หากคุณกำลังมองหาวิธีการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส Exosome อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา! ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Exosome ว่าคืออะไร และทำไมถึงเป็นตัวช่วยที่ทรงพลังในการบูสผิวให้เนียนสวย ฉ่ำวาว ตั้งแต่การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปจนถึงการฟื้นฟูผิวจากภายใน เราจึงขอชวนให้ทุกท่านมาอ่านบทความนี้ เพื่อเปิดโลกใหม่ของการดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพ
ทำความรู้จักกับ Exosome คืออะไร ?
Exosome คือ อนุภาคขนาดเล็กระดับนาโนที่เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายปล่อยออกมา มีบทบาทสำคัญในการสื่อสารระหว่างเซลล์โดยการส่งโปรตีน ไขมัน และสารพันธุกรรม เช่น mRNA และ miRNA ไปยังเซลล์เป้าหมาย ช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และลดการอักเสบ
ปัจจุบัน Exosome ถูกนำมาใช้เป็น Skin Booster ในวงการความงามและการแพทย์เพราะมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูสภาพผิว ลดริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมในการดูแลผิวพรรณและชะลอวัย
ส่วนประกอบของ Exosome
ผลิตภัณฑ์ Exosome มักเสริมด้วยส่วนผสมอื่น ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูผิวและเพิ่มประสิทธิภาพ ส่วนประกอบต่าง ๆ มีดังนี้
- Growth Factors ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และเร่งการฟื้นฟูเซลล์
- Peptides เช่น Copper Peptide และ Signal Peptides ที่ช่วยซ่อมแซมผิวและลดเลือนริ้วรอย
- Hyaluronic Acid ให้ความชุ่มชื้น เติมเต็มผิว และช่วยให้ผิวยืดหยุ่น
- Niacinamide (Vitamin B3) ลดรอยแดง จุดด่างดำ และเสริมเกราะป้องกันผิว
- Ceramides ช่วยเสริมความแข็งแรงของชั้นผิวและกักเก็บความชุ่มชื้น
- Antioxidants เช่น วิตามิน C, วิตามิน E และ Coenzyme Q10 ที่ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระและชะลอวัย
- Botanical Extracts สารสกัดจากพืช เช่น ใบบัวบก (Centella Asiatica) และชาเขียว ที่ช่วยลดการอักเสบและปลอบประโลมผิว
กระบวนการทำงานของ Exosome
- การปล่อยออกจากเซลล์ (Exosome Secretion) Exosome ถูกสร้างขึ้นภายในเซลล์และถูกปล่อยออกมาผ่านการหลอมรวมของถุงภายในเซลล์ (Multivesicular Bodies) กับเยื่อหุ้มเซลล์
- การส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ (Cell-to-Cell Communication) Exosome ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งสัญญาณ โดยภายในประกอบด้วยโปรตีน ไขมัน และสารพันธุกรรม เช่น mRNA และ miRNA ที่สามารถเปลี่ยนแปลงการทำงานของเซลล์เป้าหมาย
- การดูดซึมเข้าสู่เซลล์เป้าหมาย (Cellular Uptake) เซลล์เป้าหมายรับ Exosome ผ่าน 3 วิธีหลัก คือการหลอมรวมกับเยื่อหุ้มเซลล์ การจับกับตัวรับสัญญาณเฉพาะบนเซลล์ และการถูกกลืนเข้าไปภายในเซลล์
- การกระตุ้นและฟื้นฟูเซลล์ (Cellular Response & Regeneration) เมื่อลำเลียงเข้าสู่เซลล์เป้าหมาย Exosome จะปล่อยสารสำคัญที่ช่วย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ลดการอักเสบและซ่อมแซมเซลล์ กระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูและเพิ่มความแข็งแรงของเซลล์
ฉีด Exosome บริเวณไหนได้บ้าง ?
สามารถทำได้ในหลายบริเวณของร่างกาย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการรักษา โดยทั่วไปนิยมฉีดในจุดต่อไปนี้
- บริเวณหน้าผาก ลดริ้วรอย เติมเต็มผิวให้ดูอิ่มฟู
- บริเวณรอบดวงตา ลดความหมองคล้ำ ลดริ้วรอยใต้ตา
- บริเวณแก้ม เพิ่มความกระชับ ลดความหย่อนคล้อย
- บริเวณร่องแก้ม ลดริ้วรอยและเติมเต็มผิวให้ดูเรียบเนียน
- บริเวณกรอบหน้า ช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้า
- บริเวณคาง เพิ่มความเรียวและกระชับผิวบริเวณคาง
- บริเวณลำคอ ช่วยลดริ้วรอยบริเวณลำคอ
Exosome ช่วยอะไรบ้าง ?
Exosome มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นดังนี้
- ฟื้นฟูผิวและชะลอวัย (Skin Rejuvenation & Anti-Aging) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวเรียบเนียนและยืดหยุ่นขึ้น รวมถึงลดเลือนริ้วรอยและเส้นเล็ก ๆ บนใบหน้ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และลดความหมองคล้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวให้ดูสุขภาพดี
- ลดการอักเสบและซ่อมแซมผิว (Anti-Inflammatory & Skin Repair) ลดรอยแดง รอยดำจากสิว และรอยแผลเป็น ฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดและมลภาวะ และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดอาการแพ้และระคายเคือง
- กระตุ้นการงอกของเส้นผม (Hair Growth & Scalp Treatment) กระตุ้นรากผมให้แข็งแรง ลดปัญหาผมร่วงและผมบาง ช่วยให้เส้นผมหนาแน่นขึ้น และลดอาการหนังศีรษะอักเสบ
- ฟื้นฟูผิวบริเวณลำคอ มือ และร่างกาย (Neck, Hand & Body Rejuvenation) ลดริ้วรอยที่ลำคอและเนินอก ทำให้ผิวกระชับขึ้น ฟื้นฟูผิวบริเวณหลังมือ ลดความแห้งกร้านและริ้วรอย ช่วยให้ผิวบริเวณต่าง ๆ เรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์
ฉีด Exosome อันตรายไหม ?
โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองและดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจาก Exosome มาจากเซลล์ต้นกำเนิดหรือเซลล์ผิวที่ผ่านกระบวนการสกัด ทำให้มีความบริสุทธิ์สูงและลดโอกาสเกิดอาการแพ้
อย่างไรก็ตาม อาจพบผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น อาการบวม แดง หรือช้ำบริเวณที่ฉีด ซึ่งมักหายไปภายใน 2-3 วัน ความเสี่ยงหลักมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการฉีดในสถานพยาบาลที่ไม่มีความปลอดภัย ดังนั้น ควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด
การฉีด Exosome เหมาะกับใคร ?
การฉีด Exosome เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิว ลดเลือนริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะกับกลุ่มต่อไปนี้
- ผู้ที่ต้องการชะลอวัย ช่วยลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูผิวให้อ่อนเยาว์ และเพิ่มความกระชับ
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น เติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูฉ่ำวาวและสุขภาพดี
- ผู้ที่มีรอยดำ รอยแดงจากสิว ลดรอยสิวและช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ผู้ที่มีผิวอักเสบหรือระคายเคืองง่าย ช่วยลดการอักเสบและเสริมความแข็งแรงให้ผิว
- ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง กระตุ้นรากผมและช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหลังทำหัตถการ เช่น เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ที่อาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง
ใครบ้างที่ไม่ควรฉีด Exosome ?
แม้ว่าการฉีด Exosome จะปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่มีบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อนรับการฉีด ได้แก่
- หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ยังไม่มีงานวิจัยเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในกลุ่มนี้
ผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบ เช่น โปรตีนจากเซลล์ต้นกำเนิดหรือสารที่ใช้ในกระบวนการสกัด - ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ (Autoimmune Disease) เช่น SLE, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ อาจมีความเสี่ยงต่อปฏิกิริยาภูมิคุ้มกัน
- ผู้ที่มีแผลเปิดหรือการติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณฉีด ควรรอให้แผลหายดีก่อนเพื่อป้องกันการอักเสบ
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่ายหรือใช้ยาละลายลิ่มเลือด อาจเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำหรือเลือดออกผิดปกติ
- ผู้ที่มีประวัติโรคมะเร็งหรือเคยเป็นมะเร็ง เนื่องจาก Exosome อาจกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ ซึ่งยังต้องการงานวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยในกลุ่มนี้
ฉีด Exosome เจ็บไหม ?
โดยทั่วไปจะไม่เจ็บมาก เนื่องจากการฉีดมักใช้เข็มขนาดเล็กและทำในบริเวณที่ผิวไม่ไวต่อความเจ็บปวดมากนัก อย่างไรก็ตาม บางคนอาจรู้สึกไม่สบายหรือรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในระหว่างการฉีด โดยเฉพาะในบริเวณที่ผิวบางหรือมีเส้นประสาทหนาแน่น เช่น ใบหน้า แต่ความรู้สึกเจ็บจะไม่รุนแรงและมักจะหายไปภายในไม่กี่นาทีหลังจากการฉีด นอกจากนี้ อาจใช้ครีมยาชาทาเพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บขณะทำการฉีด
ฉีด Exosome ใช้เวลานานไหม ?
การฉีด Exosome ใช้เวลาไม่นาน โดยทั่วไปแล้วกระบวนการจะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและจำนวนจุดที่ต้องการรักษา ในระหว่างการฉีดแพทย์อาจใช้เวลาสักครู่ในการเตรียมและทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีด รวมถึงการฉีดในแต่ละจุด แต่หลังจากการฉีดแล้ว คุณสามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ทันที เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ไม่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน แม้ว่าผลลัพธ์จะไม่ทันทีทันใด แต่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนในช่วงเวลาไม่กี่วันหลังจากการฉีด
ลีเอนจาง คลินิก มีโปรแกรม Exosome อะไรบ้าง ?
การฉีดโปรแกรม Exosome ที่ ลีเอนจาง คลินิก มีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและรักษาปัญหาผิวต่าง ๆ โดยเฉพาะการดูแลผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์และสดใส และที่ ลีเอนจาง คลินิก ก็มีโปรแกรม Exosome ที่มุ่งเน้นในการฟื้นฟูผิวพรรณและการดูแลความงาม โดยโปรแกรมหลักที่นิยม ได้แก่
EXO Reoair Skin Essence
เป็นตัวยาที่ทำจากพืช กับ DNA ปลาแซลมอน ที่ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพได้ลึกถึงระดับการแสดงออกของยีนส์ (Epigenetic) ฟื้นฟูการทำงานของเซลล์ผิว ยับยั้งกลไกการอักเสบและความเครียดของเซลล์ผิว และเพิ่มจำนวนเซลล์ใหม่ทดแทนส่วนเสียหาย พร้อมรักษาบาดแผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ ปรับโทนสีผิว (ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำและรอยแดงจากสิว)
E-X-O The Phyto Serum (Series 2)
เป็นเปิดตัวใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ L’ebss! สารสกัดจากพืชหลายชนิด เป็นถุงที่หลั่งออกมาจากเซลล์ โดยมีขนาดเล็กกว่ารูขุมขน ทำให้สามารถซึมซับได้เป็นอย่างดี ช่วยซ่อมแซมผิว ฟื้นฟูเซลล์ผิวใหม่ แก้ปัญหาความชราของผิว และเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับผิว เหมาะสำหรับ หน้าแห้งกร้าน ผิวมัน ขาดความชุ่มชื้น รูขุมขนกว้างช่วยให้แลดูเล็กลง
Baby Face SMPF Complex สูตร Premium)
นวัตกรรมแห่งการ“บำรุงผิวหน้า”ให้อ่อนเยาว์ ด้วยสารสกัด G4PRF-300 เอกสิทธิ์หนึ่งเดียวจาก BNV Biolab ที่มี Growth Factor มากถึง 26 ชนิด, Protein 300 ชนิด และ Exosome ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี สเตียรอยด์ ฮอร์โมน หรือยาปฏิชีวนะ ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิว ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว และเพิ่มกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม เพิ่มความผิวชุ่มชื่น อิ่มฟู รูขุมขนกระชับ
*หากสนใจโปรแกรมดูแลผิวที่ ลีเอนจาง คลินิก สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand*
Exosome vs Rejuran ต่างกันอย่างไร ?
Exosome และ Rejuran ทั้งสองโปรแกรมนี้มีจุดมุ่งหมายในการฟื้นฟูผิวและชะลอวัย แต่มีความแตกต่างในส่วนประกอบและกระบวนการทำงานที่ส่งผลต่อผิวพรรณในแบบที่ต่างกัน โดย Exosome เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่ได้จากเซลล์ต้นกำเนิด (stem cells) หรือเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูผิว เช่น Fibroblasts ซึ่งช่วยส่งเสริมการสื่อสารระหว่างเซลล์เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมผิวที่เสียหายและเพิ่มการสร้างคอลลาเจนภายในผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใสขึ้น
ในขณะที่ Rejuran ใช้สาร PDRN (Polynucleotide) ซึ่งเป็น DNA ขนาดเล็กที่ได้จากปลาซาเลย์ โดยช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวจากภายใน โดยเฉพาะในการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลายจากริ้วรอยหรือแสงแดด Rejuran มีความสามารถในการปรับปรุงความยืดหยุ่นและกระชับผิว รวมทั้งลดรอยหมองคล้ำและรอยสิวได้เป็นอย่างดี สรุปแล้ว Exosome เหมาะสำหรับการฟื้นฟูผิวแบบองค์รวมและการกระตุ้นการฟื้นฟูจากภายใน ขณะที่ Rejuran เหมาะสำหรับการซ่อมแซมผิวที่มีรอยสิวและริ้วรอยที่เกิดจากความเสื่อมสภาพของผิว
Exosome ฉีดบ่อยแค่ไหน ?
สามารถทำได้ตามความต้องการของผู้รับการรักษาและความเหมาะสมกับสภาพผิว โดยทั่วไปแนะนำให้ฉีด 1-2 ครั้งต่อเดือน ในช่วงเริ่มต้นเพื่อฟื้นฟูผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จากนั้นสามารถลดความถี่ในการฉีดลงเป็น ทุก 3-6 เดือน เพื่อบำรุงรักษาผิวให้ดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใสตลอดเวลา โดยแพทย์จะพิจารณาตามผลลัพธ์และความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
ฉีด Exosome กี่วันเห็นผล ?
ผลลัพธ์มักเริ่มเห็นภายใน 7-14 วัน หลังการฉีด โดยส่วนใหญ่จะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวที่ดูสดใสขึ้น กระจ่างใสและมีความชุ่มชื้นมากขึ้น หลังจากนั้นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เช่น ผิวกระชับขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และฟื้นฟูผิวจากภายในจะค่อย ๆ ปรากฏชัดเจนภายใน 1 เดือน การฟื้นฟูผิวและการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องตามกระบวนการทำงาน ซึ่งสามารถให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานและดูเป็นธรรมชาติในระยะยาว
หลังฉีด Exosome มีข้อห้ามอะไรบ้าง ?
หลังจากการฉีดควรปฏิบัติตามข้อแนะนำและหลีกเลี่ยงบางสิ่งเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและป้องกันการเกิดผลข้างเคียง ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง หลังการฉีดควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงเป็นเวลา 1-2 วัน เนื่องจากผิวอาจไวต่อแสงแดดและมีโอกาสเกิดการระคายเคืองได้
- งดการออกกำลังกายหนัก ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีความหนักหรือทำให้เหงื่อออกมากใน 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ผิวที่รุนแรง ควรงดการทำทรีตเมนต์ผิวเช่น เลเซอร์หรือการขัดผิว ภายใน 1-2 สัปดาห์หลังการฉีด เพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูและหลีกเลี่ยงการระคายเคือง
- งดการใช้เครื่องสำอางหนัก ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีสารเคมีหรือผลิตภัณฑ์ที่มีความรุนแรงในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด เพื่อไม่ให้ผิวระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้กระบวนการฟื้นฟูผิวช้าลง ควรงดการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 1-2 วันหลังการฉีด
- หลีกเลี่ยงการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกเพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองหรือความผิดปกติ
จะฉีด Exosome ราคาจะอยู่ที่เท่าไร ?
ราคาจะแตกต่างกันไปตามคลินิกและแพ็คเกจที่เลือก โดยทั่วไปจะมีราคาประมาณ 5,000 – 10,000 บาท ต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ บริเวณที่ฉีด และประเภทของโปรแกรมที่คุณเลือกที่คลินิกต่าง ๆ แต่ละแห่งอาจมีโปรโมชั่นหรือแพ็คเกจที่คุ้มค่า ซึ่งสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ที่คลินิกเพื่อสอบถามราคาที่ชัดเจนและเหมาะสมกับความต้องการของคุณ เพราะบางครั้งอาจมีการปรับราคาตามการรักษาหรือจำนวนครั้งที่ทำการฉีด
สรุป
Exosome เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวพรรณและชะลอวัย โดยการใช้อนุภาคขนาดเล็กจากเซลล์ต้นกำเนิดที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอย และฟื้นฟูผิวจากภายใน ซึ่งช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายและกระตุ้นการฟื้นฟูผิวให้สดใสขึ้น โดยไม่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน
ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่คุ้มค่าหากต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและเป็นธรรมชาติ แม้การฉีดอาจมีค่าใช้จ่าย แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการกระตุ้นการฟื้นฟูผิวและการลดริ้วรอยสามารถช่วยให้ผิวดูกระชับ สดใส และอ่อนเยาว์ได้ในระยะยาว จึงถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เห็นชัดและมีความยั่งยืน