บทความ

Article

Exosome คืออะไร ? จะช่วยบูสผิวให้สวยฉ่ำได้อย่างไร ?
Facebook
X
Email

Exosome คืออะไร ? จะช่วยบูสผิวให้สวยฉ่ำได้อย่างไร ?

หัวข้อที่น่าสนใจ

หากคุณกำลังมองหาวิธีการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส Exosome อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา! ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Exosome ว่าคืออะไร และทำไมถึงเป็นตัวช่วยที่ทรงพลังในการบูสผิวให้เนียนสวย ฉ่ำวาว ตั้งแต่การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปจนถึงการฟื้นฟูผิวจากภายใน เราจึงขอชวนให้ทุกท่านมาอ่านบทความนี้ เพื่อเปิดโลกใหม่ของการดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพ 

ทำความรู้จักกับ Exosome คืออะไร ? 

ทำความรู้จักกับ Exosome คืออะไร ? 

Exosome คือ อนุภาคขนาดเล็กระดับนาโนที่เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายปล่อยออกมา มีบทบาทสำคัญในการสื่อสารระหว่างเซลล์โดยการส่งโปรตีน ไขมัน และสารพันธุกรรม เช่น mRNA และ miRNA ไปยังเซลล์เป้าหมาย ช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และลดการอักเสบ 

ปัจจุบัน Exosome ถูกนำมาใช้เป็น Skin Booster ในวงการความงามและการแพทย์เพราะมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูสภาพผิว ลดริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมในการดูแลผิวพรรณและชะลอวัย

ส่วนประกอบของ Exosome

ผลิตภัณฑ์ Exosome มักเสริมด้วยส่วนผสมอื่น ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูผิวและเพิ่มประสิทธิภาพ ส่วนประกอบต่าง ๆ มีดังนี้

  1. Growth Factors ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และเร่งการฟื้นฟูเซลล์
  2. Peptides เช่น Copper Peptide และ Signal Peptides ที่ช่วยซ่อมแซมผิวและลดเลือนริ้วรอย
  3. Hyaluronic Acid ให้ความชุ่มชื้น เติมเต็มผิว และช่วยให้ผิวยืดหยุ่น
  4. Niacinamide (Vitamin B3) ลดรอยแดง จุดด่างดำ และเสริมเกราะป้องกันผิว
  5. Ceramides ช่วยเสริมความแข็งแรงของชั้นผิวและกักเก็บความชุ่มชื้น
  6. Antioxidants เช่น วิตามิน C, วิตามิน E และ Coenzyme Q10 ที่ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระและชะลอวัย
  7. Botanical Extracts สารสกัดจากพืช เช่น ใบบัวบก (Centella Asiatica) และชาเขียว ที่ช่วยลดการอักเสบและปลอบประโลมผิว

กระบวนการทำงานของ Exosome

  1. การปล่อยออกจากเซลล์ (Exosome Secretion) Exosome ถูกสร้างขึ้นภายในเซลล์และถูกปล่อยออกมาผ่านการหลอมรวมของถุงภายในเซลล์ (Multivesicular Bodies) กับเยื่อหุ้มเซลล์
  2. การส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ (Cell-to-Cell Communication) Exosome ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งสัญญาณ โดยภายในประกอบด้วยโปรตีน ไขมัน และสารพันธุกรรม เช่น mRNA และ miRNA ที่สามารถเปลี่ยนแปลงการทำงานของเซลล์เป้าหมาย
  3. การดูดซึมเข้าสู่เซลล์เป้าหมาย (Cellular Uptake) เซลล์เป้าหมายรับ Exosome ผ่าน 3 วิธีหลัก คือการหลอมรวมกับเยื่อหุ้มเซลล์ การจับกับตัวรับสัญญาณเฉพาะบนเซลล์ และการถูกกลืนเข้าไปภายในเซลล์ 
  4. การกระตุ้นและฟื้นฟูเซลล์ (Cellular Response & Regeneration) เมื่อลำเลียงเข้าสู่เซลล์เป้าหมาย Exosome จะปล่อยสารสำคัญที่ช่วย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ลดการอักเสบและซ่อมแซมเซลล์ กระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูและเพิ่มความแข็งแรงของเซลล์

ฉีด Exosome บริเวณไหนได้บ้าง ?

สามารถทำได้ในหลายบริเวณของร่างกาย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการรักษา โดยทั่วไปนิยมฉีดในจุดต่อไปนี้

  • บริเวณหน้าผาก ลดริ้วรอย เติมเต็มผิวให้ดูอิ่มฟู
  • บริเวณรอบดวงตา ลดความหมองคล้ำ ลดริ้วรอยใต้ตา
  • บริเวณแก้ม เพิ่มความกระชับ ลดความหย่อนคล้อย
  • บริเวณร่องแก้ม ลดริ้วรอยและเติมเต็มผิวให้ดูเรียบเนียน
  • บริเวณกรอบหน้า ช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้า
  • บริเวณคาง เพิ่มความเรียวและกระชับผิวบริเวณคาง
  • บริเวณลำคอ ช่วยลดริ้วรอยบริเวณลำคอ

Exosome ช่วยอะไรบ้าง ?

Exosome ช่วยอะไรบ้าง ?

Exosome มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นดังนี้

  1. ฟื้นฟูผิวและชะลอวัย (Skin Rejuvenation & Anti-Aging) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวเรียบเนียนและยืดหยุ่นขึ้น รวมถึงลดเลือนริ้วรอยและเส้นเล็ก ๆ บนใบหน้ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และลดความหมองคล้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวให้ดูสุขภาพดี
  2. ลดการอักเสบและซ่อมแซมผิว (Anti-Inflammatory & Skin Repair) ลดรอยแดง รอยดำจากสิว และรอยแผลเป็น ฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดและมลภาวะ และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดอาการแพ้และระคายเคือง
  3. กระตุ้นการงอกของเส้นผม (Hair Growth & Scalp Treatment) กระตุ้นรากผมให้แข็งแรง ลดปัญหาผมร่วงและผมบาง ช่วยให้เส้นผมหนาแน่นขึ้น และลดอาการหนังศีรษะอักเสบ
  4. ฟื้นฟูผิวบริเวณลำคอ มือ และร่างกาย (Neck, Hand & Body Rejuvenation) ลดริ้วรอยที่ลำคอและเนินอก ทำให้ผิวกระชับขึ้น ฟื้นฟูผิวบริเวณหลังมือ ลดความแห้งกร้านและริ้วรอย ช่วยให้ผิวบริเวณต่าง ๆ เรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์

ฉีด Exosome อันตรายไหม ?

โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองและดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจาก Exosome มาจากเซลล์ต้นกำเนิดหรือเซลล์ผิวที่ผ่านกระบวนการสกัด ทำให้มีความบริสุทธิ์สูงและลดโอกาสเกิดอาการแพ้ 

อย่างไรก็ตาม อาจพบผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น อาการบวม แดง หรือช้ำบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักหายไปภายใน 2-3 วัน ความเสี่ยงหลักมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการฉีดในสถานพยาบาลที่ไม่มีความปลอดภัย ดังนั้น ควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด

การฉีด Exosome เหมาะกับใคร ?

การฉีด Exosome เหมาะกับใคร ?

การฉีด Exosome เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิว ลดเลือนริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะกับกลุ่มต่อไปนี้

  • ผู้ที่ต้องการชะลอวัย ช่วยลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูผิวให้อ่อนเยาว์ และเพิ่มความกระชับ
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น เติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูฉ่ำวาวและสุขภาพดี
  • ผู้ที่มีรอยดำ รอยแดงจากสิว ลดรอยสิวและช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
  • ผู้ที่มีผิวอักเสบหรือระคายเคืองง่าย ช่วยลดการอักเสบและเสริมความแข็งแรงให้ผิว
  • ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง กระตุ้นรากผมและช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหลังทำหัตถการ เช่น เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ที่อาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง

ใครบ้างที่ไม่ควรฉีด Exosome ?

แม้ว่าการฉีด Exosome จะปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่มีบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อนรับการฉีด ได้แก่

  • หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ยังไม่มีงานวิจัยเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในกลุ่มนี้
    ผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบ เช่น โปรตีนจากเซลล์ต้นกำเนิดหรือสารที่ใช้ในกระบวนการสกัด
  • ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ (Autoimmune Disease) เช่น SLE, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ อาจมีความเสี่ยงต่อปฏิกิริยาภูมิคุ้มกัน
  • ผู้ที่มีแผลเปิดหรือการติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณฉีด ควรรอให้แผลหายดีก่อนเพื่อป้องกันการอักเสบ
  • ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่ายหรือใช้ยาละลายลิ่มเลือด อาจเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำหรือเลือดออกผิดปกติ
  • ผู้ที่มีประวัติโรคมะเร็งหรือเคยเป็นมะเร็ง เนื่องจาก Exosome อาจกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ ซึ่งยังต้องการงานวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยในกลุ่มนี้

ฉีด Exosome เจ็บไหม ?

โดยทั่วไปจะไม่เจ็บมาก เนื่องจากการฉีดมักใช้เข็มขนาดเล็กและทำในบริเวณที่ผิวไม่ไวต่อความเจ็บปวดมากนัก อย่างไรก็ตาม บางคนอาจรู้สึกไม่สบายหรือรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในระหว่างการฉีด โดยเฉพาะในบริเวณที่ผิวบางหรือมีเส้นประสาทหนาแน่น เช่น ใบหน้า แต่ความรู้สึกเจ็บจะไม่รุนแรงและมักจะหายไปภายในไม่กี่นาทีหลังจากการฉีด นอกจากนี้ อาจใช้ครีมยาชาทาเพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บขณะทำการฉีด 

ฉีด Exosome ใช้เวลานานไหม ?

การฉีด Exosome ใช้เวลาไม่นาน โดยทั่วไปแล้วกระบวนการจะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและจำนวนจุดที่ต้องการรักษา ในระหว่างการฉีดแพทย์อาจใช้เวลาสักครู่ในการเตรียมและทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีด รวมถึงการฉีดในแต่ละจุด แต่หลังจากการฉีดแล้ว คุณสามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ทันที เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ไม่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน แม้ว่าผลลัพธ์จะไม่ทันทีทันใด แต่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนในช่วงเวลาไม่กี่วันหลังจากการฉีด

ลีเอนจาง คลินิก มีโปรแกรม Exosome อะไรบ้าง ?

ลีเอนจาง คลินิก มีโปรแกรม Exosome อะไรบ้าง ?

การฉีดโปรแกรม Exosome ที่ ลีเอนจาง คลินิก มีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและรักษาปัญหาผิวต่าง ๆ โดยเฉพาะการดูแลผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์และสดใส และที่ ลีเอนจาง คลินิก ก็มีโปรแกรม Exosome ที่มุ่งเน้นในการฟื้นฟูผิวพรรณและการดูแลความงาม โดยโปรแกรมหลักที่นิยม ได้แก่

EXO Reoair Skin Essence

เป็นตัวยาที่ทำจากพืช กับ DNA ปลาแซลมอน ที่ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพได้ลึกถึงระดับการแสดงออกของยีนส์ (Epigenetic) ฟื้นฟูการทำงานของเซลล์ผิว ยับยั้งกลไกการอักเสบและความเครียดของเซลล์ผิว และเพิ่มจำนวนเซลล์ใหม่ทดแทนส่วนเสียหาย พร้อมรักษาบาดแผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ ปรับโทนสีผิว (ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำและรอยแดงจากสิว)

E-X-O The Phyto Serum (Series 2)

เป็นเปิดตัวใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ L’ebss! สารสกัดจากพืชหลายชนิด เป็นถุงที่หลั่งออกมาจากเซลล์ โดยมีขนาดเล็กกว่ารูขุมขน ทำให้สามารถซึมซับได้เป็นอย่างดี ช่วยซ่อมแซมผิว ฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ แก้ปัญหาความชราของผิว และเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับผิว เหมาะสำหรับ หน้าแห้งกร้าน ผิวมัน ขาดความชุ่มชื้น รูขุมขนกว้างช่วยให้แลดูเล็กลง

Baby Face SMPF Complex สูตร Premium)

นวัตกรรมแห่งการ“บำรุงผิวหน้า”ให้อ่อนเยาว์ ด้วยสารสกัด G4PRF-300 เอกสิทธิ์หนึ่งเดียวจาก BNV Biolab ที่มี Growth Factor มากถึง 26 ชนิด, Protein 300 ชนิด และ Exosome ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี สเตียรอยด์ ฮอร์โมน หรือยาปฏิชีวนะ ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิว ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว และเพิ่มกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม เพิ่มความผิวชุ่มชื่น อิ่มฟู รูขุมขนกระชับ

*หากสนใจโปรแกรมดูแลผิวที่ ลีเอนจาง คลินิก สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand*

Exosome vs Rejuran ต่างกันอย่างไร ?

Exosome และ Rejuran ทั้งสองโปรแกรมนี้มีจุดมุ่งหมายในการฟื้นฟูผิวและชะลอวัย แต่มีความแตกต่างในส่วนประกอบและกระบวนการทำงานที่ส่งผลต่อผิวพรรณในแบบที่ต่างกัน โดย Exosome เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่ได้จากเซลล์ต้นกำเนิด (stem cells) หรือเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูผิว เช่น Fibroblasts ซึ่งช่วยส่งเสริมการสื่อสารระหว่างเซลล์เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมผิวที่เสียหายและเพิ่มการสร้างคอลลาเจนภายในผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใสขึ้น

ในขณะที่ Rejuran ใช้สาร PDRN (Polynucleotide) ซึ่งเป็น DNA ขนาดเล็กที่ได้จากปลาซาเลย์ โดยช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวจากภายใน โดยเฉพาะในการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลายจากริ้วรอยหรือแสงแดด Rejuran มีความสามารถในการปรับปรุงความยืดหยุ่นและกระชับผิว รวมทั้งลดรอยหมองคล้ำและรอยสิวได้เป็นอย่างดี สรุปแล้ว Exosome เหมาะสำหรับการฟื้นฟูผิวแบบองค์รวมและการกระตุ้นการฟื้นฟูจากภายใน ขณะที่ Rejuran เหมาะสำหรับการซ่อมแซมผิวที่มีรอยสิวและริ้วรอยที่เกิดจากความเสื่อมสภาพของผิว

Exosome ฉีดบ่อยแค่ไหน ?

สามารถทำได้ตามความต้องการของผู้รับการรักษาและความเหมาะสมกับสภาพผิว โดยทั่วไปแนะนำให้ฉีด 1-2 ครั้งต่อเดือน ในช่วงเริ่มต้นเพื่อฟื้นฟูผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จากนั้นสามารถลดความถี่ในการฉีดลงเป็น ทุก 3-6 เดือน เพื่อบำรุงรักษาผิวให้ดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใสตลอดเวลา โดยแพทย์จะพิจารณาตามผลลัพธ์และความเหมาะสมของแต่ละบุคคล

ฉีด Exosome กี่วันเห็นผล ?

ผลลัพธ์มักเริ่มเห็นภายใน 7-14 วัน หลังการฉีด โดยส่วนใหญ่จะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวที่ดูสดใสขึ้น กระจ่างใสและมีความชุ่มชื้นมากขึ้น หลังจากนั้นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เช่น ผิวกระชับขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และฟื้นฟูผิวจากภายในจะค่อย ๆ ปรากฏชัดเจนภายใน 1 เดือน การฟื้นฟูผิวและการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องตามกระบวนการทำงาน ซึ่งสามารถให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานและดูเป็นธรรมชาติในระยะยาว

หลังฉีด Exosome มีข้อห้ามอะไรบ้าง ? 

หลังฉีด Exosome มีข้อห้ามอะไรบ้าง ? 

หลังจากการฉีดควรปฏิบัติตามข้อแนะนำและหลีกเลี่ยงบางสิ่งเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและป้องกันการเกิดผลข้างเคียง ดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง หลังการฉีดควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงเป็นเวลา 1-2 วัน เนื่องจากผิวอาจไวต่อแสงแดดและมีโอกาสเกิดการระคายเคืองได้
  2. งดการออกกำลังกายหนัก ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีความหนักหรือทำให้เหงื่อออกมากใน 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ
  3. หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ผิวที่รุนแรง ควรงดการทำทรีตเมนต์ผิวเช่น เลเซอร์หรือการขัดผิว ภายใน 1-2 สัปดาห์หลังการฉีด เพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูและหลีกเลี่ยงการระคายเคือง
  4. งดการใช้เครื่องสำอางหนัก ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีสารเคมีหรือผลิตภัณฑ์ที่มีความรุนแรงในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด เพื่อไม่ให้ผิวระคายเคือง
  5. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้กระบวนการฟื้นฟูผิวช้าลง ควรงดการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 1-2 วันหลังการฉีด
  6. หลีกเลี่ยงการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกเพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองหรือความผิดปกติ

จะฉีด Exosome ราคาจะอยู่ที่เท่าไร ?

ราคาจะแตกต่างกันไปตามคลินิกและแพ็คเกจที่เลือก โดยทั่วไปจะมีราคาประมาณ 5,000 – 10,000 บาท ต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ บริเวณที่ฉีด และประเภทของโปรแกรมที่คุณเลือกที่คลินิกต่าง ๆ แต่ละแห่งอาจมีโปรโมชั่นหรือแพ็คเกจที่คุ้มค่า ซึ่งสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ที่คลินิกเพื่อสอบถามราคาที่ชัดเจนและเหมาะสมกับความต้องการของคุณ เพราะบางครั้งอาจมีการปรับราคาตามการรักษาหรือจำนวนครั้งที่ทำการฉีด

สรุป

Exosome เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวพรรณและชะลอวัย โดยการใช้อนุภาคขนาดเล็กจากเซลล์ต้นกำเนิดที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอย และฟื้นฟูผิวจากภายใน ซึ่งช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายและกระตุ้นการฟื้นฟูผิวให้สดใสขึ้น โดยไม่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน 

ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่คุ้มค่าหากต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและเป็นธรรมชาติ แม้การฉีดอาจมีค่าใช้จ่าย แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการกระตุ้นการฟื้นฟูผิวและการลดริ้วรอยสามารถช่วยให้ผิวดูกระชับ สดใส และอ่อนเยาว์ได้ในระยะยาว จึงถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เห็นชัดและมีความยั่งยืน

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี