แก้มห้อย เหนียงย้อย แขนใหญ่ ขาใหญ่ เป็นปัญหาที่มาจากการสะสมของไขมันส่วนเกินที่แก้ได้ยาก และเป็นปัญหาที่ทำเอาหลาย ๆ คนกังวล และทำให้ไม่มั่นใจ ตัวช่วยในการลดไขมันส่วนเกิน โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลไว นั้นก็คือการฉีดเมโสแฟต (Mesofat) เป็นการกระตุ้นการสลายไขมันเฉพาะจุด ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้
การฉีดแฟต เพื่อลดไขมันเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นวิธีที่ปลอดภัย ช่วยลดไขมันเฉพาะจุดที่ลดได้ยาก แต่ก่อนฉีดแฟตต้องรู้อะไรบ้าง แฟต คืออะไร ? ฉีดจุดไหนได้บ้าง ? ปลอดภัยจริงไหม ? ฉีดแฟต ยี่ห้อไหนดี ? ทุกคำถามที่อยากรู้ ลีเอนจาง คลินิก ได้รวบรวมคำตอบไว้ให้ในบทความนี้
การฉีดเมโสแฟต คืออะไร ?
การฉีดเมโสแฟต คือ การฉีดสลายไขมันตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น แก้ม ใต้คาง ต้นแขน หรือหน้าท้อง โดยการฉีดยาเข้าสู่ชั้นไขมันที่ต้องการกำจัด เพื่อลดไขมันและลดสัดส่วนบริเวณที่ต้องการให้เล็กลง แฟตจะประกอบด้วยสารที่ช่วยสลายไขมัน เมื่อฉีดสารเหล่านี้เข้าไปในบริเวณที่ต้องการ สารเหล่านี้จะช่วยทำลายเซลล์ไขมันและกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญไขมันในร่างกาย
ยาแฟต ( Meso Fat ) คืออะไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง ?
แฟตเป็นสารที่ใช้ในกระบวนการเมโสเธอราพี (Mesotherapy) เพื่อช่วยสลายไขมันเฉพาะจุด สารที่ใช้ในแฟตประกอบด้วยส่วนผสมที่มีคุณสมบัติในการสลายไขมัน แฟตทำงานโดยการฉีดเข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง สารที่ฉีดจะไปทำลายเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันที่สะสมอยู่ถูกแตกตัวออกมาเป็นของเหลว จากนั้นจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านกระบวนการเผาผลาญไขมันของร่างกายและระบบการขับถ่ายตามธรรมชาติ และช่วยกระชับผิว ซึ่งมักจะประกอบด้วยสารต่าง ๆ ดังนี้
- Artichoke extract ทำหน้าที่กระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการ anabolism ลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเกิน ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ฉีดลดแก้ม หรือต้องการลดเซลลูไลท์
- Mesostabyl ทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ lipase ลดการสร้าง triglyceride ยับยั้งการสร้าง cholesterol ในเนื้อเยื่อ
- L-Carnitine ช่วยในการเผาผลาญไขมันและนำไขมันไปใช้เป็นพลังงาน
วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินบี วิตามินซี และกรดอะมิโน ที่ช่วยในการกระตุ้นการเผาผลาญและการฟื้นฟูผิว
เมโสแฟต ช่วยในเรื่องอะไร ?
เมโสแฟตช่วยในเรื่องการลดไขมันเฉพาะจุด โดยเฉพาะบริเวณที่มีไขมันสะสมและยากต่อการกำจัดด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การออกกำลังกายหรือการควบคุมอาหาร โดยแฟตสามารถช่วยในหลายด้าน ดังนี้
- ลดไขมันเฉพาะจุด: ช่วยสลายไขมันในบริเวณที่ต้องการลด เช่น แก้ม เหนียง หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และสะโพก
- ปรับรูปหน้า: ช่วยลดแก้มและเหนียง ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
- กระชับผิว: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวกระชับและเรียบเนียนขึ้น
- ลดเซลลูไลท์: ช่วยลดลักษณะของผิวที่เป็นลอนคลื่นจากการสะสมของเซลลูไลท์
ฉีดเมโสแฟต อันตรายไหม ?
การฉีดแฟตเป็นวิธีหนึ่งในการสลายไขมันที่ปลอดภัย ไม่อันตราย เพราะเป็นการฉีด ไม่ต้องผ่าตัด หากใช้ตัวยาแท้ ได้รับการรับรองจากอย. และฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญและมีประสบการณ์ในการฉีดแฟตมาก่อน การฉีดแฟตก็จะมีความปลอดภัยสูง อย่างไรก็ตามมีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน
- ผลข้างเคียง: การฉีดแฟตอาจทำให้เกิดอาการบวม, แดง, หรือเจ็บปวดที่บริเวณที่ฉีดได้
- ความเสี่ยงจากสารเคมี: สารที่ใช้ในการฉีดอาจมีผลข้างเคียงสำหรับบางคนที่มีอาการแพ้ได้
- ผลลัพธ์ไม่เป็นที่คาดหวัง: บางครั้งผลลัพธ์อาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หรืออาจต้องการฉีดหลายครั้ง
*ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจควรปรึกษากับแพทย์ที่มีความชำนาญ เพื่อประเมินความเสี่ยงและผลลัพธ์ที่คาดหวังให้ชัดเจน*
เมโสแฟตฉีดบริเวณไหนได้บ้าง ?
เมโสแฟตสามารถฉีดได้บริเวณหลายจุดของร่างกายที่มีการสะสมของไขมันส่วนเกิน ทุกบริเวณที่ต้องการฉีดแฟตควรได้รับการตรวจสอบและคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อให้มั่นใจว่าการฉีดแฟตเหมาะสมและปลอดภัย โดยบริเวณที่นิยมฉีดแฟตมีดังนี้
- ฉีดแฟตแก้ม เป็นการฉีดเพื่อช่วยสลายไขมันส่วนเกินบริเวณกระพุ้งแก้ม เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียว V-shape ขึ้น และให้หน้าดูเล็กลง เหมาะกับคนที่แก้มเยอะ แก้มห้อย หน้ากลม
- ฉีดแฟตเหนียง เป็นการฉีดเพื่อช่วยสลายไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่บริเวณใต้คาง เพื่อลดคางสองชั้น และลดความหย่อนคล้อยของผิว เหมาะกับคนที่มี เหนียงย้อย คางสองชั้น ไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คางค่อนข้างเยอะ
- ฉีดแฟตหน้าท้อง การฉีดแฟตสามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินบางส่วนบริเวณหน้าท้องออกได้ แต่หากมีไขมันสะสมในปริมาณมาก ต้องใช้ตัวยาค่อนข้างเยอะ การฉีดแฟตอาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร แนะนำให้รักษาด้วยหัตถการอื่น เช่น ดูดไขมัน การฉีดแฟตหน้าท้องเหมาะกับคนที่ พุงใหญ่ พุงย้อย สะโพกใหญ่
- ฉีดแฟตแขน การฉีดแฟตบริเวณต้นแขน ช่วยให้แขนเรียว กระชับขึ้น แขนจะเล็กลง และช่วยในการใส่เสื้อผ้าที่มั่นใจขึ้น เหมาะกับคนที่มีไขมันต้นแขนเยอะ แขนใหญ่ จนแขนย้วยไม่กระชับ
- ฉีดแฟตต้นขา การฉีดแฟตต้นขาเป็นวิธีลดไขมันส่วนเกินที่ช่วยให้ต้นขาดูกระชับขึ้น ต้นขาที่ดูเล็กลง ขาเรียว เหมาะกับคนที่ ขาใหญ่ ขาตัน
- ฉีดแฟตน่อง การฉีดแฟตบริเวณน่องนั้น จะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวิเคราะห์ว่า ในส่วนที่อยากลดนั้นเป็นไขมันหรือกล้ามเนื้อ เพราะส่วนใหญ่มักจะพบเป็นกล้ามเนื้อมากกว่า แต่ก็สามารถฉีดแฟตได้เช่นกัน เหมาะกับคนที่น่องใหญ่ น่องปูด
- ฉีดแฟตรักแร้และปีกหลัง การฉีดแฟตรักแร้และปีกหลัง คือการฉีดแฟตบริเวณข้างรักแร้ ที่มักจะมีเนื้อปลิ้นออกมาหรือเรียกอีกอย่างว่า นมน้อย ใส่เสื้อผ้าที่เป็นสายเดี่ยวจะยิ่งเห็นได้ชัด ในการฉีดสลายไขมันส่วนเกินในบริเวณนี้จะช่วยให้เนื้อปลิ้นรอบ ๆ รักแร้ยุบลง ใส่เสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจ เหมาะกับคนที่มีเนื้อด้านหลังและด้านหน้าเป็นก้อน
การฉีดเมโสแฟต เหมาะกับใคร ?
การฉีดเมโสแฟตเหมาะสำหรับผู้ที่มีลักษณะและความต้องการดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีไขมันสะสม: เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมในบริเวณที่ยากต่อการลดด้วยวิธีอื่น เช่น แก้ม เหนียง หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และรักแร้
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น โดยเฉพาะการลดไขมันบริเวณแก้มและคางสองชั้น (เหนียง)
- ผู้ที่ต้องการลดเซลลูไลท์: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดลักษณะของเซลลูไลท์ หรือผิวที่มีลักษณะเป็นลอนคลื่น
- ผู้ที่ไม่ต้องการดูดไขมัน: เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือมีแผลเป็นจากการดูดไขมัน เนื่องจากการฉีดแฟตเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลการลดไขมันในระยะเวลาสั้น ๆ โดยไม่ต้องรอผลลัพธ์นาน
ข้อควรระวังในการฉีดแฟต
- ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของยา: ควรตรวจสอบว่าไม่มีการแพ้ต่อส่วนประกอบของเมโสแฟต
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว: ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เนื่องจากบางโรคอาจมีผลต่อการฉีดแฟต
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร: ควรหลีกเลี่ยงการฉีดแฟตในช่วงนี้
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน: ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ
ข้อดีของการฉีดเมโสแฟต
การฉีดเมโสแฟตมีข้อดีหลายประการ โดยเฉพาะในเรื่องของการลดไขมันเฉพาะจุดและการปรับปรุงรูปลักษณ์ของใบหน้าและร่างกาย ข้อดีหลักๆ ของการฉีดแฟตมีดังนี้
- ช่วยสลายไขมันในบริเวณที่ยากต่อการลดด้วยวิธีอื่น
- ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น ลดไขมันบริเวณคางสองชั้นและแก้ม ทำให้รูปร่างดูสมส่วนมากขึ้น
- การฉีดแฟตเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่เกิดแผลเป็นหรือรอยแผลจากการทำศัลยกรรม
- เป็นกระบวนการฉีดที่ใช้เวลาไม่นาน ส่วนใหญ่จะใช้เวลาเพียง 30-60 นาทีต่อครั้ง
- หลังการฉีดแฟต ผู้รับบริการสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้นนาน
- การฉีดแฟตช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ฉีดกระชับและเรียบเนียนขึ้น
- ช่วยลดเซลลูไลท์หรือผิวที่เป็นลอนคลื่น ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- การมีรูปร่างและใบหน้าที่ดูดีขึ้นสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
- สามารถเห็นผลลัพธ์การลดไขมันได้อย่างรวดเร็ว หลายคนเห็นผลภายในไม่กี่สัปดาห์หลังการฉีด
ข้อควรคำนึงของการฉีดเมโสแฟต
การฉีดเมโสแฟตมีข้อควรคำนึงและความเสี่ยงที่ควรพิจารณาก่อนการตัดสินใจ หลัก ๆ มีดังนี้
- หลังการฉีดอาจเกิดอาการบวม แดง หรือช้ำในบริเวณที่ฉีดยา ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะหายไปภายในไม่กี่วันหรือสัปดาห์
- อาจเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองจากสารที่ฉีด เช่น ผื่นแดง คัน หรือแสบร้อน
- ผลลัพธ์ของการฉีดแฟตอาจไม่ถาวร เนื่องจากไขมันสามารถกลับมาสะสมใหม่ได้ หากไม่มีการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
- หากฉีดโดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ผู้ชำนาญหรือในสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ผลลัพธ์ของการฉีดแฟตอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพผิว การตอบสนองต่อการฉีด และการดูแลหลังการฉีด
- ค่าใช้จ่ายในการฉีดแฟตอาจสูง ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและจำนวนครั้งที่ต้องทำ
การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต
การเตรียมตัวก่อนการฉีดเมโสแฟตเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การฉีดเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และนี่คือขั้นตอนและข้อแนะนำในการเตรียมตัวอย่างถูกวิธี
- ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดแฟต และแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติแพ้ยาโรคประจำตัว และยาที่กำลังรับประทานอยู่
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน , ไอบูโพรเฟน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด และยาบางชนิดที่อาจทำให้เลือดออกง่าย อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพราะแอลกอฮอล์สามารถทำให้เลือดออกง่ายขึ้น
- ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
- ทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะฉีดแฟต และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง
การดูแลตนเองหลังฉีดเมโสแฟต
หลังการฉีดเมโสแฟต การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญเช่นกันเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ข้อต่อไปนี้คือการแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการฉีด
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่หนักหรือการออกกำลังกายที่ส่งผลให้บริเวณที่ฉีดเคลื่อนไหวมากเกินไปในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีด
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน การใช้ซาวน่า หรือการสัมผัสกับความร้อนสูงในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีด
- รักษาความสะอาดของบริเวณที่ฉีดเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดทับบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระจายของสารที่ฉีดไปในจุดอื่น
- การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยในการกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกาย
- หากพบอาการผิดปกติ เช่น อาการบวมที่รุนแรง ปวดมาก หรือมีรอยฟกช้ำที่ไม่หายไป ควรติดต่อแพทย์ทันที
ฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผล ?
ผลลัพธ์ของการฉีดแฟตจะสามารถแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงปริมาณไขมันที่ต้องการลด การตอบสนองของร่างกาย และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ โดยทั่วไปแล้วจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังการฉีด โดยไขมันจะลดลงไปประมาณ 15% และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนประมาณ 2-4 สัปดาห์หลังจากการฉีด การลดไขมันอาจต้องใช้เวลาและอาจต้องมีการฉีดซ้ำเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ฉีดเมโสแฟต อยู่ได้นานไหม ?
ผลลัพธ์จากการฉีดแฟตสามารถอยู่ได้นาน หากมีการรักษาน้ำหนักให้คงที่และรักษาสุขภาพที่ดี โดยการออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยปกติแล้วจะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 2 – 3 เดือน หลังจากการฉีด หากมีการเปลี่ยนแปลงในร่างกายหรือมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ไขมันอาจกลับมาได้ ดังนั้นการฉีดแฟตสามารถให้ผลลัพธ์ที่นานได้ หากคุณดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมและปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำ
ฉีดเมโสแฟตแตกต่างจากการฉีดโบท็อกอย่างไร ?
การฉีดเมโสแฟตและการฉีดโบท็อกมีวัตถุประสงค์และวิธีการที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เมโสแฟตเน้นลดไขมันในบริเวณที่ต้องการ ส่วนโบท็อกเน้นการควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเพื่อปรับปรุงลักษณะใบหน้าและลดริ้วรอย
เมโสแฟต
- วัตถุประสงค์: ลดไขมันเฉพาะจุด เช่น แก้ม เหนียง หน้าท้อง แขนและขา
- วิธีการ: ฉีดสารที่ออกแบบมาเพื่อสลายเซลล์ไขมัน โดยเซลล์ไขมันจะถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบการเผาผลาญ
- ผลลัพธ์: ลดไขมันในบริเวณที่ฉีด
โบท็อก (Botox)
- วัตถุประสงค์: ลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้า
- วิธีการ: ฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินเพื่อหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีด
- ผลลัพธ์: ลดริ้วรอยหรือการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ เช่น ริ้วรอยผาก ริ้วร้อยตีนกาลดขนาดกราม
ฉีดแฟต เจ็บไหม ?
การฉีดแฟตความรู้สึกเจ็บจะขึ้นอยู่กับปัจจัย เช่น ความทนทานต่อความเจ็บปวดของแต่ละบุคคล บางคนอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น เทคนิคและประสบการณ์ของผู้ที่ทำการฉีดอาจมีผลต่อความรู้สึกเจ็บปวดด้วยเช่นกัน และบางบริเวณอาจมีความรู้สึกเจ็บมากกว่าบริเวณอื่นๆ เนื่องจากมีเส้นประสาทมาก
ฉีดเมโสแฟต บวมกี่วัน ?
หลังการทำแฟต การบวมเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้น โดยปกติแล้ว มักจะเริ่มบวมในช่วง 1-2 วันแรกหลังการฉีด อาการบวมจะเริ่มลดลงในช่วง 3-7 วันหลังการฉีด แต่บางครั้งอาจใช้เวลานานถึง 2 สัปดาห์กว่าที่จะกลับสู่สภาพปกติ หากอาการบวมยังคงอยู่หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น มีอาการบวมที่รุนแรง ปวดมาก หรือมีอาการติดเชื้อ ควรติดต่อแพทย์เพื่อให้การตรวจสอบและการดูแลที่เหมาะสม
ฉีดเมโสแฟต กี่ครั้งเห็นผล ?
จำนวนครั้งในการฉีดเมโสแฟตผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณไขมันที่ต้องการลดและบริเวณที่ฉีด ซึ่งบางบริเวณอาจต้องฉีดหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น โดยทั่วไปมักจะมีการฉีดอยู่ที่ประมาณ 2-4 ครั้ง เพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่บางคนอาจต้องการการฉีดมากกว่านั้น การปรึกษากับแพทย์จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมและการวางแผนการฉีดที่ตรงกับความต้องการของคุณ
ฉีดเมโสแฟต ราคาเท่าไร ?
ราคาในการฉีดแฟตจะแตกต่างกันไป มักจะขึ้นอยู่กับขนาดบริเวณที่ต้องการลดไขมัน จำนวน cc. และสถานที่ที่คุณเลือกทำการฉีด โดยทั่วไปราคาการฉีดแฟตในประเทศไทยจะอยู่ในช่วงประมาณ 3,000 – 15,000 บาทต่อครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยที่กล่าวถึงข้างต้น การตรวจสอบราคาและรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น
ฉีดเมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี ?
การเลือกยี่ห้อของเมโสแฟต (Fat Dissolving Injection) ควรพิจารณาหลายปัจจัย รวมถึงความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และการรับรองทางการแพทย์ ต่อไปนี้เป็นยี่ห้อแฟตที่นิยมและได้รับการยอมรับในทางการแพทย์
- Super Crystal Junior เหมาะสำหรับท่านที่ไขมันสะสมไม่เยอะมาก
- Super Crystal Banding สลายไขมันสูตรใหม่ล่าสุด! เหมาะสำหรับท่านที่มีไขมันสะสมในปริมาณมาก เน้นการสลายไขมันเป็นหลัก พร้อมสายรัดหน้าหลังการฉีดเพื่อลดการระคายเคืองและอาการระบมบวมของผิวได้เป็นอย่างดี
- K Star MB Slemming Face สารสกัดจากธรรมชาติที่มีสารสกัดจากข้าวบาเล่ ใบบัวบก และธัญพืชตระกูลถั่ว ช่วยสลายไขมันโดยไม่ทำลายชั้นผิวหนัง ชั้นคอลลาเจนและน้ำในผิว
- K-Star SASI Slemming Burn Essence เด่นในเรื่องความแสบน้อย ไม่บวม (บางท่านที่ผิวบอบบางจะบวมได้เล็กน้อยหลังฉีด 3-4 ชม.) พร้อมบำรุงผิวด้วยสารสกัดจากธรรมชาติถึง 12 ชนิด
- Yoon Kwak Ju Sa (Laura) : มีส่วนผสมเด่นของสารสกัดจากสาหร่าย 2 สายพันธุ์ L-Tyrosine, Amino Peptides และ Visnadine ที่สกัดจากดอก Amni visnaga ช่วยเร่งการเผาพลาญไขมันได้ถึง 2 เท่า โดยมีกรดอะมิโนจำเป็นในปริมาณสูง ทำให้ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวเรียบเนียน ลดการอักเสบ และกระชับผิวได้ดี
- K Star Rosé Intense Slemming Burn Essence มีสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ เด่นเรื่องการบำรุงผิวและไม่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยหลังการฉีด ไม่ทำลายความชุ่มชื้นของชั้นผิว ไม่ทำให้ผิวแห้ง
*ข้อควรรู้ ควรพิจารณาความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการรับรองจากหน่วยงานทางการแพทย์ จะช่วยให้คุณได้รับผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและปลอดภัย*
ฉีดเมโสแฟต ที่ไหนดี ?
หากใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะฉีดเมโสแฟต ที่ไหนดี ขอแนะนำที่ลีเอนจาง คลินิก เป็นคลินิกเกาหลีที่แรกในไทย ที่มีทีมแพทย์มากประสบการณ์ในการลดไขมัน และมีการศึกษาเทคนิคใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังเลือกใช้ยี่ห้อแฟตที่มีคุณภาพสูงและมีมาตรฐาน ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพนอกจากการฉีดเมโสแฟตแล้ว ลีเอนจางยังมีบริการอื่น ๆ ด้านการดูแลผิวที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีด้วยเช่นกัน เช่น การยกกระชับหน้าและการปรับรูปหน้า มีการให้คำปรึกษาก่อนการฉีดและติดตามผลหลังการฉีดอย่างใกล้ชิด ทำให้ผู้เข้ารับบริการได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด สามารถปรึกษาและสอบถามข้อมูลบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ @Lienjangthailand
โปรแกรมเมโสแฟต รีวิวที่ลีเอนจาง
สรุป
การฉีดเมโสแฟตเป็นวิธีการลดไขมันเฉพาะจุดที่มีการทำลายเซลล์ไขมันในบริเวณที่ฉีด โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นอีกหนึ่งวิธีในการลดไขมันที่นิยมอย่างมาก ไม่มีว่าจะช่วงอายุไหนก็ต่างเลือกที่จะลดไขมันด้วยวิธีนี้ อย่างไรก็ตามควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้ชำนาญและศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการลดไขมัน