อย่าปล่อยให้จุดด่างดำ บนใบหน้าทำให้คุณขาดความมั่นใจ! เพราะการมีจุดด่างดำ อาจทำให้ผิวดูหมองคล้ำและไม่เรียบเนียน แต่ไม่ต้องกังวล! สามารถมาเรียนรู้เคล็ดลับและวิธีการดูแลผิวที่ปลอดภัยและได้ผลจริงได้ในบทความนี้ ที่จะช่วยให้คุณเผยผิวใสอย่างมั่นใจ พร้อมป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีก อ่านบทความของเราแล้วคุณจะได้ทั้งความรู้และเทคนิคการดูแลผิวที่เหมาะกับคุณที่สุด!
ปัญหาจุดด่างดํา คืออะไร ?
ปัญหาจุดด่างดำ คือรอยหรือจุดสีเข้มบนผิวหนังที่เกิดจากการสะสมของเม็ดสีเมลานินมากกว่าปกติ ลักษณะจะเป็นรอยสีเข้มกว่าผิวปกติ อาจมีสีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม หรือดำ ขึ้นอยู่กับสาเหตุและสภาพผิวของแต่ละบุคคล ขนาดและรูปร่างก็อาจแตกต่างกัน บางจุดอาจเป็นวงเล็ก ๆ กระจายทั่วใบหน้า ในขณะที่บางจุดอาจมีขนาดใหญ่และเห็นได้ชัด
จุดด่างดํา เกิดจากสาเหตุใด ?
จุดด่างดำ เกิดจากหลายสาเหตุ โดยส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เกิด ได้แก่
- แสงแดด (UV Rays) การสัมผัสรังสียูวีจากแสงแดดเป็นเวลานาน กระตุ้นให้เซลล์เมลาโนไซต์ผลิตเมลานินมากขึ้น ส่งผลให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ บนใบหน้า
- รอยสิว (Post-Inflammatory Hyperpigmentation – PIH) หลังจากสิวหาย ผิวอาจเกิดการอักเสบและทิ้งรอยดำหรือรอยแดงไว้
- ฮอร์โมน (Hormonal Changes) การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิด อาจกระตุ้นให้เกิดฝ้าและกระ
- อายุที่เพิ่มขึ้น (Aging Process) เมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการผลัดเซลล์ผิวช้าลง ทำให้จุดด่างดำที่เกิดจากแดดหรือปัจจัยอื่น ๆ จางลงได้ยาก
- การระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์หรือสารเคมี (Irritation from Skincare or Chemicals) การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อการระคายเคือง หรือทำหัตถการที่รุนแรง อาจกระตุ้นให้ผิวเกิดการอักเสบ
- พันธุกรรม (Genetics) บางคนมีแนวโน้มเกิดจุดด่างดำได้ง่ายกว่าคนอื่นเนื่องจากกรรมพันธุ์
จุดด่างดำมีกระบวนการเกิดขึ้นอย่างไร ?
เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติในผิวหนัง เมื่อผิวได้รับปัจจัยกระตุ้น เช่น แสงแดด การอักเสบของผิว หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เซลล์เมลาโนไซต์จะถูกกระตุ้นให้ผลิตเมลานินมากขึ้น เม็ดสีเหล่านี้จะถูกส่งไปยังเซลล์ผิวหนังชั้นบน ทำให้บริเวณนั้นมีสีเข้มขึ้น หากมีการสะสมของเมลานินมากเกินไปหรือกระบวนการผลัดเซลล์ผิวทำงานช้าลง จุดด่างดำก็จะคงอยู่บนผิวได้นาน
ประเภทของจุดด่างดำ บนใบหน้า มีอะไรบ้าง ?
จุดด่างดำ บนใบหน้าสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามสาเหตุและลักษณะของการเกิด โดยทั่วไปสามารถจัดประเภทได้ดังนี้
ฝ้า (Melasma)
เป็นภาวะที่ผิวหนังเกิดรอยคล้ำหรือจุดด่างดำสีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้ม โดยมักเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า เช่น แก้ม หน้าผาก จมูก และเหนือริมฝีปาก ฝ้ามักเกิดจากการกระตุ้นของ ฮอร์โมน (เช่น ระหว่างตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด) และ แสงแดด ซึ่งส่งผลให้เซลล์เมลาโนไซต์ผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป ทำให้เกิดรอยคล้ำที่เห็นได้ชัด
กระ (Freckles & Lentigines)
คือจุดด่างดำขนาดเล็กที่เกิดจากการสะสมของเม็ดสีเมลานินในผิว โดยมักพบในบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อย เช่น ใบหน้า แขน และมือ สาเหตุหลักของกระ คือแสงแดดและพันธุกรรม โดยผู้ที่มีผิวขาวหรือผิวบอบบางมักมีแนวโน้มเกิดกระได้ง่าย กระสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
- กระตื้น (Ephelides) มีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อนถึงแดง มักเกิดในวัยเด็กหรือวัยรุ่น และสีอาจเข้มหรือจางลงตามฤดูกาล โดยเฉพาะเมื่อได้รับแสงแดด
- กระลึก (Lentigines หรือ Age Spots) มีสีเข้มขึ้นและขนาดใหญ่กว่ากระตื้น มักเกิดจากการโดนแสงแดดสะสมเป็นเวลานาน และมักพบในผู้ที่มีอายุมากขึ้น
รอยดำจากสิว (Post-Inflammatory Hyperpigmentation – PIH)
รอยดำจากสิว (Post-Inflammatory Hyperpigmentation – PIH) คือจุดด่างดำที่เกิดขึ้นหลังจากสิวหาย โดยมีลักษณะเป็นรอยสีเข้มหรือสีน้ำตาลที่ปรากฏบนผิวหนัง สาเหตุหลักเกิดจากกระบวนการอักเสบของผิวที่ไปกระตุ้นเซลล์เมลาโนไซต์ให้ผลิตเม็ดสีเมลานินมากขึ้น ทำให้บริเวณนั้นคล้ำกว่าผิวปกติ รอยดำจากสิวมักพบได้บ่อยในผู้ที่มีผิวเข้ม เนื่องจากมีแนวโน้มผลิตเมลานินมากกว่าปกติ
เป็นจุดด่างดำ บนใบหน้า อันตรายหรือไม่ ?
การมีจุดด่างดำ บนใบหน้าส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายและมักเกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด การอักเสบของผิว หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนแปลงขนาด รูปร่าง หรือสีอย่างรวดเร็ว หรือมีอาการเจ็บปวด ร่วมกับการเกิดแผล หรือเลือดออก
ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบว่าเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งผิวหนัง เช่น เมลาโนมา (Melanoma) ซึ่งเป็นชนิดของมะเร็งผิวหนังที่สามารถแพร่กระจายได้ การสังเกตและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงอย่างระมัดระวังจะช่วยให้สามารถรักษาได้ทันเวลาและป้องกันการเกิดโรคร้ายที่อาจตามมา
การมีจุดด่างดำ บนใบหน้า ส่งผลกระทบอย่างไร ?
