ดริปวิตามินผิว IV Drip ทางเลือกใหม่หรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและผิวพรรณ เป็นการดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอก ที่เห็นผลลัพธ์เร็วและมีประสิทธิภาพ เพราะในปัจจุบันเราต้องเผชิญกับมลภาวะ แสงแดด ความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ การดูแลผิวแบบเดิม ๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไป จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หนุ่ม ๆ สาว ๆ ต่างให้ความสนใจการรดริปวิตามินผิวกันมากขึ้น ดริปวิตามินผิวคืออะไร ? ทำไมถึงกลายเป็นที่นิยม และเหมาะกับใคร ? ราคาเท่าไร ? บทความนี้ลีเอนจางจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ IV Drip อย่างละเอียด เพื่อเป็นแนวทางการตัดสินใจค่ะ
IV Drip คืออะไร ?
ดริปวิตามินผิว หรือ IV Drip คือ การฉีดวิตามินและสารอาหารเข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านทางหลอดเลือด ซึ่งทำให้สารอาหารสามารถถูกดูดซึมได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าการรับประทาน ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการดริปวิตามินผิวมักมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวและสุขภาพ เช่น วิตามินซี กลูตาไธโอน วิตามินบีรวม คอลลาเจน และแร่ธาตุ การดริปวิตามินผิวได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและสามารถปรับสูตรให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคลได้ ทั้งเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื้น ลดความหมองคล้ำ หรือฟื้นฟูสภาพผิวจากความเหนื่อยล้า
IV Drip ช่วยเรื่องอะไร ?
การดริปวิตามินผิว IV Drip มีประโยชน์หลากหลายตามสูตรที่ใช้ โดยทั่วไปสามารถช่วยในเรื่องดังต่อไปนี้
- ช่วยเพิ่มพลังงานและลดความเหนื่อยล้า
- ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายต่อสู้กับการติดเชื้อได้ดีขึ้น
- ช่วยให้ผิวพรรณดูสว่าง กระจ่างใส และมีความชุ่มชื้นมากขึ้น
- ช่วยในการขับสารพิษ ทำให้ร่างกายมีสุขภาพดีและลดการสะสมของสารพิษ
- ช่วยคืนความสมดุลและลดอาการเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกลหรือลดอาการแฮงค์ได้
- ช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นในร่างกายได้รวดเร็ว
- ช่วยเติมสารอาหารและเกลือแร่ที่สูญเสียไปหลังการออกกำลังกายหนัก ๆ
IV Drip อันตรายไหม ?
การดริปวิตามินผิว IV Drip Vitamin เป็นการทำหัตถการที่ปลอดภัยหากทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ อย่างไรก็ตามการดริปวิตามินผิวก็มีความเสี่ยงที่ควรระวังอยู่ โดยเฉพาะหากไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องหรือเลือกทำในสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นความเสี่ยงที่ต้องคำนึงถึงมีดังนี้
- หากไม่ใช้เข็มหรืออุปกรณ์ที่สะอาดและปลอดเชื้อ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่บริเวณฉีดหรือเข้าสู่กระแสเลือด
- บางคนอาจมีอาการแพ้วิตามินหรือสารอาหารใน IV Drip ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้ตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรง เช่น มีผื่น หายใจลำบาก หรือช็อกจากอาการแพ้ (anaphylaxis)
- การฉีดอาจทำให้เกิดการอักเสบหรือบวมบริเวณที่ฉีด หรือในกรณีที่รุนแรงอาจมีการรั่วไหลของสารอาหารเข้าสู่เนื้อเยื่อรอบ ๆ
- หากปริมาณวิตามินหรือแร่ธาตุที่ฉีดเกินขนาดที่ร่างกายต้องการ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ไตทำงานหนักขึ้นหรือเกิดภาวะเกลือแร่เกิน
- หากให้ IV Drip ในปริมาณที่มากหรือต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดภาวะเกลือแร่ไม่สมดุลหรือน้ำท่วมปอด
หลักการทำงานของ IV Drip
การทำงานของการดริปวิตามินผิว IV Drip คือการส่งสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ หรือยาเข้าสู่ร่างกายโดยตรงผ่านทางหลอดเลือด ซึ่งช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าการรับประทาน โดยมีขั้นตอนการทำงานดังนี้
- การฉีดผ่านทางหลอดเลือด : ในการดริปวิตามินผิวจะใช้เข็มขนาดเล็กเชื่อมต่อกับหลอดเลือด เพื่อให้สารอาหารหรือยาผ่านเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง ส่วนใหญ่จะฉีดที่บริเวณแขน เพราะมีหลอดเลือดดำขนาดใหญ่และง่ายต่อการเข้าถึง
- การดูดซึมสารอาหารอย่างรวดเร็ว : เมื่อวิตามินเข้าสู่กระแสเลือด มันจะถูกส่งไปยังอวัยวะและระบบต่าง ๆ ของร่างกายโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยอาหารในระบบทางเดินอาหาร ร่างกายจึงสามารถรับประโยชน์จากสารอาหารได้ในทันที ในขณะที่การรับประทานสารอาหารหรือวิตามินทางปากอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะถูกดูดซึมและมีประสิทธิภาพน้อยกว่า
- ควบคุมปริมาณการส่งสารได้อย่างแม่นยำ : การดริปวิตามินผิวสามารถควบคุมปริมาณสารอาหารหรือวิตามินที่เข้าสู่ร่างกายได้อย่างแม่นยำ ทำให้มั่นใจได้ว่าร่างกายจะได้รับปริมาณที่เหมาะสม โดยไม่ต้องกังวลว่าร่างกายจะดูดซึมไม่เต็มที่ นอกจากนี้ยังสามารถปรับความเร็วในการหยดของน้ำเกลือหรือวิตามินตามความต้องการของผู้รับบริการได้
- การกระจายสารเข้าสู่ระบบต่าง ๆ : เมื่อวิตามินเข้าสู่กระแสเลือด จะถูกลำเลียงไปยังอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย เช่น ผิวหนัง สมอง กล้ามเนื้อ และตับ ซึ่งสารอาหารจะทำหน้าที่ช่วยบำรุง ฟื้นฟู และเสริมสร้างระบบต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ของ IV Drip แต่ละสูตร เช่น การให้วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยบำรุงผิวพรรณ หรือการให้วิตามินบีและกรดอะมิโนเพื่อเพิ่มพลังงานและช่วยฟื้นฟูร่างกาย
- การทำงานอย่างต่อเนื่อง : กระบวนการทำดริปวิตามินผิว จะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสูตรที่ใช้และความเร็วในการหยด หลังจากการทำดริปวิตามินผิว ร่างกายจะเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง เช่น ผิวที่สดใสขึ้น พลังงานเพิ่มขึ้น หรืออาการเหนื่อยล้าที่ลดลง
ดริปวิตามินผิว IV Drip เหมาะกับใครบ้าง ?
ผู้ที่เหมาะกับการดริปวิตามินผิว มักจะเป็นผู้ที่มีความต้องการด้านสุขภาพหรือความงาม เช่น
- ผู้ที่ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย หรือต้องการเพิ่มพลังงานในระยะเวลาที่รวดเร็ว เช่น ผู้ที่มีภาวะเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือการเดินทางไกล (เจ็ตแล็ก)
- ผู้ที่ต้องการผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น และลดความหมองคล้ำ สามารถดริปวิตามินผิวที่มีวิตามิน C และกลูต้าไธโอนได้
- ผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อง่าย หรือระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ สามารถดริปวิตามินผิวที่มีวิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน
- นักกีฬาหรือคนที่ออกกำลังกายหนัก การดริปวิตามินผิวสามารถช่วยเติมเกลือแร่และสารอาหารที่สูญเสียไปหลังการออกกำลังกาย เพื่อช่วยในการฟื้นตัว
- ผู้ที่ต้องการขับสารพิษออกจากร่างกาย เช่น คนที่ต้องการล้างสารพิษจากอาหาร เครื่องดื่ม หรือสิ่งแวดล้อม
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ บางคนที่มีภาวะขาดวิตามินหรือเกลือแร่ เช่น ผู้ที่ดูดซึมสารอาหารได้ไม่ดี หรือมีปัญหาการกินที่ทำให้ขาดสารอาหาร
- ผู้ที่ฟื้นตัวจากความเจ็บป่วย การดริปวิตามินผิวสามารถช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นจากอาการป่วย เช่น หลังไข้หวัดใหญ่ การผ่าตัด หรือการพักฟื้นจากโรคอื่น ๆ
ดริปวิตามินผิว IV Drip กี่ครั้งถึงเห็นผล ?
จำนวนครั้งที่ต้องดริปวิตามินผิว ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และสภาพร่างกายของแต่ละคน แต่ทั่วไปแล้วคุณอาจเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้หลังจากการทำประมาณ 1-2 ครั้ง สำหรับการบำรุงผิวหรือเพิ่มพลังงาน การทำ 3-4 ครั้งอาจช่วยให้เห็นผลที่ชัดเจนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้แผนการรักษาที่เหมาะสมกับความต้องการและสุขภาพของคุณค่ะ
4 สูตร IV Drip บำรุงผิวที่ลีเอนจาง
โปรแกรมดริปวิตามินผิว IV Drip ทุกสูตรของเราถูกคิดค้นและคำนวนสูตรโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกัน โดยใช้ส่วนผสมวิตามินและสารอาหารที่ได้มาตรฐานในปริมาณที่เหมาะสมต่อผู้รับบริการ IV Drip ของลีเอนจางมีทั้งหมด 4 สูตร ซึ่งแต่ละสูตรถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการดูแลที่แตกต่างกันของร่างกายและผิวพรรณจากภายในสู่ภายนอก คืนสมดุล แร่ธาตุ วิตามิน และสารอาหารสำคัญต่าง ๆ ให้แก่ร่างกาย โดยแต่ละสูตรมีความแตกต่างกันดังนี้
- สูตร Begin Venus ส่วนประกอบหลักคือ วิตามิน C + B Complex ช่วยเพิ่มพลังงาน กระปรี้กระเปร่า ลดความเหนื่อยล้า ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้น พร้อมทั้งบำรุงผิว เส้นผม และเล็บให้แข็งแรง
- สูตร Snow White Glowing ส่วนประกอบหลักคือ วิตามิน C + วิตามิน B12 + Acetin ช่วยในการปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ กระจ่างใส ผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง และเสริมสร้างระบบประสาท
- สูตร Elsa Shining Bright ส่วนประกอบหลักคือ วิตามิน C + B Complex + Acetin ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และฟื้นฟูผิวให้มีออร่า
- สูตร Cinderella Dazzling ส่วนประกอบหลักคือ วิตามิน C + วิตามิน B12 + B Complex + Acetin เป็นสูตรที่มีวิตามินซีสูง และมีปริมาณวิตามินและสารอาหารเยอะที่สุด ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระจ่างใส พร้อมทั้งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
Iv Drip ราคาเท่าไร ?
IV drip ราคาจะแตกต่างกันไปตามสูตรวิตามินและคลินิกที่ให้บริการ โดยทั่วไปแล้วราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 1,000-5,000 บาทต่อครั้ง ราคาที่ถูกไปอาจเสี่ยงเจอกับตัวยาที่ไม่ได้มาตฐาน ที่มีสารเจือปนที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้นควรเลือกใช้บริการจากคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีความปลอดภัย และควรตรวจสอบราคากับคลินิกที่คุณสนใจเพื่อข้อมูลที่แม่นยำและรายละเอียดเกี่ยวกับราคาโปรโมชั่นเพิ่มเติม
IV Drip VS ทานวิตามิน แบบไหนดีกว่ากัน ?
การเลือกระหว่างการดริปวิตามินผิว IV Drip และการทานวิตามินขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่นวัตถุประสงค์ สภาพร่างกาย และงบประมาณของแต่ละบุคคล ซึ่งการดริปวิตามินผิว เป็นการฉีดวิตามินเข้าสู่ร่างกายโดยตรง ทำให้ร่างกายดูดซึมได้เร็วอย่างเต็มที่ จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการทานวิตามิน ส่วนการทานวิตามิน สามารถทานได้ที่บ้านตามปกติ ค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าการฉีดวิตามิน และสามารถหาซื้อได้ง่าย แต่ร่างกายอาจดูดซึมสารอาหารได้น้อยกว่า อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพร่างกายของคุณ
การเตรียมตัวก่อนดริปวิตามินผิว IV Drip
การเตรียมตัวก่อนการดริปวิตามินผิวอย่างถูกวิธีมีความสำคัญ เพื่อให้กระบวนการมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ต่อไปนี้คือแนวทางในการเตรียมตัวที่ควรปฏิบัติ
- ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพร่างกายและวัตถุประสงค์ของการรักษา
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว หรือยาที่คุณกำลังใช้
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ ก่อนดริปวิตามินผิว เพื่อให้เส้นเลือดมีความชัดเจนและช่วยให้กระบวนการสะดวกขึ้น
- ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารหนักหรืออาหารมันก่อนดริปวิตามินผิว อาจเลือกทานอาหารเบา ๆ
- สวมเสื้อผ้าที่สะดวกและสามารถเปิดแขนได้ง่าย เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงเส้นเลือดได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนดริปวิตามินผิว เนื่องจากอาจมีผลต่อการทำงานของร่างกาย
การดูแลตัวเองหลังดริปวิตามินผิว IV Drip
การดูแลตัวเองหลังดริปวิตามินผิว IV Drip เป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้ดีและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง คำแนะนำที่ควรปฏิบัติมีดังนี้
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออกและรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว
- ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรือการเข้าไปในซาวน่าในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังการดริป เพื่อป้องกันการระคายเคืองของผิว
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงหรือใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันการเกิดผิวไหม้และรอยคล้ำ
- ใช้ครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นและช่วยฟื้นฟูผิว เช่น เซรั่มที่มีวิตามินซีหรืออี
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองในช่วง 24-48 ชั่วโมง
- พักผ่อนเพียงพอ เพราะการนอนหลับให้เพียงพอและพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูและบำรุงผิว
ดริปวิตามินผิว IV Drip ที่ไหนดี ?
การเลือกสถานที่ดริปวิตามินผิว IV Drip มีความสำคัญมาก เพื่อให้คุณได้รับการบริการที่มีคุณภาพและปลอดภัย ต่อไปคือบางแนวทางในการเลือกสถานที่ที่ดีและมีความปลอดภัย
- เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญในด้านการฉีดผิวและดริปวิตามิน
- ตรวจสอบสถานที่เพื่อให้แน่ใจว่ามีมาตรฐานความสะอาดและการควบคุมการติดเชื้อที่ดี
- ตรวจสอบว่าคลินิกมีการติดตามและบริการหลังการฉีดเพื่อให้คุณได้รับการดูแลที่ดี
- พิจารณาความสะดวกในการเดินทางและเวลาทำการของคลินิก รวมถึงการบริการที่ดีจากเจ้าหน้าที่
- ตรวจสอบราคาและโปรโมชั่นที่คลินิกเสนอ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับความคุ้มค่า
- เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง
สรุป
ดริปวิตามินผิว IV Drip คือกระบวนการที่ฉีดวิตามินเข้าสู่ร่างกายเข้าทางหลอดเลือด ซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะสำหรับการบำรุงผิว ฟื้นฟูสภาพผิว เพิ่มพลังงาน และเพิ่มสารอาหารให้กับผิวและสุขภาพร่างกาย หากท่านใดสนใจในการดริปวิตามินผิว สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand หรือสามารถเข้ามาติดต่อโดยตรงที่ Lienjang Clinic Thailand ทุกสาขาใกล้บ้าน เจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการและคุณหมอพร้อมให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด