เทรนด์ปากฉ่ำแบบสายเกา สายฝอ กำลังมาแรง สำหรับสาว ๆ ริมฝีปากที่สวยถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการมีรูปทรงปากที่สวยจะช่วยในเรื่องของบุคลิกที่ดี มีเสห์ และช่วยเพิ่มความมั่นใจอีกด้วย จึงทำให้สาว ๆ หันมาสนใจอยากที่จะปรับรูปทรงปากให้สวยขึ้นด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะการฉีดฟิลเลอร์ปาก นอกจากจะช่วยเติมเต็มเพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปากแล้ว ยังช่วยในเรื่องการแก้ไขปัญหาริมฝีปากแห้งได้อีกด้วย
แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ? ยี่ห้อไหนฉีดแล้วปังและปลอดภัย ในบทความนี้ ลีเอนจาง คลินิก จะมาแนะนำ ยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่ฉีดแล้วสวยได้รูป ปลอดภัย ที่ลีเอนจางเลือกใช้ รวมถึงแนะนำวิธีเช็คฟิลเลอร์แท้ เพื่อให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่ตรงใจ และเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้นค่ะ อย่ารอช้างานปากต้องมาแล้ว!
ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?
ก่อนที่จะไปเลือกฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ? ควรทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ปากกันก่อนว่าคืออะไร ? มีคุณสมบัติอย่างไร ? ฟิลเลอร์ปาก คือ การฉีดสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่เรียกว่า กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) หรือ HA เข้าไปในริมฝีปาก เพื่อเพิ่มความเต็มอิ่ม ชุ่มชื้น และปรับรูปทรงของริมฝีปากให้สวยงามตามที่ต้องการ ฟิลเลอร์ปากจะชา่วยในการแก้ไขปัญหาริมฝีปากบาง ไม่สมส่วน หรือช่วยให้ริมฝีปากดูอ่อนเยาว์และชุ่มชื้นมากขึ้น ฟิลเลอร์ปากมีคุณสมบัติสำคัญที่ปลอดภัยและสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ โดยทั่วไปผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ปากจะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลหลังการฉีด
ประเภทของฟิลเลอร์มีกี่แบบ ?
ฟิลเลอร์ (Filler) มีหลายประเภท การเลือกประเภทของฟิลเลอร์ขึ้นอยู่กับความต้องการ ผลลัพธ์ที่ต้องการ และคำแนะนำของแพทย์ โดยฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยที่สุดในปัจจุบันคือ ฟิลเลอร์ชนิดกรดไฮยาลูโรนิก (HA) เนื่องจากสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติและมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่าชนิดอื่นๆ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler) โดยใช้กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid – HA) เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมที่สุด เนื่องจากปลอดภัยและสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติในร่างกาย โดยไม่ทิ้งสารตกค้าง ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของ HA ที่ใช้
- ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) เช่น แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite – CaHA) และ โพลีแอล-แลคติกแอซิด (Poly-L-lactic Acid – PLLA) ใช้เพื่อเติมเต็มและยกกระชับใบหน้า สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวได้ แต่จะไม่สามารถสลายได้หมด 100% มีความปลอดภัยน้อยกว่าฟิลเลอร์แบบชั่วคราว ซึ่งผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2-3 ปี
- ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler) โดยใช้สารโพลีเมทิลเมทาคริเลต (Polymethylmethacrylate – PMMA) และ ซิลิโคนเหลว พาราฟิน เป็นสารที่ไม่สามารถสลายไปได้ตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้เป็นฟิลเลอร์ถาวร อย่างไรก็ตาม ฟิลเลอร์แบบนี้อาจมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนและการเกิดปัญหาในระยะยาว เช่น การติดเชื้อ หรือก้อนสารตกค้างใต้ผิวหนัง
เลือกฟิลเลอร์ปากยังไงให้เหมาะกับตัวเองที่สุด
การเลือกฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดีให้เหมาะสมกับตัวเองนั้น มีความสำคัญมาก เนื่องจากแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ถูกต้องจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการและมีความปลอดภัยสูง ต่อไปนี้คือคำแนะนำในการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ปากอย่างเหมาะสมและถูกต้อง
- หากคุณมีริมฝีปากบาง ควรเลือกฟิลเลอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นและเติมเต็มได้มาก เช่น ฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid (HA) ที่มีเนื้อบางเบา เพื่อช่วยให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติและไม่แข็งเกินไป
- หากคุณมีริมฝีปากใหญ่หรือมีเนื้อปากเยอะ การใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งกว่าหรือมีความหนาแน่นมากขึ้นจะช่วยเพิ่มความคมชัดของรูปทรงปากได้ดีกว่า
หากต้องการลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ เลือกฟิลเลอร์ที่มีเนื้อบางเบา เช่น Juvederm Volbella หรือ Restylane Kysse ที่ออกแบบมาสำหรับการฉีดริมฝีปากโดยเฉพาะ - หากต้องการเติมเต็มเพิ่มความอวบอิ่ม ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความหนาแน่นสูง เช่น Juvederm Ultra XC หรือ Restylane Silk ซึ่งช่วยเพิ่มความเต็มอิ่มให้กับริมฝีปากได้อย่างชัดเจน
- หากต้องการปรับรูปทรงปากสวย ๆ ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีความคงทนและมีการยกกระชับ เช่น Juvederm Volift หรือ Belotero Balance เพื่อให้รูปทรงของริมฝีปากชัดเจนมากขึ้น
- หากต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับริมฝีปาก ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีสารเติมเต็มกักเก็บน้ำสูง เช่น Restylane Vital Light หรือ Juvederm Hydrate
- หากต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน ควรเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm Volbella ซึ่งจะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน หรือ Restylane Kysse (ประมาณ 6-12 เดือน)
- หากต้องการลองดูผลลัพธ์ก่อนและพร้อมจะเปลี่ยนทรงหรือยกเลิกการใช้ฟิลเลอร์ในอนาคต เลือกฟิลเลอร์ที่อยู่ไม่นานมาก เช่น Restylane Silk จะอยู่ได้นานประมาณ 6-9 เดือน
- ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์และได้รับการรับรอง เพื่อให้แพทย์ประเมินโครงหน้าของคุณและแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
- ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศ (เช่น FDA หรือ อย.) เพื่อให้มั่นใจว่ามีความปลอดภัย
- ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีราคาที่แตกต่างกันไป ควรเลือกยี่ห้อที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ โดยไม่ควรเลือกฟิลเลอร์ที่ราคาถูกจนเกินไป เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย
*การเลือกฟิลเลอร์ปากที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยมากขึ้น หากคุณมีข้อสงสัยหรืออยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฟิลเลอร์ปาก สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand*
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี 2024
หากต้องการฉีดฟิลเลอร์ปาก แต่ยังลังเลว่าจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ? ให้ได้รูปทรงปากที่ตรงใจและเหมาะกับใบหน้าตัวเอง วันนี้ ลีเอนจาง คลินิก มีฟิลเลอร์ปาก 5 รุ่นมาแนะนำ ซึ่งเป็นยี่ห้อที่ปลอดภัยได้มาตฐาน ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ซึ่งแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นมีความโดดเด่นที่ต่างกัน จะเป็นอย่างไรตามมาดูด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Juvederm
Juvederm เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยใช้สาร กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายและมีความปลอดภัยสูง Juvederm ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกาและองค์การอาหารและยาของหลายประเทศ (อย.) รวมถึงประเทศไทย
จุดเด่นของฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Juvederm
- Juvederm ใช้สารกรดไฮยาลูโรนิกที่มีคุณภาพสูงและได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแล
- เนื้อเจลของ Juvederm มีความนุ่มและยืดหยุ่น ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน
- กรดไฮยาลูโรนิกใน Juvederm ช่วยดึงดูดน้ำและคงความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากดูเต็มและสดใส
- ฟิลเลอร์ของ Juvederm มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าฟิลเลอร์บางยี่ห้อ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นและตำแหน่งที่ฉีด
ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่นที่เหมาะสำหรับฉีดปาก
- Juvederm Ultra XC เหมาะสำหรับเพิ่มความอิ่มและเต็มให้กับริมฝีปาก โดยมีเนื้อเจลที่มีความหนาแน่นสูง ช่วยเพิ่มปริมาตรให้ริมฝีปากดูเอิบอิ่มมากขึ้น มีสารยาชาผสม (Lidocaine) เพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีด ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
- Juvederm Volbella XC ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความอิ่มและปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลุคที่ไม่ดูโอเวอร์เกินไป และมีความเนียนนุ่ม มีความหนาแน่นน้อยกว่า Ultra XC ทำให้ให้ผลลัพธ์ที่ดูอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
- Juvederm Vollure XC มีความยืดหยุ่นและความหนาแน่นปานกลาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความเต็มอิ่ม
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Restylane
Restylane เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์ที่มีชื่อเสียงจากประเทศสวีเดน ใช้สาร กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) เช่นเดียวกับ Juvederm แต่มีเทคโนโลยีและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการที่หลากหลาย โดยฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกาและองค์การอาหารและยาของหลายประเทศ (รวมถึงประเทศไทย)
จุดเด่นของฟิลเลอร์ปาก Restylane
- Restylane ใช้เทคโนโลยีการผลิต NASHA (Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid) และ OBT (Optimal Balance Technology) ที่ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและความหนาแน่นที่เหมาะสมสำหรับการฉีดในส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า
- Restylane ผลิตจากกรดไฮยาลูโรนิกที่มีคุณภาพสูงและได้รับการรับรอง มีการศึกษาทางคลินิกมากมายที่ยืนยันถึงความปลอดภัย
- Restylane มีสูตรที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อการฉีดริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งหรือเป็นก้อน
- กรดไฮยาลูโรนิกใน Restylane ช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากดูสุขภาพดีและเต่งตึง
ฟิลเลอร์ Restylane รุ่นที่เหมาะสำหรับปาก
- Restylane Kysse ออกแบบมาสำหรับการฉีดริมฝีปากโดยเฉพาะ ให้ผลลัพธ์ที่ดูอิ่มเอิบและเป็นธรรมชาติ เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้ริมฝีปากเคลื่อนไหวได้ตามธรรมชาติ และคงความรู้สึกนุ่ม มีสารยาชาผสม (Lidocaine) เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีด ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
- Restylane Silk เป็นฟิลเลอร์ที่มีอนุภาคเล็ก เหมาะสำหรับการเติมเต็มริมฝีปากที่บางและละเอียดอ่อน ช่วยเพิ่มความเรียบเนียนและเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ รอบริมฝีปากได้ดี ให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นมากกว่าการเพิ่มปริมาตร ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-9 เดือน
- Restylane Refyne เหมาะสำหรับการเพิ่มความยืดหยุ่นและเติมเต็มริมฝีปากเล็กน้อย มีความยืดหยุ่นและเนื้อฟิลเลอร์ที่บางเบา ช่วยให้ริมฝีปากเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาริมฝีปากที่เริ่มมีริ้วรอยและต้องการเพิ่มความอิ่มเอิบ ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Belotero
Belotero เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์ที่ใช้สาร กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งผลิตโดยบริษัท Merz Pharmaceuticals จากประเทศเยอรมนี ฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) และมีชื่อเสียงในเรื่องของการให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและเรียบเนียน โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์บริเวณริมฝีปาก
จุดเด่นของฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Belotero
- Belotero ใช้เทคโนโลยี DCL ที่ทำให้เนื้อเจลมีความนุ่มและยืดหยุ่น ช่วยให้ฟิลเลอร์สามารถผสานเข้ากับผิวได้อย่างแนบเนียนและดูเป็นธรรมชาติ
- ฟิลเลอร์ Belotero มีเนื้อเจลที่เรียบเนียน ทำให้ไม่เกิดรอยบุ๋มหรือเป็นก้อนหลังฉีด และเหมาะสำหรับการเติมเต็มริมฝีปากที่บางหรือมีริ้วรอยเล็ก ๆ
- ผลลัพธ์จากการใช้ฟิลเลอร์ Belotero ทำให้ริมฝีปากดูอ่อนเยาว์และเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลุคที่ไม่ดูโอเวอร์
- นอกจากริมฝีปากแล้ว ฟิลเลอร์ Belotero ยังสามารถใช้เติมเต็มริ้วรอยบนใบหน้าได้หลายตำแหน่ง
ฟิลเลอร์ Belotero รุ่นที่เหมาะสำหรับปาก
- Belotero Balance เหมาะสำหรับการเติมเต็มริมฝีปาก เพิ่มความอิ่มและเรียบเนียนโดยไม่เพิ่มความหนามากเกินไป มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและไม่แข็ง ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
- Belotero Soft เป็นฟิลเลอร์ที่มีความนุ่มและเนื้อเจลละเอียด เหมาะสำหรับการเติมเต็มความชุ่มชื้นและแก้ไขริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณริมฝีปาก ให้ลุคที่เป็นธรรมชาติและเหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากบางและต้องการการเติมเต็มเพียงเล็กน้อย ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-9 เดือน
- Belotero Intense เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรของริมฝีปากที่ต้องการลุคที่ดูอวบอิ่มและชัดเจนขึ้น เนื้อฟิลเลอร์มีความหนาแน่นสูง ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานและชัดเจน ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Yvoiero
Yvoire ( อี-วอ-เอร) เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท LG Chem หนึ่งในบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำของโลก ฟิลเลอร์ Yvoire ใช้ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) เป็นส่วนประกอบหลักที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย
จุดเด่นของฟิลเลอร์ปาก Yvoire
- ใช้เทคโนโลยี HICE (Highly Concentrated Cross-Linking) ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความเข้มข้นสูงและมีโครงสร้างที่แข็งแรง ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและยาวนานขึ้น
- ฟิลเลอร์ Yvoire มีเนื้อเจลที่นุ่มนวลและยืดหยุ่นดี สามารถฉีดเข้าไปในริมฝีปากได้โดยไม่ทำให้เกิดก้อนหรือรอยบุ๋ม
- ผลิตจากกรดไฮยาลูโรนิกที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย โดยไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ จึงลดความเสี่ยงในการแพ้
- ฟิลเลอร์ Yvoire มีราคาที่เหมาะสม คุ้มค่า เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์แบรนด์อื่น ๆ ในตลาด โดยยังคงคุณภาพและความปลอดภัยสูง
ฟิลเลอร์ Yvoire รุ่นที่เหมาะสำหรับปาก
- Yvoire Classic S เหมาะสำหรับการเติมเต็มริมฝีปากและริ้วรอยเล็ก ๆ รอบปาก เนื้อฟิลเลอร์มีความนุ่มและยืดหยุ่น ช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความอิ่มเล็กน้อย ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
- Yvoire Volume S เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรและความอิ่มเอิบของริมฝีปาก เนื้อฟิลเลอร์มีความหนาแน่นและความคงตัวสูง ให้ผลลัพธ์ที่เด่นชัดขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลุคที่ดูอิ่มเอิบและชัดเจนขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Neuramis
Neuramis เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีใต้ ผลิตโดยบริษัท Medytox ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในด้านเวชภัณฑ์และความงามในเอเชีย ฟิลเลอร์ Neuramis ใช้ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid หรือ HA) ที่ได้มาตรฐานสูงและได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ทำให้เป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการเติมเต็มริมฝีปากและบริเวณอื่น ๆ บนใบหน้า
จุดเด่นของฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Neuramis
- ใช้เทคโนโลยี SHAPE (Stabilized Hyaluronic Acid Purification Enhancement) เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและคงรูปได้นาน ทำให้
- สามารถปรับเข้ากับโครงสร้างผิวและเนื้อเยื่อได้ดี
ฟิลเลอร์ Neuramis มีเนื้อเจลที่เรียบเนียนและยืดหยุ่น ทำให้สามารถฉีดเข้าไปในบริเวณที่ต้องการได้อย่างแม่นยำและดูเป็นธรรมชาติ - กรดไฮยาลูโรนิกใน Neuramis มีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากดูเต่งตึงและอิ่มเอิบ
- เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐานสูง แต่ราคาย่อมเยากว่าแบรนด์ฟิลเลอร์จากยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่า
ฟิลเลอร์ Neuramis รุ่นที่เหมาะสำหรับปาก
- Neuramis Deep เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรและปรับรูปทรงของริมฝีปากให้ดูเต็มอิ่มและเต่งตึง เนื้อฟิลเลอร์มีความหนาแน่นสูง ช่วยให้ผลลัพธ์ที่คงตัวและชัดเจน มีส่วนผสมของสารยาชา (Lidocaine) เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีด ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
- Neuramis Volume เหมาะสำหรับการเพิ่มความอิ่มและปริมาตรของริมฝีปากให้เด่นชัดและมีลักษณะเต่งตึงมากขึ้น มีความยืดหยุ่นและความคงตัวสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 9-12 เดือน
- Neuramis Light เหมาะสำหรับการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากและแก้ไขริ้วรอยเล็ก ๆ รอบริมฝีปาก เนื้อฟิลเลอร์บางเบาและนุ่มนวล ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหนาหรือแข็ง ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-9 เดือน
ฟิลเลอร์ปาก แต่ละยี่ห้อราคาเท่าไร ?
ราคาฟิลเลอร์ปากสามารถแตกต่างกันไปตามยี่ห้อ สถานที่บริการและโปรโมชั่นที่แต่ละคลินิกจัดขึ้น เพื่อให้ได้ราคาที่แม่นยำและเหมาะสมกับความต้องการของคุณ ควรปรึกษากับแพทย์หรือคลินิกที่คุณสนใจ และต่อไปนี้คือราคาโดยประมาณ
- Juvederm ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 25,000 บาทต่อซีซี
- Restylane ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 12,000 – 22,000 บาทต่อซีซี
- Belotero ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 12,000 – 20,000 บาทต่อซีซี
- Yvoire ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 – 18,000 บาทต่อซีซี
- Neuramis ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 7,000 – 13,000 บาทต่อซีซี
วิธีเช็คฟิลเลอร์ปากของแท้
การตรวจสอบฟิลเลอร์ปากของแท้เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ลดความเสี่ยงจากการเจอผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ปลอมที่อาจเป็นอันตรายและไม่ปลอดภัย ฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดีที่เป็นของแท้สามารถเช็คจากคำแนะนำดังต่อไปนี้
- ฟิลเลอร์ของแท้จะมีฉลากที่ชัดเจนและบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ตรวจสอบว่าไม่มีการฉีกขาด
- ตรวจสอบหมายเลขซีเรียลหรือบาร์โค้ดบนบรรจุภัณฑ์ ฟิลเลอร์ของแท้มักจะมีรหัสที่เฉพาะเจาะจงซึ่งสามารถใช้ตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของผู้ผลิต
- บางแบรนด์มีระบบตรวจสอบหมายเลขซีเรียลออนไลน์ที่คุณสามารถใช้เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของผลิตภัณฑ์ได้
- ตรวจสอบวันหมดอายุและวันเดือนปีที่ผลิตฟิลเลอร์บนบรรจุภัณฑ์ และมีเลขล็อต Lot. ระบุไว้ทั้งหมด 4 จุด เช่น เลข Lot บนกล่องฟิลเลอร์ , เลข Lot บนถาดฟิลเลอร์ , เลข Lot บนสติกเกอร์ , เลข Lot บนหลอดฟิลเลอร์
- มีฉลากกำกับเป็นภาษาไทย และภายในกล่องมีเลขทะเบียนอย.ไทย
- ฟิลเลอร์ของแท้จะถูกเก็บในสภาพที่เหมาะสมและมีการควบคุมอุณหภูมิอย่างเคร่งครัด เช่น ในตู้ทำความเย็น
- ฟิลเลอร์ของแท้มักจะมีเนื้อเจลที่ใสและเนียน ลองดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงของสีหรือเนื้อสัมผัสที่ผิดปกติหรือไม่
- ฟิลเลอร์ของแท้มักจะไม่มีการตกตะกอนหรือการแยกชั้นในเนื้อเจล
ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ลีเอนจางแล้วปัง!
ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ ลีเอนจาง คลินิก ( Lienjang Clinic Thailand ) เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความเต็มอิ่ม ฉ่ำวาว ให้กับริมฝีปาก เพราะที่ลีเอนจาง มีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยใช้เทคนิคที่ทันสมัย และมี 3 ทรงปากยอดฮิตที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ทรง Noona Kiss , ทรง Noona Kiss , ทรง Kelly kiss ที่ให้ผลลัพธ์ที่สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ และเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรอง มีคุณภาพสูง เช่น Juvederm, Restylane และ Belotero ซึ่งมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่ดี โดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับลักษณะริมฝีปากและผลลัพธ์ที่ลูกค้าต้องการมากที่สุดค่ะ
สรุป
เมื่อพูดถึงฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ? การฉีดฟิลเลอร์ปากที่ดีควรเลือกจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรอง เช่น Juvederm , Restylane , หรือ Belotero ซึ่งแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่น Juvederm ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและยาวนาน , Restylane เหมาะสำหรับการเพิ่มปริมาตรและความยืดหยุ่น และ Belotero เหมาะสำหรับการเติมเต็มอย่างละเอียดและเรียบเนียน การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมควรพิจารณาจากลักษณะริมฝีปากของคุณและผลลัพธ์ที่ต้องการ รวมถึงการปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดค่ะ