การมีจุดด่างดำ บนใบหน้าสามารถส่งผลกระทบทั้งด้านจิตใจและความมั่นใจของบุคคล โดยเฉพาะในผู้ที่มีความกังวลเรื่องลักษณะภายนอก อาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองหรือรู้สึกกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์ในสังคม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือการทำงาน
นอกจากนี้ จุดด่างดำยังอาจเป็นสัญญาณของปัญหาผิวที่เกิดจากแสงแดด การอักเสบ หรือปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการดูแลผิวที่ไม่เพียงพอ การรักษาจึงสามารถช่วยฟื้นฟูไม่เพียงแค่ผิวพรรณ แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเองและภาพลักษณ์ที่ดีอีกด้วย
วิธีรักษาจุดด่างดําบนใบหน้า เร่งด่วน
การรักษาจุดด่างดำบนใบหน้า เร่งด่วนสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและลักษณะของจุดด่างดำ โดยมีวิธีที่สามารถทำได้ดังนี้
การทำเลเซอร์
การทำเลเซอร์ เป็นวิธีการที่ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ในการรักษาจุดด่างดำ บนใบหน้าโดยตรง เลเซอร์สามารถช่วยทำลายหรือเบลอเม็ดสีที่อยู่ในชั้นผิว เพื่อให้จุดด่างดำจางลงและฟื้นฟูผิวใหม่ให้กระจ่างใสขึ้น มีหลายประเภทของเลเซอร์ที่นิยมใช้ การทำเลเซอร์มักต้องทำหลายครั้งขึ้นอยู่กับขนาดและลักษณะของจุดด่างดำ และผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล
โดยการทำเลเซอร์จะช่วยให้ผิวกระจ่างใสและจุดด่างดำจางลงอย่างเห็นได้ชัด การดูแลผิวหลังทำเลเซอร์ เช่น การทาครีมกันแดดเป็นประจำ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้จุดด่างดำกลับมาใหม่
ฉีดเมโสหน้าใส (Mesotherapy)
การฉีดเมโสหน้าใส (Mesotherapy) เป็นการรักษาผิวโดยการฉีดสารบำรุงผิวลงในชั้นผิวหนังเพื่อช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส และลดเลือนจุดด่างดำ โดยจะใช้สารสกัดหรือวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิว และลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของจุดด่างดำ เช่น วิตามินซี กลูต้าไธโอน กรดไฮยาลูโรนิก และ สารสกัดจากธรรมชาติอื่น ๆ
การฉีดเมโสหน้าใสช่วย ลดการผลิตเมลานิน ในผิว ลดจุดด่างดำที่เกิดจากการอักเสบหรือการโดนแสงแดด การฉีดเมโสสามารถช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน กระจ่างใส และลดริ้วรอยได้ด้วย การฉีดเมโสหน้าใสมีผลลัพธ์ที่เห็นได้หลังจากทำการรักษาหลายครั้ง โดยส่วนใหญ่ต้องทำซ้ำประมาณ 4-6 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การดูแลผิวหลังการฉีดก็มีความสำคัญ
ฉีดมาเด้คอลลาเจน (Made Collagen )
การฉีดมาเด้คอลลาเจน (Made Collagen) เป็นการใช้การฉีดคอลลาเจนสังเคราะห์เข้าไปในชั้นผิวเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากการสูญเสียคอลลาเจน โดยเฉพาะการลดเลือนจุดด่างดำและริ้วรอย การฉีดมาเด้คอลลาเจนสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ในผิว ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน กระจ่างใส และลดจุดด่างดำได้ในระยะยาว
การผลัดเซลล์ผิว
การผลัดเซลล์ผิว (Exfoliation) เป็นวิธีที่ช่วยลดจุดด่างดำ บนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการผลัดเซลล์ผิวจะทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วและหมองคล้ำหลุดออกไปจากผิวชั้นบนสุด เผยผิวใหม่ที่สดใสและกระจ่างใสขึ้น ช่วยลดการสะสมของเม็ดสีเมลานินที่ทำให้เกิดจุดด่างดำ และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน และสีผิวสม่ำเสมอกัน การผลัดเซลล์ผิวสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้กรด AHA (Alpha Hydroxy Acid) ซึ่งช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและลดการสะสมของเม็ดสีที่ทำให้เกิดจุดด่างดำจากแสงแดดหรือฝ้า
การใช้ครีมบำรุง
การใช้ครีมเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและสะดวกในการดูแลผิว ครีมที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน เช่น วิตามิน C, Niacinamide หรือกรด AHA สามารถช่วยลดการสะสมของเม็ดสีที่ทำให้เกิดจุดด่างดำจากแสงแดดหรือสิวได้ นอกจากนี้ ครีมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากมลภาวะและแสง UV การใช้ครีมที่มีส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยให้จุดด่างดำค่อย ๆ จางลง
นอกจากสารที่ช่วยลดจุดด่างดำแล้ว ครีมบางประเภทยังมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เช่น ครีมที่มีกรดเรตินอยด์หรือกรดไกลโคลิก ซึ่งช่วยผลัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำออกไป ทำให้ผิวเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น ครีมเหล่านี้ยังช่วยลดริ้วรอยและทำให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้น ควรใช้ครีมเหล่านี้อย่างต่อเนื่องและควบคู่กับการทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันการเกิดจุดด่างดำใหม่จากแสงแดด
วิธีลดจุดด่างดำ บนใบหน้า แบบธรรมชาติ
การลดจุดด่างดำ บนใบหน้า แบบธรรมชาตินั้นสามารถทำได้ด้วยการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยฟื้นฟูผิวและลดการสะสมของเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดจุดด่างดำ ดังนี้
- น้ำมะขามเปียก น้ำมะขามเปียกมีกรด AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการสะสมของเม็ดสีที่ทำให้เกิดจุดด่างดำ การทาน้ำมะขามเปียกลงบนจุดด่างดำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้จุดด่างดำจางลงและผิวกระจ่างใสขึ้น
- น้ำมะนาว น้ำมะนาวเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดจุดด่างดำ เนื่องจากมีกรดซิตริกที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดจุดด่างดำที่เกิดจากแสงแดดหรือสิว วิธีใช้คือทาน้ำมะนาวบาง ๆ บนจุดด่างดำแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น แต่ควรระวังไม่ให้ใช้ในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
- ว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบและช่วยฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากแสงแดดหรือการถูกสิว การทาว่านหางจระเข้สดลงบนจุดด่างดำสามารถช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้จุดด่างดำค่อย ๆ จางลง
- น้ำแตงกวา น้ำแตงกวามีคุณสมบัติช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและช่วยลดจุดด่างดำ การใช้สำลีชุบด้วยน้ำแตงกวาแล้วเช็ดบริเวณที่มีจุดด่างดำจะช่วยให้ผิวดูสดใสและลดรอยดำได้
- น้ำผึ้ง น้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและลดรอยดำจากแผลหรือสิว น้ำผึ้งสามารถช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใสและลดรอยด่างดำได้จากการใช้เป็นมาส์กหน้าหรือทาที่จุดด่างดำโดยตรง
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดจุดด่างดำ บนใบหน้า
การป้องกันไม่ให้เกิดจุดด่างดำ บนใบหน้าสามารถทำได้หลายวิธี เพื่อหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้จุดด่างดำเกิดขึ้น โดยวิธีการเหล่านี้จะช่วยรักษาผิวหน้าให้มีสุขภาพดีและลดความเสี่ยงจากการเกิดจุดด่างดำ
- ทาครีมกันแดดเสมอ การปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันจุดด่างดำ เพราะรังสี UV จากแสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป และทำให้เกิดจุดด่างดำหรือฝ้า การทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่าทุกวัน ทั้งในวันที่แดดออกหรือวันที่ท้องฟ้ามืดครึ้มก็จำเป็น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแดดโดยตรง หากจำเป็นต้องออกไปในที่ที่มีแสงแดดแรง ควรหลีกเลี่ยงการออกไปในช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รังสี UV แรงที่สุด นอกจากนี้ ควรสวมหมวกปีกกว้างและใช้ร่มเพื่อบังแดดได้ดีขึ้น
- บำรุงผิวด้วยครีมที่มีส่วนผสมของวิตามิน C หรือ Niacinamide วิตามิน C และ Niacinamide ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำจากแสงแดดและสิ่งแวดล้อม ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเหล่านี้ในการดูแลผิวหน้าเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิวหรือการบีบสิว การบีบหรือจับสิวอาจทำให้เกิดการอักเสบที่ผิวหนัง ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดรอยดำจากสิวได้ หากมีสิว ควรรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้องและหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือบีบสิวโดยไม่จำเป็น
- การรักษาผิวอย่างอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงหรือการขัดผิวบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดจุดด่างดำ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิว เพื่อให้ผิวแข็งแรงและป้องกันการเกิดจุดด่างดำ
- การรักษาผิวให้ชุ่มชื้น การรักษาผิวให้ชุ่มชื้นช่วยปกป้องผิวจากการแห้งกร้าน ซึ่งสามารถทำให้ผิวไวต่อการเกิดจุดด่างดำ การใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ผิวแข็งแรงและลดการเกิดจุดด่างดำ
รอยดำและรอยแดงต่างกันอย่างไร ?
รอยดำ และ รอยแดง มีความแตกต่างกันในแง่ของสาเหตุและกระบวนการที่เกิดขึ้นในผิวหนัง ดังนี้
- รอยแดง (Post-Inflammatory Erythema หรือ PIE) เกิดจากการอักเสบหรือการระคายเคืองที่ผิวหนัง เช่น จากการบีบสิวหรือการระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ รอยแดงจะเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังมีการอักเสบหรือบวมและเลือดไหลไปยังบริเวณนั้นมากขึ้น ทำให้ผิวมีสีแดงหรือชมพู ส่วนใหญ่รอยแดงจะค่อย ๆ จางหายไปเมื่อการอักเสบหายไป แต่สามารถใช้เวลาในการรักษานานถึงหลายสัปดาห์
- รอยดำ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation หรือ PIH) เกิดจากการสะสมของเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ในผิวหนัง หลังจากการอักเสบหรือการบาดเจ็บที่ผิว เช่น การเกิดสิว การขัดถูผิว หรือแผลถลอก เมื่อเม็ดสีเมลานินผลิตมากเกินไปในบริเวณที่ได้รับการระคายเคือง จะทำให้เกิดจุดด่างดำที่มีสีเข้มขึ้นและ
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : รอยดำ รอยแดง
ที่ลีเอนจาง คลินิก มีโปรแกรมช่วยลดเลือนจุดด่างดำหรือไม่ ?
ที่ ลีเอนจาง คลินิก มีโปรแกรมที่สามารถช่วยลดเลือนจุดด่างดำ บนใบหน้าและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อรักษาปัญหาผิวที่มีจุดด่างดำจากแสงแดด สิว หรือฝ้า โดยสามารถเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของคุณได้ เช่น
- โปรแกรม Melasma Care โปรแกรมที่ถูกออกแบบมาให้แก้ปัญหาฝ้า และกระ โดยเฉพาะ ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น ฝ้า และกระเกิดขึ้นจากการผลิตเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติ ดังนั้น Melasma Care จะเป็นการนำสารบำรุงผิวเข้าไปยังชั้นผิว เพื่อยับยั้งการผลิตเม็ดสีให้น้อยลง เป็นผลทำให้ผิวในบริเวณดังกล่าวมีความกระจ่างใสขึ้น
- โปรแกรม Laser Toning ทางเราใช้เครื่อง MEDLITE C6 จะช่วยการกระตุ้นเม็ดสีและกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
หากคุณสนใจโปรแกรมลดเลือนจุดด่างดำ บนใบหน้าที่ลีเอนจาง คลินิก สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand เพื่อปรึกษาแพทย์และเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ
สรุป
ปัญหาจุดด่างดำ บนใบหน้าเป็นปัญหาผิวที่เกิดจากการสะสมของเม็ดสีเมลานินมากเกินไป อาจมีสาเหตุมาจากแสงแดด รอยสิว ฝ้า กระ หรือการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนและหมองคล้ำ การรักษาสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง การทำเลเซอร์ เมโสหน้าใส หรือการผลัดเซลล์ผิว เพื่อช่วยให้จุดด่างดำจางลงและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ นอกจากนี้ ควรป้องกันไม่ให้เกิดจุดด่างดำเพิ่มขึ้นโดยการทาครีมกันแดดเป็นประจำและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เม็ดสีทำงานมากขึ้น
