวบอบบางและแพ้ง่าย เนื่องจากการฉีดเมโสจะใช้สารบำรุงที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและกระตุ้นการซ่อมแซมผิว
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว เพราะการฉีดเมโสสามารถทำให้ผิวดูดีขึ้นได้ภายในไม่กี่วัน

เมโสหน้าใส เหมาะกับใครบ้าง ?

ฉีดเมโสหน้าใส กี่วันเห็นผล ?

โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดประมาณ 10-15 เปอร์เซ็นต์ โดยผลลัพธ์ที่เห็นอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะของผิวแต่ละคนและจำนวนครั้งที่ทำการฉีด ในสัปดาห์แรกอาจเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวเล็กน้อย เช่น ผิวดูสดใสขึ้นและมีความชุ่มชื้นมากขึ้น 1-2 สัปดาห์ต่อมา ผลลัพธ์จะเริ่มชัดเจนขึ้น โดยผิวหน้าจะมีความกระจ่างใส เรียบเนียน และมีความชุ่มชื้นดีขึ้น การดูแลผิวหน้าอย่างต่อเนื่องและการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังการฉีดจะช่วยให้ผลลัพธ์ยั่งยืนและเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ฉีดเมโสหน้าใส กี่ครั้งเห็นผล ?

การฉีดเมโสหน้าใส มักจะเห็นผลที่ชัดเจนได้จากการฉีด 2-4 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล ในการฉีดครั้งแรกอาจเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ผิวหน้าเล็กน้อย เช่น ผิวดูสดใสและมีความชุ่มชื้นดีขึ้น ครั้งที่ 2-3 ผลลัพธ์จะเริ่มชัดเจนมากขึ้น โดยผิวหน้าจะดูเรียบเนียน กระจ่างใส และมีความชุ่มชื้น การทำซ้ำอย่างต่อเนื่องสามารถช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใสและสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แพทย์จะประเมินสภาพผิวของคุณและแนะนำจำนวนครั้งที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยทั่วไปแนะนำให้ทำการฉีดซ้ำในทุก ๆ 2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน และปรับตามผลลัพธ์และการตอบสนองของผิวหน้า

ฉีดเมโสหน้าใส อยู่ได้นานแค่ไหน ?

ฉีดเมโสหน้าใส อยู่ได้นานแค่ไหน ?

การฉีดเมโสหน้าใส มักมีผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และการดูแลรักษาหลังการฉีดอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ การทำทรีตเมนต์หรือการปรับพฤติกรรมการดูแลผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้ผลลัพธ์ยาวนานขึ้นค่ะ

เมโสหน้าใส ราคาเท่าไร ?

การฉีดเมโสหน้าใส ราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคลินิกและสถานที่ แต่โดยทั่วไปแล้ว ราคาจะอยู่ในช่วงประมาณ 3,000-7,000 บาทต่อครั้ง ค่าบริการอาจรวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้และการให้บริการจากแพทย์ด้วย หากคุณสนใจ ควรติดต่อคลินิกที่คุณสนใจเพื่อขอข้อมูลราคาที่ชัดเจนและตรวจสอบรายละเอียดการให้บริการเพิ่มเติมค่ะ

เมโสหน้าใส เจ็บไหม ?

การฉีดเมโสหน้าใส อาจรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายตัวเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความอดทนของแต่ละบุคคลและเทคนิคที่ใช้ในการฉีด ส่วนใหญ่การอาการเจ็บจะไม่รุนแรงและจะรู้สึกเหมือนถูกเข็มจิ้มเบา ๆ โดยทั่วไปแพทย์จะใช้ยาชาทาเพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บก่อนการฉีด และหลังการฉีดอาจรู้สึกเจ็บหรือบวมเล็กน้อยที่บริเวณที่ฉีด แต่จะหายไปภายในเวลาไม่นานค่ะ

ข้อปฏิบัติหลังฉีดเมโสหน้าใส

หลังการฉีดเมโส ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้ จะช่วยให้ผิวฟื้นฟูได้ดีและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการฉีดเมโสค่ะ

  1. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหรือขัดถูบริเวณที่ฉีดเพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ
  2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว เช่น มอยส์เจอไรเซอร์ที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ (AHAs) หรือวิตามินซี
  3. งดการออกกำลังกายหนักและการทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากใน 24-48 ชั่วโมงแรก
  4. หลีกเลี่ยงการทำซาวน่า การอาบแดด หรือการออกแดดจัดในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก และควรใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูง
  5. งดการใช้เครื่องสำอางที่หนาหรือมีสารเคมีในช่วง 1-2 วันแรก
  6. รักษาความชุ่มชื้นของผิวโดยการดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยในการฟื้นฟูผิว
  7. หากมีอาการผิดปกติ เช่น บวม แดง หรืออาการเจ็บปวดที่ไม่หายไป ควรติดต่อแพทย์เพื่อขอคำแนะนำอย่างเหมาะสมค่ะ

เลือกฉีดเมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดี ?

เลือกฉีดเมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดี ?

การเลือกยี่ห้อสำหรับการฉีดเมโสหน้าใส ขึ้นอยู่กับประเภทและคุณภาพของสารที่ใช้ รวมถึงความเหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ ต่อไปนี้เป็นยี่ห้อเมโสที่ได้รับความนิยมและได้รับการรับรอง

  • Made Collagen เป็นผลิตภัณฑ์เมโสเธอราพีที่ใช้สำหรับการฟื้นฟูและบำรุงผิวหน้า ซึ่งมักจะประกอบด้วยส่วนผสมของคอลลาเจนและสารอื่นๆ ที่ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น กระจ่างใส และลดเลือนริ้วรอย
  • Alpha arbutin เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและลดเลือนจุดด่างดำ ที่มีส่วนผสมของ Alpha มีวัตถุประสงค์ในการปรับสภาพผิวให้ดูสม่ำเสมอ ลดเลือนฝ้า กระ โดยเฉพาะ
  • Tensonez เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ผลิตเมโส ที่มีส่วนผสมที่ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวให้กระจ่างใสและเรียบเนียน รวมถึงอาจมีสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและปรับสภาพผิวให้ดีขึ้น
  • Filorga เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านการดูแลผิวและการฟื้นฟูผิว ใช้ส่วนผสมที่มีคุณภาพสูง เช่น NCTF (New Cellular Treatment Factor) ซึ่งเป็นการรวมกันของวิตามิน แร่ธาตุ กรดไฮยาลูโรนิก และกรดอะมิโน ซึ่งช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูและบำรุงผิว

ฉีดเมโสหน้าใส ที่ไหนดี ?

การเลือกสถานที่ฉีดเมโสที่ดีและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง ดังนั้นควรเลือกคลินิกที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองจากหน่วยงาน และควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดผิว และมีความชำนาญในด้านการดูแลผิว มีความสะอาดและมีการใช้เครื่องมือที่ได้รับการฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสม

หากท่านใดที่ยังไม่รู้ว่าจะฉีดเมโสหน้าใส ที่ไหนดี เราขอแนะนำที่ ลีเอนจาง คลินิก (Lienjang Clinic Thailand) เพราะที่นี้ใช้ผลิตภัณฑ์เมโสที่มีคุณภาพสูงและได้รับการรับรอง เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง อีกทั้งยังมีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการทำหัตถการดูแลผิว ที่จะช่วยให้การฉีดผิวเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand หรือเข้ามาติดต่อโดยตรงได้ทุกสาขาค่ะ

เมโสหน้าใสของแท้-ปลอม สังเกตอย่างไร ?

การตรวจเช็คเมโสของแท้และของปลอมสามารถทำได้โดยการเลือกฉีดกับคลินิกหรือสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้และมีการรับรองจากผู้ผลิตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบฉลากและบรรจุภัณฑ์ให้แน่ใจว่ามีข้อมูลที่ครบถ้วน รวมถึงวันหมดอายุและเลขที่การอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) เมโสหน้าใสของแท้มักจะมีลักษณะและสีที่สม่ำเสมอ รวมถึงไม่มีกลิ่นผิดปกติหรือมีสารเจือปน หากไม่แน่ใจ การตรวจสอบคุณภาพและแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบจะช่วยป้องกันการใช้ผลิตภัณฑ์ปลอมที่อาจส่งผลเสียต่อผิวหนังและสุขภาพได้

Q&A คำถามที่พบบ่อย

Q&A คำถามที่พบบ่อย

หลังฉีดเมโสดื่มแอลกอฮอลล์ได้ไหม ?

ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์อาจมีผลกระทบต่อกระบวนการฟื้นฟูของผิวและอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงหรือการติดเชื้อได้ ควรรอประมาณ 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีด หรือทำตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ที่ได้จะออกดีที่สุดและลดความเสี่ยงต่อปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

หลังฉีดเมโสแต่งหน้าได้ไหม ?

ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อให้ผิวมีเวลาในการฟื้นฟูและลดความเสี่ยงต่อการเกิดการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ การใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าอาจทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียบนผิวหรือมีผลต่อผลลัพธ์ของการรักษา หากคุณต้องการแต่งหน้าในภายหลัง ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและสะอาด รวมถึงทำความสะอาดเครื่องสำอางอย่างระมัดระวัง เพื่อลดความเสี่ยงของปัญหาผิวและให้แน่ใจว่าผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่

รอยเข็มจากการฉีดเมโสกี่วันหาย ?

รอยเข็มจากการฉีดเมโสส่วนใหญ่จะหายภายใน 1-3 วัน แต่ระยะเวลาการหายอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความลึกของการฉีดและการดูแลหลังการฉีด เพื่อช่วยให้รอยเข็มหายเร็วขึ้น ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น การหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือการถูผิวบริเวณที่ฉีดและการหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่อาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง

หน้ามัน รูขุมขนกว้าง เมโสช่วยได้ไหม ?

การฉีดเมโสสามารถช่วยปรับปรุงปัญหาหน้ามันและรูขุมขนกว้างได้ แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามปัญหาผิวและการตอบสนองของแต่ละบุคคล เมโสหน้าใสบางสูตรที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก หรือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จะสามารถช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิวและทำให้รูขุมขนดูเล็กลงได้ อย่างไรก็ตาม การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยควบคุมความมัน การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ และการใช้สกินแคร์ร่วมกับการฉีดเมโส ก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระชับรูขุมขนให้ดีขึ้นได้

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : 5 วิธีกระชับรูขุมขนกว้าง ให้กลับมาหน้าเนียนใสได้จริง

สรุป

การฉีดเมโสหน้าใส (Mesotherapy) เป็นวิธีการบำรุงผิวที่ใช้การฉีดสารอาหารหรือวิตามินเข้าสู่ผิวหนัง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวหน้า ช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใสและเรียบเนียนมากขึ้น กระบวนการนี้มักจะใช้สารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่น ไฮยาลูโรนิกแอซิด วิตามินซี หรือกรดอะมิโน ซึ่งจะช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิวและทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ควรดูแลผิวอย่างเหมาะสมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี