หากคุณกำลังมองหาฟิลเลอร์ที่สามารถเติมเต็มริ้วรอยและเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าของคุณได้อย่างธรรมชาติ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Belotero ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับความนิยมในวงการเสริมความงาม ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและความปลอดภัยสูง ฟิลเลอร์ Belotero จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับฟิลเลอร์ Belotero ที่มีหลากหลายรุ่นเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น เติมเต็มร่องลึก เติมความชุ่มชื้นให้ผิว หรือการปรับรูปหน้าให้อ่อนเยาว์ขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีและวิธีการเลือกใช้ฟิลเลอร์แต่ละรุ่น รวมไปถึงการฉีดฟิลเลอร์อย่างปลอดภัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คุณควรทราบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาดูกันเลยว่าทำไมถึงเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ทั่วโลก!
Belotero คืออะไร ? มาจากประเทศอะไร ?
Belotero เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับปรับปรุงและเติมเต็มริ้วรอย เส้นลึก หรือเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวบริเวณต่าง ๆ เช่น ริมฝีปาก ใต้ตา แก้ม และร่องแก้ม ฟิลเลอร์ตัวนี้มีส่วนประกอบหลักคือ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราตามธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้ผิว และเป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Merz Aesthetics จากประเทศ เยอรมนี (Germany) ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเครื่องสำอางทางการแพทย์และเทคโนโลยีความงามที่มีคุณภาพสูง ฟิลเลอร์จากแบรนด์นี้ได้รับการรับรองจากทั้ง อย. ของไทย และ FDA ของสหรัฐอเมริกา ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์
ฟิลเลอร์ Belotero ดีไหม ? มีจุดเด่นอย่างไร ?
ฟิลเลอร์ Belotero ถือว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมและมีคุณภาพสูงในตลาด มีจุดเด่นหลายอย่างที่ทำให้หลายคนเลือกใช้ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการความเป็นธรรมชาติและผลลัพธ์ที่เนียนเรียบ และมีข้อดี ดังนี้
- ฟิลเลอร์ Belotero ผลิตจาก Hyaluronic Acid ที่มีความละเอียดสูง ซึ่งสามารถกระจายตัวได้ดีในชั้นผิว ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งรอยนูนหรือก้อนหลังการฉีด เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยที่มีความละเอียด เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยใต้ตา และเพิ่มวอลลุ่มในพื้นที่ที่ต้องการความละเอียด
- เนื่องจากฟิลเลอร์ Belotero ถูกออกแบบให้มี ความหนืดต่ำ และสามารถกระจายตัวได้อย่างดีในเนื้อเยื่อผิว ทำให้ฟิลเลอร์ไม่เกิดการจับตัวเป็นก้อน และมีการเติมเต็มที่สม่ำเสมอ ซึ่งช่วยให้ผลลัพธ์ดูอ่อนเยาว์และเป็นธรรมชาติ
- ฟิลเลอร์ Belotero มีหลายรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น Soft สำหรับการเติมเต็มบริเวณที่มีริ้วรอยตื้น, Balance สำหรับการเติมเต็มร่องลึก, และ Volume สำหรับการเพิ่มวอลลุ่มในโหนกแก้มหรือใบหน้า โดยแต่ละรุ่นจะเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด
- ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน โดยสามารถคงรูปอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นและบริเวณที่ฉีด
- ได้รับการรับรองจาก องค์การอาหารและยา (FDA) และสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัยในการใช้งาน
มีรุ่นอะไรบ้าง ? Belotero แต่ละสีแตกต่างกันอย่างไร ?
ฟิลเลอร์ Belotero มีหลายรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน โดยแต่ละรุ่นจะมีสีที่แตกต่างกันเพื่อแยกประเภทและการใช้งาน โดยเฉพาะตามความลึกและตำแหน่งของปัญหา ดังนี้
- Belotero Soft (สีเหลือง) เป็นหนึ่งในรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขริ้วรอยที่บางที่สุดและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว มีเนื้อสัมผัสที่บางเบาและเรียบเนียน ซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงการเป็นก้อนหลังฉีด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและอ่อนโยน
- Belotero Intense (สีชมพูเข้ม) เป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยลึกและการเพิ่มวอลลุ่มในจุดที่ต้องการความเด่นชัด มีเนื้อฟิลเลอร์ที่เข้มข้น ยืดหยุ่นสูง หนาแน่น และคงตัวสูง ช่วยเติมเต็มริ้วรอยลึกและเส้นที่ชัดเจนได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงรูปหน้าหรือเติมเต็มริ้วรอยที่ลึกอย่างมีประสิทธิภาพ
- Belotero Volume (สีม่วง) เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid (HA) สูง และความหนาแน่นสูงที่สุด ออกแบบมาเพื่อการเพิ่มวอลลุ่มในจุดที่ต้องการมิติและความคงทน เช่น แก้ม ขมับ และคาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเต็มขึ้นหรือแก้ไขการสูญเสียวอลลุ่มจากอายุที่เพิ่มขึ้น
- Belotero Revive (สีเขียว) เป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการฟื้นฟูและบำรุงผิวโดยเฉพาะ ที่รวมคุณสมบัติของ HA ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและ Glycerol ที่ช่วยกักเก็บน้ำในผิว ส่งเสริมให้ผิวหน้าดูสุขภาพดีและกระจ่างใส โดยเน้นการให้ความชุ่มชื้นและปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดูอิ่มน้ำ เรียบเนียน และเปล่งปลั่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าและแก้ปัญหาความแห้งกร้านอย่างล้ำลึก
- Belotero Balance (สีส้ม) เป็นหนึ่งในรุ่นยอดนิยมซึ่งออกแบบมาเพื่อแก้ไขริ้วรอยระดับปานกลางถึงลึก และช่วยปรับปรุงพื้นผิวผิวหน้าให้ดูเรียบเนียน โดยใช้เทคโนโลยี Dynamic Cross-Linking (DCL) เพื่อเพิ่มความเรียบเนียน ที่มีเนื้อฟิลเลอร์ผสมผสานเข้ากับผิวได้อย่างไร้รอยต่อ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและคงทน
ฟิลเลอร์ Belotero ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?
ฟิลเลอร์ Belotero เป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อมีความหลากหลายและสามารถใช้ได้กับหลายจุดบนใบหน้า เนื่องจากมีหลายรุ่นที่เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาผิวในแต่ละบริเวณโดยเฉพาะ ทั้งการแก้ไขริ้วรอย เพิ่มวอลลุ่ม และปรับปรุงคุณภาพผิว ควรเลือกฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมกับปัญหาและเป้าหมายที่ต้องการ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย จุดที่สามารถฉีดได้แบ่งตามปัญหาและผลลัพธ์ที่ต้องการดังนี้
- ใต้ตา เติมเต็มร่องลึกและลดความหมองคล้ำ โดยใช้รุ่น Soft, Balance
- ร่องแก้ม (Nasolabial Folds) ลดร่องลึกระหว่างจมูกและมุมปาก ใช้รุ่น Balance, Intense
- ร่องน้ำหมาก (Marionette Lines) เติมเต็มริ้วรอยบริเวณมุมปากที่ลึก ใช้รุ่น Balance, Intense
- ริมฝีปาก (Lips) เพิ่มวอลลุ่มและปรับรูปทรงริมฝีปาก ใช้รุ่น Intense, Balance
- แก้มตอบ เติมเต็มแก้มที่ดูยุบตัวหรือขาดวอลลุ่ม ใช้รุ่น Volume
- ขมับ เติมเต็มขมับที่ลึกหรือแบน ใช้รุ่น Volume
- คาง (Chin) ปรับรูปคางให้ยาวขึ้นหรือได้สัดส่วนที่สมดุล ใช้รุ่น Volume
อ่านบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ : เติมฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ Belotero กี่วันเห็นผล ?
ฟิลเลอร์ Belotero จะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังการฉีด โดยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการลดริ้วรอยและเพิ่มวอลลุ่มให้กับบริเวณที่ฉีด เช่น ร่องแก้ม ริมฝีปาก หรือขมับ แม้จะมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วงแรก แต่จะค่อย ๆ ลดลงใน 1-3 วัน และผลลัพธ์จะคงอยู่ชัดเจนหลังจาก 1-2 สัปดาห์ เมื่อฟิลเลอร์เข้าที่และกลืนกับผิวได้ดีขึ้น
ระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์ เช่น Soft อยู่ได้ประมาณ 6-9 เดือน Balance อยู่ได้ 6-12 เดือน และ Volume อยู่ได้ 12-18 เดือน ระยะเวลาการคงอยู่ของฟิลเลอร์ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ลักษณะผิวของแต่ละบุคคล การดูแลหลังการฉีด และการเผาผลาญของร่างกาย ซึ่งบางคนอาจเห็นผลลัพธ์ได้นานกว่า บางคนอาจต้องเติมฟิลเลอร์ใหม่หลังระยะเวลานั้น
ฟิลเลอร์ Belotero มียาชาไหม ?
ฟิลเลอร์ Belotero ส่วนใหญ่จะมีการผสม ยาชา (Lidocaine) เข้าไปในฟิลเลอร์เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีด โดยทั่วไป Belotero จะมีการผสมยาชาที่ช่วยให้ผู้ที่ฉีดรู้สึกสบายขึ้นและลดอาการเจ็บปวดในระหว่างการทำหัตถการ ซึ่งยาชาที่ใช้จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บและทำให้กระบวนการฉีดเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บางกรณีที่ผู้ใช้มีความรู้สึกไม่สบายผิววหรือมีความกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวด แพทย์อาจใช้ยาชาทาเพิ่มเติมในบริเวณที่จะฉีดเพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น
เปรียบเทียบฟิลเลอร์ Belotero กับยี่ห้ออื่น ๆ
การเปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ Belotero กับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ เช่น Juvederm, Restylane, และ Teosyal สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเมื่อเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ดังนี้
- Belotero: ฟิลเลอร์ Belotero มีลักษณะการกระจายตัวที่ละเอียดและอ่อนนุ่ม ซึ่งเหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยตื้น ๆ และเพิ่มวอลลุ่มในบริเวณที่ต้องการความเนียนละเอียด เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยใต้ตา ผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติไม่ทิ้งรอยนูนหรือก้อน
- Juvederm: ฟิลเลอร์ Juvederm มีเนื้อสัมผัสที่หนากว่า และเหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณที่ต้องการการยกสูงหรือการเติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้มและการปรับรูปหน้า โดยรุ่นต่าง ๆ ของ Juvederm จะมีความหนืดที่แตกต่างกัน เช่น Juvederm Voluma สำหรับเพิ่มวอลลุ่มในโหนกแก้ม
- Restylane: ฟิลเลอร์ Restylane มักจะมีความหนืดสูงและเหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณที่มีความลึก เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยบริเวณใต้ตา นอกจากนี้ Restylane ยังมี Restylane Lyft ที่ใช้เพิ่มวอลลุ่มในโหนกแก้มและใบหน้า
ฟิลเลอร์ Belotero มักจะถูกเลือกใช้ในงานที่ต้องการความละเอียดสูงและผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยใต้ตา และริมฝีปาก ในขณะที่ฟิลเลอร์ Juvederm, Restylane, และ Teosyal มักจะถูกเลือกใช้ในการเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มวอลลุ่มในโหนกแก้มหรือการปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์แต่ละชนิดจะเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้
วิธีเช้คฟิลเลอร์ Belotero ของแท้
เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับ ฟิลเลอร์ของแท้ สามารถตรวจสอบได้จากหลายวิธี ดังนี้
- กล่องบรรจุภัณฑ์ ของฟิลเลอร์ควรมีการพิมพ์ที่ชัดเจน รวมถึงหมายเลขรุ่น ชื่อแบรนด์ และข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง
- บรรจุภัณฑ์ต้องมีการปิดผนึกที่แน่นหนา ไม่มีรอยเปิดหรือการฉีกขาด
- ฟิลเลอร์ของแท้จะมาพร้อมกับ เลขซีเรียล และ หมายเลขล็อต ที่สามารถใช้ตรวจสอบที่มาและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
- ฟิลเลอร์ของแท้จะมี ลายเซ็นต์หรือโลโก้ ของบริษัทผลิตที่ถูกต้อง ซึ่งมักจะปรากฏอยู่บนบรรจุภัณฑ์หรือกระเป๋าที่ใช้เก็บฟิลเลอร์
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีข้อมูลชัดเจนและตรงตามข้อมูลจากผู้ผลิต
- ซื้อจากคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้รับอนุญาตและมีความน่าเชื่อถือ
- ฟิลเลอร์ที่ขายในแหล่งที่ไม่ได้รับการรับรองอาจเป็นของปลอมหรือไม่ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย
- ฟิลเลอร์ของแท้จะมีเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความนุ่มนวลและเข้ากับผิวได้ดี
- หากฟิลเลอร์มีลักษณะเป็นก้อนหรือเนื้อไม่เรียบแสดงว่าอาจไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้
- หากคุณยังไม่มั่นใจสามารถขอให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบฟิลเลอร์ก่อนการฉีด
- คลินิกที่มีชื่อเสียงและการรับรองจากองค์กรทางการแพทย์มักจะใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและของแท้เท่านั้น
ฟิลเลอร์ belotero ราคาเท่าไร ?
belotero ราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้, บริเวณที่ต้องการฉีด, และคลินิกที่ให้บริการ โดยประมาณราคาของฟิลเลอร์ในประเทศไทยจะอยู่ที่ 15,000 ขึ้นไป ต่อ 1 ซีซี ซึ่งอาจมีความแตกต่างขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์และการฉีดในแต่ละบริเวณ การฉีดฟิลเลอร์หลายซีซีหรือการเลือกบริการพิเศษอื่น ๆ อาจทำให้ราคาสูงขึ้น ดังนั้นควรตรวจสอบราคาและโปรโมชั่นจากคลินิกที่คุณเลือกใช้บริการเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนและตรงกับความต้องการ อยากทราบโปรโมชั่น และ ราคาของฟิลเลอร์ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand
ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์ Belotero
การฉีดฟิลเลอร์ Belotero เป็นกระบวนการที่ปลอดภัยหากทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ แต่ก็มีข้อควรระวังที่ควรพิจารณาก่อนและหลังการฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
- เลือกคลินิกหรือแพทย์ที่มีประสบการณ์ ควรเลือก คลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ และแพทย์ที่มี ใบอนุญาต และ ประสบการณ์ ในการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้การฉีดมีความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี อย่าซื้อฟิลเลอร์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะอาจเสี่ยงกับฟิลเลอร์ปลอมหรือคุณภาพต่ำ
- การแพ้หรืออาการแพ้ยา หากคุณมีประวัติการแพ้สารบางประเภท หรือแพ้ยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการฉีด ฟิลเลอร์มักจะมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ในบางกรณี
- หลีกเลี่ยงการฉีดในบางบริเวณ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณที่มีการติดเชื้อ หรือในคนที่มี โรคประจำตัว เช่น โรคเลือดหรือโรคภูมิแพ้ การฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณที่มีแผลหรือการอักเสบอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือภาวะแทรกซ้อนได้
- ดูแลหลังการฉีด หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควร หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด หรือการนวดบริเวณที่ทำการฉีด ควรหลีกเลี่ยง การออกแดดจัด หรือการทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากใน 1-2 วันหลังการฉีด พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดการบวมมาก
- อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น การฉีดฟิลเลอร์อาจทำให้เกิด อาการบวม, ฟกช้ำ หรือเจ็บ ในช่วงแรก ซึ่งจะหายไปภายในไม่กี่วัน หากมีอาการที่รุนแรงหรือไม่หายไป เช่น การติดเชื้อ หรือบวมรุนแรง ควรไปพบแพทย์ทันที
- ผลลัพธ์และการเติมฟิลเลอร์ ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์จะไม่ถาวร ควรเตรียมตัวในการเติมฟิลเลอร์เมื่อเวลาผ่านไป การเติมฟิลเลอร์อาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ฉีดฟิลเลอร์ Belotero กับลีเอนจางดีอย่างไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ Belotero ที่ ลีเอนจาง คลินิก (Lienjang Clinic) มีข้อดีหลายประการที่ช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี เพราะที่ลีเอนจาง คลินิกมีทีมแพทย์ที่มี ความเชี่ยวชาญสูง ในการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมอย่างดีในการใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย ฟิลเลอร์ Belotero ที่ลีเอนจาง คลินิกเลือกใช้เป็น ฟิลเลอร์ของแท้ จากผู้ผลิตโดยตรง ซึ่งสามารถมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
ลีเอนจาง คลินิกใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ทันสมัยและมี การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์เป็นไปอย่างแม่นยำและให้ผลลัพธ์ที่สวยงามตามความต้องการของลูกค้า การฉีดฟิลเลอร์ที่ ลีเอนจาง คลินิก จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และดูเป็นธรรมชาติจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
*หากท่านใดสนใจอยากสอบถามเกี่ยวกับรุ่นของฟิลเลอร์ Belotero ที่ลีเอนจาง คลินิก ว่ามีรุ่นไหน ราคาเท่าไร สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand หรือสามารถเข้ามาติดต่อโดยตรงที่ Lienjang Clinic Thailand ทุกสาขา*
Q&A คำถามที่พบบ่อย
Q: หลังฉีดฟิลเลอร์ Belotero พักหน้ากี่วัน ?
A: หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน แต่ควรให้เวลาในการดูแลตัวเองประมาณ 1-2 วัน โดยหลีกเลี่ยงการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด เพื่อให้ฟิลเลอร์เซตตัวได้ดีและลดความเสี่ยงในการเกิดบวม ฟกช้ำ หลังจากนั้นคุณสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในช่วง 1-2 วันแรก การฟื้นตัวจากอาการบวมหรือฟกช้ำมักใช้เวลา 7-10 วัน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกาย
Q: ฉีดฟิเลอร์ Belotero เจ็บไหม ? ช้ำไหม ?
A: การฉีดฟิลเลอร์ Belotero โดยทั่วไปมีความเจ็บปวดน้อย เนื่องจากฟิลเลอร์มักจะมีส่วนผสมของ ยาชา (Lidocaine) ที่ช่วยลดอาการเจ็บในระหว่างการฉีด อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและความทนทานของแต่ละบุคคล โดยในบางกรณีที่ฉีดในบริเวณที่มีเส้นประสาทหรือเนื้อเยื่อบอบบาง เช่น ริ้วรอยใต้ตา อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
ส่วนเรื่อง อาการช้ำ หลังการฉีด ฟิลเลอร์มักจะทำให้เกิดอาการบวมและฟกช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปภายใน 2-3 วัน หากมีการบวมมากขึ้นหรือนานเกินไป ควรปรึกษาแพทย์ อาการช้ำจะขึ้นอยู่กับวิธีการฉีดและการตอบสนองของร่างกาย โดยทั่วไปแล้วอาการฟกช้ำจะไม่รุนแรงและจะหายไปในระยะเวลาไม่นาน
Q: ฟิลเลอร์ Belotero ทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?
A: ฟิลเลอร์ Belotero สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ เช่น HIFU เลเซอร์ และ PRP เพื่อเสริมผลลัพธ์ความงามให้ดียิ่งขึ้น เช่น การฉีด Botox เพื่อลดริ้วรอยจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ขณะที่ ฟิลเลอร์เติมเต็มร่องลึกหรือเพิ่มวอลลุ่ม การทำ HIFU ร่วมจะช่วยยกกระชับผิว ส่วนการทำ เลเซอร์ หรือ PRP จะช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสและมีสุขภาพดี แต่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกหัตถการที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับคุณ
สรุป
ฟิลเลอร์ Belotero เป็นฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid ที่ได้รับความนิยมในวงการเสริมความงาม เนื่องจากมีคุณสมบัติในการเติมเต็มริ้วรอยและเพิ่มวอลลุ่มในบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งรอยนูนหรือก้อนหลังการฉีด มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละรุ่นเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น เติมเต็มร่องลึกหรือการปรับรูปหน้า มักใช้ในบริเวณที่ต้องการความละเอียด เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยใต้ตา หรือเพิ่มวอลลุ่มให้กับโหนกแก้มและริมฝีปาก โดยการเลือกใช้ฟิลเลอร์นี้ควรทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและสวยงาม