อยากเปลี่ยนหน้าพังให้กลับมาสวยปังเหมือนติดฟิลเตอร์ไหม ? เรามี 5 วิธีเด็ดที่จะช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้ดูเนียนใสและกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเห็นผลไว ไม่ว่าจะเป็นการดูแลผิวให้ถูกวิธี หรือการทำหัตถการทางการแพทย์ที่สามารถช่วยให้ผิวดูดีและสดใสเหมือนใหม่
หากคุณอยากรู้ว่าหน้าพังทําไงดี ? มีวิธีไหนบ้าง ? ที่จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณกลับมาดูเนียนเรียบ กระจ่างใส และเหมือนใช้ฟิลเตอร์ ในบทความนี้ลีเอนจาง คลนิกจะมาแนะนำวิธีการที่เหมาะกับคุณ พร้อมทั้งทำให้คุณมั่นใจมากยิ่งขึ้นกับการดูแลผิวหน้าในชีวิตประจำวัน อย่ารอช้า มาเริ่มต้นเปลี่ยนหน้าพังให้สวยปังไปด้วยกัน!
ปัญหาหน้าพังเป็นอย่างไร ?
หน้าพัง คือ สภาพผิวหน้าที่เสื่อมโทรมจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ หย่อนคล้อย หรือมีปัญหาผิวอื่น ๆ ที่ทำให้ไม่สดใสและไม่เรียบเนียน อาจเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว การขาดการดูแลผิวที่ดี หรือการเผชิญกับมลภาวะและแสงแดดเป็นเวลานาน ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาคือการเกิดจุดด่างดำ ริ้วรอย หรือการสูญเสียความกระชับและความชุ่มชื้นของผิว โดยสภาพผิวหน้าที่เรียกว่าหน้าพังมักมีลักษณะดังนี้
- ผิวแห้ง แตก และลอกเป็นขุย ผิวขาดน้ำและความชุ่มชื้น อาจเกิดการลอกเป็นแผ่น โดยเฉพาะบริเวณจมูกและแก้ม
- ผิวอักเสบ แดงง่าย หรือมีผื่นแพ้ ผิวไวต่อการระคายเคือง มีผดผื่น หรือสิวอักเสบขึ้นอย่างผิดปกติ
- สิวขึ้นเยอะผิดปกติ มีสิวอุดตันหรือสิวอักเสบเห่อขึ้นเต็มหน้า มักเกิดจากผิวอ่อนแอ
- ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส ผิวดูเหนื่อยล้า สีผิวไม่สม่ำเสมอ อาจมีจุดด่างดำและฝ้า
- รูขุมขนกว้าง และผิวหยาบกร้าน ผิวสูญเสียความกระชับและยืดหยุ่น สัมผัสผิวไม่เรียบเนียน
- เกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวหน้าดูแก่กว่าวัย มีร่องลึกหรือริ้วรอยชัดเจน เกิดจากผิวขาดการบำรุงและฟื้นฟู
- ผิวบางลง และไวต่อแสงแดด ผิวดูบอบบาง เห็นเส้นเลือดชัด โดนแดดแล้วแสบง่าย เกิดฝ้า กระเร็วขึ้น
หน้าพังเกิดจากอะไร ?
หน้าพัง เกิดจากหลายสาเหตุที่ทำให้ผิวเสียสมดุลและเกิดปัญหาอย่างชัดเจน ซึ่งอาจเป็นปัจจัยภายในร่างกายหรือปัจจัยภายนอกก็ได้ โดยสาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม สกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่มีสารเคมีแรงเกินไป เช่น สารสเตียรอยด์ แอลกอฮอล์ หรือสารกันเสีย หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว เช่น ผิวแห้งแต่ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมัน
- การเกิดสิว ซึ่งเป็นปัญหาผิวที่สามารถทำให้หน้าพังได้ โดยเฉพาะถ้าสิวเกิดขึ้นอย่างรุนแรง หรือไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี ซึ่งอาจทิ้งรอยแผลเป็น รอยดำ หรือรอยหลุมสิวไว้บนใบหน้า
- ดูแลผิวผิดวิธี ล้างหน้าบ่อยเกินไป ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่รุนแรง ขัดผิวแรงเกินไป หรือใช้สครับบ่อยเกินความจำเป็น
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ผิวฟื้นฟูตัวเองได้ไม่เต็มที่ และความเครียด ส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดสิวและผิวหมองคล้ำ
- ปัจจัยภายในร่างกาย ฮอร์โมนไม่สมดุล โดยเฉพาะในช่วงมีประจำเดือนหรือวัยรุ่น หรือโรคประจำตัว เช่น ภูมิแพ้ โรคผิวหนังบางชนิด
- สภาพแวดล้อม แสงแดดและมลภาวะ ทำร้ายผิว ทำให้เกิดฝ้า กระ และริ้วรอยก่อนวัย อากาศแห้งหรือเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น
- การรับประทานอาหารไม่ดีต่อผิว อาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง กระตุ้นการเกิดสิว และการขาดวิตามินหรือดื่มน้ำน้อยเกินไป
- การแต่งหน้าหนักเกินไป ล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด ทำให้เกิดการอุดตัน หรือเครื่องสำอางที่มีสารเคมีแรงหรือหมดอายุ
ปัญหาหน้าพังส่งผลกระทบอย่างไร ?
หน้าพัง หรือปัญหาผิวหน้าที่เสียหาย เช่น สิวเห่อ ผิวอักเสบ หรือเกิดจากการทำหัตถการผิดพลาด อาจส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ ดังนี้
- ปัญหาผิวเรื้อรัง: อาจนำไปสู่ปัญหาผิวที่ยากต่อการรักษา เช่น รอยแผลเป็น หลุมสิว หรือผิวไม่เรียบเนียน
- ผิวบอบบางและแพ้ง่าย: ทำให้ผิวสูญเสียเกราะป้องกันตามธรรมชาติ และไวต่อการแพ้หรือระคายเคืองง่ายขึ้น
- เกิดการติดเชื้อ: หากดูแลไม่ถูกวิธี อาจเกิดการติดเชื้อ หรืออักเสบซ้ำซ้อน
- ผิวแก่ก่อนวัย: การอักเสบเรื้อรังหรือการใช้สารเคมีที่รุนแรงอาจเร่งให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- สูญเสียความมั่นใจ: หลายคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์
- ความเครียดและวิตกกังวล: อาจเกิดความเครียดจากการพยายามรักษาผิว หรือกังวลกับรูปลักษณ์ภายนอก
- ส่งผลต่อสุขภาพจิต: ในบางกรณีอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหรือปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ ได้
หน้าพัง รักษายังไงให้กลับมาสวยแบบเร่งด่วน
การแก้ปัญหาหน้าพังด้วยหัตถการทางการแพทย์ เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหากผิวเสียหายรุนแรงหรือมีปัญหาสะสมมานาน ต่อไปนี้เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่นิยมใช้ในกาีรฟื้นฟูผิวคืนความอาอนเยาว์
Skin Booster (สกินบูสเตอร์)
การฉีด Skin Booster เป็นหนึ่งในวิธีที่ยอดเยี่ยมในการฟื้นฟูผิวที่เสียหาย (หน้าพัง) โดยจะช่วยปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื้น เรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้นจากภายใน การฉีด Skin Booster จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวที่แห้งกร้าน หรือเสียหายจากปัญหาต่าง ๆ เช่น สิว แสงแดด มลภาวะ
Skin Booster คือการฉีดสารที่มีส่วนผสมของ ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยในการดึงน้ำเข้าสู่ผิวทำให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียน โดยการฉีดจะลงลึกไปที่ชั้นผิวหนังเพื่อเติมเต็มน้ำให้กับผิวที่แห้งเสียหรือบอบบางจากการถูกทำลายจากสาเหตุต่างๆ ที่ลีเอนจาง คลินิก มีโปรแกรมที่สามารถช่วยฟื้นฟูผิวหน้าพังได้ด้วยการฉีด Skin Booster เช่น
- โปรแกรม The Exo Repair Skin ฝ้า กระ จุดด่างดำ ปรับโทนสีผิว ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ แก่ก่อนวัย
- โปรแกรม Chanels Injection (ชาแนลส์) ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวด้วย HA สูตรเข้มข้น เติมเต็มผิวที่เสียหาย ซึ่งเน้นการเติมความชุ่มชื้นและทำให้ผิวเปล่งปลั่งใส และช่วยเพิ่มความเรียบเนียน
- โปรแกรม K-Star Dewy จะเป็นการฉีดมาเด้และคอลลาเจนที่สกัดจากธรรมชาติที่มีคุณประโยชน์ ที่จะช่วยปัญหาสิวเรื้อรังจากความสมดุลของฮอร์โมนที่ผิดปกติ เปรียบเสมือนการให้สารอาหารผิว ช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรง ช่วยให้ผิวหน้าสดใสเปล่งปลั่ง ฉ่ำวาว
อ่านบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ : skin booster
Biostimulator
การฉีด Biostimulator เป็นวิธีที่สามารถใช้ในการฟื้นฟูผิวหน้าและรักษาผิวที่เสียหายหรือ “หน้าพัง” ได้ดี โดย Biostimulator คือสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว ซึ่งจะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นและฟื้นฟูสภาพได้อย่างรวดเร็วจากการสูญเสียความยืดหยุ่นหรือปัญหาผิวต่าง ๆ
Biostimulator จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยจากการเสื่อมสภาพ เช่น ผิวหน้าที่เกิดจากการขาดความชุ่มชื้น ที่จะช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นและลดความหมองคล้ำ ผิวจะดูยืดหยุ่น กระชับ และมีความเต่งตึงมากขึ้น ผลลัพธ์จากการฉีด Biostimulator มักจะค่อยๆ ปรับปรุงผิวให้ดูดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดย Biostimulator ที่นิยมมีดังนี้
- โปรแกรม Juvelook Skin: เป็นหนึ่งใน Biostimulator ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ลดการหย่อนคล้อยและทำให้ผิวแน่นกระชับขึ้น
- โปรแกรม Radiesse: อีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถกระตุ้นคอลลาเจนและช่วยให้ผิวดูสดใสและเต่งตึง
อ่านบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ : Juvelook
การฉีดฟิลเลอร์ Filler
การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) เป็นอีกวิธีที่ใช้ในการฟื้นฟูผิวที่เสียหายหรือ หน้าพัง เนื่องจากฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มบริเวณที่มีการหย่อนคล้อยหรือสูญเสียปริมาตร เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือใบหน้าที่ดูหมองคล้ำและไม่มีชีวิตชีวา การใช้ฟิลเลอร์ช่วยเสริมความเต็มเปี่ยมและกระชับให้กับผิว ทำให้ดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียนขึ้นได้ ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์สำหรับหน้าพัง มีดังนี้
- เติมเต็มผิวที่หย่อนคล้อย: ฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มบริเวณที่ขาดความยืดหยุ่น เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือหน้าผาก
- เพิ่มปริมาตร: ช่วยเพิ่มปริมาตรให้กับผิวที่สูญเสียไป เช่น ใต้ตาหรือบริเวณที่มีการบอบช้ำจากปัญหาผิวเสียหาย
- ปรับรูปหน้า: ช่วยปรับรูปหน้าให้สมดุลขึ้น เช่น การเติมฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ปาก หรือฟิลเลอร์หน้าผาก เพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติ และสมดุลมากขึ้น
- ลดร่องริ้วรอย: ฟิลเลอร์สามารถช่วยลดริ้วรอยลึก เช่น รอยย่นรอบปาก ร่องแก้ม หรือใต้ตา
- ฟื้นฟูผิวที่แห้งและสูญเสียความชุ่มชื้น: ฟิลเลอร์บางประเภทมีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid ซึ่งช่วยให้ผิวกลับมาชุ่มชื้นและเต็มอิ่มอีกครั้ง
อ่านบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ : การฉีดฟิลเลอร์
การฉีดโบท็อกซ์ Botox
การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) เป็นวิธีที่นิยมใช้ในการฟื้นฟูผิวและรักษาผิวที่เสียหายหรือ “หน้าพัง” โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดปัญหาจากการมีริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อยของผิวหน้า โบท็อกซ์ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้นและลดการเกิดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อหน้าบ่อย ๆ เช่น รอยตีนกา รอยย่นหน้าผาก หรือรอยขมวดคิ้ว
โบท็อกซ์ทำงานโดยการหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะช่วยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อและทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน ลดการเกิดริ้วรอยและลดความหย่อนคล้อยที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อบ่อย ๆ โดยประโยชน์ของการฉีดโบท็อกซ์สำหรับหน้าพังมีดังนี้
- ลดริ้วรอยและริ้วรอยลึก: โบท็อกซ์สามารถลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อ เช่น รอยย่นบนหน้าผาก หรือตีนกา
- ลดความหย่อนคล้อย: สามารถช่วยให้หน้าดูยกกระชับขึ้น เนื่องจากโบท็อกซ์จะลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย
- ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน: การฉีดโบท็อกซ์ในบางจุดช่วยให้ผิวหน้าดูเนียนเรียบและกระชับขึ้น
- ป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่: โบท็อกซ์ช่วยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อที่ก่อให้เกิดริ้วรอย ทำให้ไม่เกิดริ้วรอยใหม่ตามมา
- ฟื้นฟูผิวจากการทำหัตถการผิดพลาด: หากเคยทำหัตถการแล้วเกิดการบวม หย่อนคล้อย หรือไม่สมดุล การฉีดโบท็อกซ์สามารถช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและฟื้นฟูได้เร็วขึ้
อ่านบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ : โบท็อกซ์ริ้วรอย
เครื่องยกกระชับผิว
การทำเครื่องยกกระชับผิว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมใช้ในการฟื้นฟูหน้าพัง โดยเฉพาะในกรณีที่มีการหย่อนคล้อยของผิวหน้าจากการสูญเสียคอลลาเจนหรืออายุที่เพิ่มขึ้น การใช้เครื่องยกกระชับผิวช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิว ซึ่งทำให้ผิวกระชับและเต่งตึงขึ้นได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด ทำให้ผิวกระชับขึ้นอย่างธรรมชาติ และช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยในบริเวณใบหน้าและเนียงใต้คางได้เป็นอย่างดี โดยประเภทของเครื่องยกกระชับผิวที่นืยมใช้ในการฟื้นฟูผิว มีดังนี้ั
- Ultraformer iii: ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ช่วยยกกระชับและกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ เหมาะสำหรับการยกกระชับใบหน้าและลดการหย่อนคล้อย เช่น การยกคิ้วหรือการกระชับกรอบหน้า
- Thermage: ใช้คลื่น RF (Radio Frequency) ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นลึก ช่วยให้ผิวแน่นกระชับขึ้น เหมาะสำหรับการยกกระชับผิวที่มีความหย่อนคล้อยทั้งในใบหน้าและบริเวณลำคอ
- Ultherapy: ใช้คลื่นเสียงแบบสมบูรณ์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ช่วยยกกระชับใบหน้าและลดการหย่อนคล้อย เป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่ต้องพักฟื้นหลังการทำประโยชน์ของการทำเครื่องยกกระชับผิว
การทำเครื่องยกกระชับผิวเป็นทางเลือกที่ดีในการฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อยหรือหน้าพัง เพราะสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวให้กลับมาเต่งตึงได้อย่างธรรมชาติ หากสนใจการรักษานี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกที่เชื่อถือได้ เช่น Lienjang Clinic เพื่อเลือกเครื่องที่เหมาะสมและการรักษาที่ปลอดภัย
อ่านบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ : หน้าหย่อนคล้อย
รักษาหน้าพังด้วยวิธีธรรมชาติ
การรักษาหน้าพังด้วยวิธีธรรมชาติ เป็นทางเลือกที่ดีในการฟื้นฟูผิวที่เสียหายหรือมีปัญหาผิว ริ้วรอย หรือหมองคล้ำ โดยไม่ต้องทำหัตถการ ที่สามารถได้ด้วยตนเองง่าย ๆ ที่บ้าน วิธีธรรมชาติมักจะเน้นการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่สามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างอ่อนโยน และปลอดภัย แต่วิธีธรรมชาติอาจต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอในการดูแลผิวจึงจะเห็นผล ซึ่งมีวิธีดังต่อไปนี้
- มาส์กหน้าจากธรรมชาติ มาส์กหน้าด้วย ซึ่งน้ำผึ้งน้ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกระตุ้นการสมานแผล ช่วยให้ผิวสดใสและเนียนนุ่ม วิธีทำคือ นำน้ำผึ้งมาทาทั่วใบหน้าแล้วทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออก
- น้ำมะนาวและน้ำตาล (Scrub) น้ำมะนาว ช่วยลดจุดด่างดำและช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ขณะที่ น้ำตาล ช่วยผลัดผิวและขจัดสิ่งสกปรก วิธีทำคือ ผสมน้ำมะนาวและน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน แล้วนำมานวดเบา ๆ บนใบหน้าเป็นเวลา 3-5 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น
- น้ำมันมะพร้าว ซึ่งน้ำมันมะพร้าวมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์และกรดไขมันที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้น ช่วยลดการแห้งกร้านและริ้วรอย วิธีทำคือ ทาน้ำมันมะพร้าวบาง ๆ บนผิวหน้าแล้วนวดเบา ๆ ทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วล้างออกในตอนเช้า
- น้ำผึ้งและมะนาว น้ำผึ้งช่วยให้ความชุ่มชื้น ขณะที่มะนาวมีวิตามิน C ซึ่งช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น วิธีทำคือ ผสมน้ำผึ้งกับมะนาวในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน แล้วทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออก
- มะเขือเทศ ในมะเขือเทศมีไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากการทำลายจากแสงแดด และช่วยให้ผิวกระจ่างใส วิธีทำคือ ทามะเขือเทศสดหรือคั้นน้ำมะเขือเทศแล้วทาบนใบหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออก
เคล็ดลับวิธีป้องกันไม่ให้หน้าพัง
การป้องกันไม่ให้หน้าพัง เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสวยงามของผิวหน้าและรักษาผิวให้อ่อนเยาว์และกระชับไปได้ยาวนาน การดูแลผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอและการปฏิบัติตามวิธีที่ถูกต้องสามารถช่วยป้องกันปัญหาผิวที่เกิดจากการเสื่อมสภาพ เช่น ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย หรือการเกิดจุดด่างดำได้ ซึ่งวิธีป้องกันไม่ให้หน้าพังมีดังนี้
- การทาครีมกันแดดทุกวัน แสงแดดเป็นสาเหตุหลักของการเสื่อมสภาพของผิว เช่น ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และจุดด่างดำ การทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน แม้ในวันที่ไม่มีแดด ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีที่ทำให้ผิวเสื่อมโทรม ควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านประมาณ 15-20 นาที และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงหากอยู่กลางแจ้ง
- การนอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับที่ดีมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมผิวและฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ การนอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้ผิวดูหมองคล้ำและเกิดริ้วรอยได้ง่าย ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงทุกคืน เพื่อให้ร่างกายและผิวได้ฟื้นฟูตัวเอง
- การดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการเกิดริ้วรอย โดยการขาดน้ำจะทำให้ผิวแห้งและเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยและผิวหมองคล้ำ ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวันเพื่อให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นจากภายใน
- การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี การทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดจากสิ่งสกปรก ฝุ่น ควัน และน้ำมันส่วนเกิน ช่วยป้องกันสิว และการอุดตันของรูขุมขน ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน และล้างหน้าทุกเช้าและก่อนนอน
- การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว เช่น มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวแห้ง หรือเซรั่มสำหรับผิวมัน ช่วยให้ผิวแข็งแรงและมีสุขภาพดี ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติหรือปราศจากสารเคมีที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง
- การออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูสดใสและกระชับขึ้น ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เพราะลดการไหลเวียนเลือดและทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ควรพยายามหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้เพื่อสุขภาพผิวที่ดี
- การหลีกเลี่ยงความเครียด ความเครียดสามารถทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่ทำลายคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยและดูหมองคล้ำ ควรใช้เวลาผ่อนคลายทุกวัน เช่น การทำสมาธิหรือการเดินเล่นในธรรมชาติ
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่มีวิตามิน A, C, E และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลไม้และผักใบเขียว ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของผิวและลดการเกิดริ้วรอย ควรทานอาหารที่มีโอเมก้า-3 เช่น ปลาแซลมอน หรืออาหารที่มีคอลลาเจนจากธรรมชาติ เช่น อะโวคาโด
- การนวดหน้าหรือการใช้เครื่องนวดหน้า เพราะการนวดหน้าช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและทำให้ผิวดูสดใส นอกจากนี้ยังช่วยให้กล้ามเนื้อใบหน้าไม่หดตัวและเกิดริ้วรอย ควรสามารถใช้เครื่องนวดหน้าหรือใช้มือในการนวดเบา ๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
จบปัญหาหน้าพัง ด้วยโปรแกรมผิวฟิลเตอร์ ที่ลีเอนจาง คลินิก
การมาทำโปรแกรมผิวฟิลเตอร์ ที่ลีเอนจาง คลินิก มีประโยชน์หลายประการ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าให้กระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และทำให้ผิวดูเนียนเรียบเหมือนใช้ฟิลเตอร์ในแอปพลิเคชันถ่ายภาพ โปรแกรมนี้ได้รับความนิยมเพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำและปรับโทนสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยมีการใช้เทคโนโลยีและหัตถการทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมีคุณภาพสูง ซึ่งสามารถตอบโจทย์การรักษาผิวหน้าหมองคล้ำ ริ้วรอย และปัญหาผิวต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด
โปรแกรมผิวฟิลเตอร์ที่ลีเอนจาง คลินิกจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการการดูแลผิวแบบครบวงจร ทั้งการฟื้นฟุผิวและการบำรุงให้ผิวดูสวยและสดใสโดยไม่ต้องพึ่งพาการใช้ฟิลเตอร์ในการถ่ายรูป หากท่านใดสนใจในโปรแกรมนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand
สรุป
หน้าพัง สภาพผิวหน้าเสียหายจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม การขาดการดูแลผิวที่ดี หรือการเผชิญกับมลภาวะ ซึ่งส่งผลให้ผิวหน้าเกิดปัญหาหมองคล้ำ ริ้วรอย จุดด่างดำ หรือผิวหย่อนคล้อย การดูแลผิวที่ดี การรักษาอย่างถูกวิธี และการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิวจึงเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูและป้องกันไม่ให้ผิวหน้าพัง เช่น การทาครีมกันแดด การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว และการรักษาด้วยหัตถการต่าง ๆ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ หรือโปรแกรมกระตุ้นคอลลาเจนให้กับผิว เพื่อช่วยให้ผิวกลับมามีสุขภาพดีและสดใสอีกครั้ง