บทความ

Article

ทำความรู้จัก Belotero ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ดีอย่างไร ?
Facebook
X
Email

ทำความรู้จัก Belotero ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ดีอย่างไร ?

หัวข้อที่น่าสนใจ

หากคุณกำลังมองหาฟิลเลอร์ที่สามารถเติมเต็มริ้วรอยและเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าของคุณได้อย่างธรรมชาติ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Belotero ฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับความนิยมในวงการเสริมความงาม ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและความปลอดภัยสูง ฟิลเลอร์ Belotero จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับฟิลเลอร์ Belotero ที่มีหลากหลายรุ่นเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น เติมเต็มร่องลึก เติมความชุ่มชื้นให้ผิว หรือการปรับรูปหน้าให้อ่อนเยาว์ขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีและวิธีการเลือกใช้ฟิลเลอร์แต่ละรุ่น รวมไปถึงการฉีดฟิลเลอร์อย่างปลอดภัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คุณควรทราบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาดูกันเลยว่าทำไมถึงเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้ทั่วโลก!

Belotero คืออะไร ? มาจากประเทศอะไร ?

Belotero คืออะไร ? มาจากประเทศอะไร ?

Belotero เป็นแบรนด์ฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับปรับปรุงและเติมเต็มริ้วรอย เส้นลึก หรือเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวบริเวณต่าง ๆ เช่น ริมฝีปาก ใต้ตา แก้ม และร่องแก้ม ฟิลเลอร์ตัวนี้มีส่วนประกอบหลักคือ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราตามธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้ผิว และเป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Merz Aesthetics จากประเทศ เยอรมนี (Germany) ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเครื่องสำอางทางการแพทย์และเทคโนโลยีความงามที่มีคุณภาพสูง ฟิลเลอร์จากแบรนด์นี้ได้รับการรับรองจากทั้ง อย. ของไทย และ FDA ของสหรัฐอเมริกา ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์

ฟิลเลอร์ Belotero ดีไหม ? มีจุดเด่นอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Belotero ถือว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมและมีคุณภาพสูงในตลาด มีจุดเด่นหลายอย่างที่ทำให้หลายคนเลือกใช้ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการความเป็นธรรมชาติและผลลัพธ์ที่เนียนเรียบ และมีข้อดี ดังนี้

  • ฟิลเลอร์ Belotero ผลิตจาก Hyaluronic Acid ที่มีความละเอียดสูง ซึ่งสามารถกระจายตัวได้ดีในชั้นผิว ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งรอยนูนหรือก้อนหลังการฉีด เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยที่มีความละเอียด เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยใต้ตา และเพิ่มวอลลุ่มในพื้นที่ที่ต้องการความละเอียด
  • เนื่องจากฟิลเลอร์ Belotero ถูกออกแบบให้มี ความหนืดต่ำ และสามารถกระจายตัวได้อย่างดีในเนื้อเยื่อผิว ทำให้ฟิลเลอร์ไม่เกิดการจับตัวเป็นก้อน และมีการเติมเต็มที่สม่ำเสมอ ซึ่งช่วยให้ผลลัพธ์ดูอ่อนเยาว์และเป็นธรรมชาติ
  • ฟิลเลอร์ Belotero มีหลายรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น Soft สำหรับการเติมเต็มบริเวณที่มีริ้วรอยตื้น, Balance สำหรับการเติมเต็มร่องลึก, และ Volume สำหรับการเพิ่มวอลลุ่มในโหนกแก้มหรือใบหน้า โดยแต่ละรุ่นจะเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด
  • ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน โดยสามารถคงรูปอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นและบริเวณที่ฉีด
  • ได้รับการรับรองจาก องค์การอาหารและยา (FDA) และสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัยในการใช้งาน

มีรุ่นอะไรบ้าง ? Belotero แต่ละสีแตกต่างกันอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Belotero มีหลายรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน โดยแต่ละรุ่นจะมีสีที่แตกต่างกันเพื่อแยกประเภทและการใช้งาน โดยเฉพาะตามความลึกและตำแหน่งของปัญหา ดังนี้

มีรุ่นอะไรบ้าง ? Belotero แต่ละสีแตกต่างกันอย่างไร ?

  1. Belotero Soft (สีเหลือง) เป็นหนึ่งในรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขริ้วรอยที่บางที่สุดและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว มีเนื้อสัมผัสที่บางเบาและเรียบเนียน ซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงการเป็นก้อนหลังฉีด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและอ่อนโยน
  2. Belotero Intense (สีชมพูเข้ม) เป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาริ้วรอยลึกและการเพิ่มวอลลุ่มในจุดที่ต้องการความเด่นชัด มีเนื้อฟิลเลอร์ที่เข้มข้น ยืดหยุ่นสูง หนาแน่น และคงตัวสูง ช่วยเติมเต็มริ้วรอยลึกและเส้นที่ชัดเจนได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงรูปหน้าหรือเติมเต็มริ้วรอยที่ลึกอย่างมีประสิทธิภาพ
  3. Belotero Volume (สีม่วง) เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid (HA) สูง และความหนาแน่นสูงที่สุด ออกแบบมาเพื่อการเพิ่มวอลลุ่มในจุดที่ต้องการมิติและความคงทน เช่น แก้ม ขมับ และคาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเต็มขึ้นหรือแก้ไขการสูญเสียวอลลุ่มจากอายุที่เพิ่มขึ้น
  4. Belotero Revive (สีเขียว) เป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการฟื้นฟูและบำรุงผิวโดยเฉพาะ ที่รวมคุณสมบัติของ HA ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและ Glycerol ที่ช่วยกักเก็บน้ำในผิว ส่งเสริมให้ผิวหน้าดูสุขภาพดีและกระจ่างใส โดยเน้นการให้ความชุ่มชื้นและปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดูอิ่มน้ำ เรียบเนียน และเปล่งปลั่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าและแก้ปัญหาความแห้งกร้านอย่างล้ำลึก
  5. Belotero Balance (สีส้ม) เป็นหนึ่งในรุ่นยอดนิยมซึ่งออกแบบมาเพื่อแก้ไขริ้วรอยระดับปานกลางถึงลึก และช่วยปรับปรุงพื้นผิวผิวหน้าให้ดูเรียบเนียน โดยใช้เทคโนโลยี Dynamic Cross-Linking (DCL) เพื่อเพิ่มความเรียบเนียน ที่มีเนื้อฟิลเลอร์ผสมผสานเข้ากับผิวได้อย่างไร้รอยต่อ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและคงทน

ฟิลเลอร์ Belotero ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?

ฟิลเลอร์ Belotero เป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อมีความหลากหลายและสามารถใช้ได้กับหลายจุดบนใบหน้า เนื่องจากมีหลายรุ่นที่เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาผิวในแต่ละบริเวณโดยเฉพาะ ทั้งการแก้ไขริ้วรอย เพิ่มวอลลุ่ม และปรับปรุงคุณภาพผิว ควรเลือกฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมกับปัญหาและเป้าหมายที่ต้องการ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย จุดที่สามารถฉีดได้แบ่งตามปัญหาและผลลัพธ์ที่ต้องการดังนี้

  1. ใต้ตา เติมเต็มร่องลึกและลดความหมองคล้ำ โดยใช้รุ่น Soft, Balance
  2. ร่องแก้ม (Nasolabial Folds) ลดร่องลึกระหว่างจมูกและมุมปาก ใช้รุ่น Balance, Intense
  3. ร่องน้ำหมาก (Marionette Lines) เติมเต็มริ้วรอยบริเวณมุมปากที่ลึก ใช้รุ่น Balance, Intense
  4. ริมฝีปาก (Lips) เพิ่มวอลลุ่มและปรับรูปทรงริมฝีปาก ใช้รุ่น Intense, Balance
  5. แก้มตอบ เติมเต็มแก้มที่ดูยุบตัวหรือขาดวอลลุ่ม ใช้รุ่น Volume
  6. ขมับ เติมเต็มขมับที่ลึกหรือแบน ใช้รุ่น Volume
  7. คาง (Chin) ปรับรูปคางให้ยาวขึ้นหรือได้สัดส่วนที่สมดุล ใช้รุ่น Volume

อ่านบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ : เติมฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ Belotero กี่วันเห็นผล ?

มีรุ่นอะไรบ้าง ? Belotero แต่ละสีแตกต่างกันอย่างไร ?

ฟิลเลอร์ Belotero จะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังการฉีด โดยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการลดริ้วรอยและเพิ่มวอลลุ่มให้กับบริเวณที่ฉีด เช่น ร่องแก้ม ริมฝีปาก หรือขมับ แม้จะมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วงแรก แต่จะค่อย ๆ ลดลงใน 1-3 วัน และผลลัพธ์จะคงอยู่ชัดเจนหลังจาก 1-2 สัปดาห์ เมื่อฟิลเลอร์เข้าที่และกลืนกับผิวได้ดีขึ้น

ระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์ เช่น Soft อยู่ได้ประมาณ 6-9 เดือน Balance อยู่ได้ 6-12 เดือน และ Volume อยู่ได้ 12-18 เดือน ระยะเวลาการคงอยู่ของฟิลเลอร์ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ลักษณะผิวของแต่ละบุคคล การดูแลหลังการฉีด และการเผาผลาญของร่างกาย ซึ่งบางคนอาจเห็นผลลัพธ์ได้นานกว่า บางคนอาจต้องเติมฟิลเลอร์ใหม่หลังระยะเวลานั้น

ฟิลเลอร์ Belotero มียาชาไหม ?

ฟิลเลอร์ Belotero ส่วนใหญ่จะมีการผสม ยาชา (Lidocaine) เข้าไปในฟิลเลอร์เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีด โดยทั่วไป Belotero จะมีการผสมยาชาที่ช่วยให้ผู้ที่ฉีดรู้สึกสบายขึ้นและลดอาการเจ็บปวดในระหว่างการทำหัตถการ ซึ่งยาชาที่ใช้จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บและทำให้กระบวนการฉีดเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บางกรณีที่ผู้ใช้มีความรู้สึกไม่สบายผิววหรือมีความกังวลเกี่ยวกับความเจ็บปวด แพทย์อาจใช้ยาชาทาเพิ่มเติมในบริเวณที่จะฉีดเพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น

เปรียบเทียบฟิลเลอร์ Belotero กับยี่ห้ออื่น ๆ

การเปรียบเทียบ ฟิลเลอร์ Belotero กับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ เช่น Juvederm, Restylane, และ Teosyal สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเมื่อเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ดังนี้

  • Belotero: ฟิลเลอร์ Belotero มีลักษณะการกระจายตัวที่ละเอียดและอ่อนนุ่ม ซึ่งเหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยตื้น ๆ และเพิ่มวอลลุ่มในบริเวณที่ต้องการความเนียนละเอียด เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยใต้ตา ผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติไม่ทิ้งรอยนูนหรือก้อน
  • Juvederm: ฟิลเลอร์ Juvederm มีเนื้อสัมผัสที่หนากว่า และเหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณที่ต้องการการยกสูงหรือการเติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้มและการปรับรูปหน้า โดยรุ่นต่าง ๆ ของ Juvederm จะมีความหนืดที่แตกต่างกัน เช่น Juvederm Voluma สำหรับเพิ่มวอลลุ่มในโหนกแก้ม
  • Restylane: ฟิลเลอร์ Restylane มักจะมีความหนืดสูงและเหมาะสำหรับการเติมเต็มบริเวณที่มีความลึก เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยบริเวณใต้ตา นอกจากนี้ Restylane ยังมี Restylane Lyft ที่ใช้เพิ่มวอลลุ่มในโหนกแก้มและใบหน้า

ฟิลเลอร์ Belotero มักจะถูกเลือกใช้ในงานที่ต้องการความละเอียดสูงและผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยใต้ตา และริมฝีปาก ในขณะที่ฟิลเลอร์ Juvederm, Restylane, และ Teosyal มักจะถูกเลือกใช้ในการเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มวอลลุ่มในโหนกแก้มหรือการปรับรูปหน้า ฟิลเลอร์แต่ละชนิดจะเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้

วิธีเช้คฟิลเลอร์ Belotero ของแท้

วิธีเช้คฟิลเลอร์ Belotero ของแท้

เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับ ฟิลเลอร์ของแท้ สามารถตรวจสอบได้จากหลายวิธี ดังนี้

  • กล่องบรรจุภัณฑ์ ของฟิลเลอร์ควรมีการพิมพ์ที่ชัดเจน รวมถึงหมายเลขรุ่น ชื่อแบรนด์ และข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง
  • บรรจุภัณฑ์ต้องมีการปิดผนึกที่แน่นหนา ไม่มีรอยเปิดหรือการฉีกขาด
  • ฟิลเลอร์ของแท้จะมาพร้อมกับ เลขซีเรียล และ หมายเลขล็อต ที่สามารถใช้ตรวจสอบที่มาและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
  • ฟิลเลอร์ของแท้จะมี ลายเซ็นต์หรือโลโก้ ของบริษัทผลิตที่ถูกต้อง ซึ่งมักจะปรากฏอยู่บนบรรจุภัณฑ์หรือกระเป๋าที่ใช้เก็บฟิลเลอร์
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีข้อมูลชัดเจนและตรงตามข้อมูลจากผู้ผลิต
  • ซื้อจากคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้รับอนุญาตและมีความน่าเชื่อถือ
  • ฟิลเลอร์ที่ขายในแหล่งที่ไม่ได้รับการรับรองอาจเป็นของปลอมหรือไม่ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย
  • ฟิลเลอร์ของแท้จะมีเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความนุ่มนวลและเข้ากับผิวได้ดี
  • หากฟิลเลอร์มีลักษณะเป็นก้อนหรือเนื้อไม่เรียบแสดงว่าอาจไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้
  • หากคุณยังไม่มั่นใจสามารถขอให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบฟิลเลอร์ก่อนการฉีด
  • คลินิกที่มีชื่อเสียงและการรับรองจากองค์กรทางการแพทย์มักจะใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและของแท้เท่านั้น

ฟิลเลอร์ belotero ราคาเท่าไร ?

belotero ราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้, บริเวณที่ต้องการฉีด, และคลินิกที่ให้บริการ โดยประมาณราคาของฟิลเลอร์ในประเทศไทยจะอยู่ที่ 15,000 ขึ้นไป ต่อ 1 ซีซี ซึ่งอาจมีความแตกต่างขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์และการฉีดในแต่ละบริเวณ การฉีดฟิลเลอร์หลายซีซีหรือการเลือกบริการพิเศษอื่น ๆ อาจทำให้ราคาสูงขึ้น ดังนั้นควรตรวจสอบราคาและโปรโมชั่นจากคลินิกที่คุณเลือกใช้บริการเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนและตรงกับความต้องการ อยากทราบโปรโมชั่น และ ราคาของฟิลเลอร์ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand

ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์ Belotero

การฉีดฟิลเลอร์ Belotero เป็นกระบวนการที่ปลอดภัยหากทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ แต่ก็มีข้อควรระวังที่ควรพิจารณาก่อนและหลังการฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน

  1. เลือกคลินิกหรือแพทย์ที่มีประสบการณ์ ควรเลือก คลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ และแพทย์ที่มี ใบอนุญาต และ ประสบการณ์ ในการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้การฉีดมีความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี อย่าซื้อฟิลเลอร์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะอาจเสี่ยงกับฟิลเลอร์ปลอมหรือคุณภาพต่ำ
  2. การแพ้หรืออาการแพ้ยา หากคุณมีประวัติการแพ้สารบางประเภท หรือแพ้ยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการฉีด ฟิลเลอร์มักจะมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ในบางกรณี
  3. หลีกเลี่ยงการฉีดในบางบริเวณ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณที่มีการติดเชื้อ หรือในคนที่มี โรคประจำตัว เช่น โรคเลือดหรือโรคภูมิแพ้ การฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณที่มีแผลหรือการอักเสบอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือภาวะแทรกซ้อนได้
  4. ดูแลหลังการฉีด หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควร หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด หรือการนวดบริเวณที่ทำการฉีด ควรหลีกเลี่ยง การออกแดดจัด หรือการทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากใน 1-2 วันหลังการฉีด พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดการบวมมาก
  5. อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น การฉีดฟิลเลอร์อาจทำให้เกิด อาการบวม, ฟกช้ำ หรือเจ็บ ในช่วงแรก ซึ่งจะหายไปภายในไม่กี่วัน หากมีอาการที่รุนแรงหรือไม่หายไป เช่น การติดเชื้อ หรือบวมรุนแรง ควรไปพบแพทย์ทันที
  6. ผลลัพธ์และการเติมฟิลเลอร์ ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์จะไม่ถาวร ควรเตรียมตัวในการเติมฟิลเลอร์เมื่อเวลาผ่านไป การเติมฟิลเลอร์อาจจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ฉีดฟิลเลอร์ Belotero กับลีเอนจางดีอย่างไร ?

ฉีดฟิลเลอร์ Belotero กับลีเอนจางดีอย่างไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ Belotero ที่ ลีเอนจาง คลินิก (Lienjang Clinic) มีข้อดีหลายประการที่ช่วยให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี เพราะที่ลีเอนจาง คลินิกมีทีมแพทย์ที่มี ความเชี่ยวชาญสูง ในการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมอย่างดีในการใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย ฟิลเลอร์ Belotero ที่ลีเอนจาง คลินิกเลือกใช้เป็น ฟิลเลอร์ของแท้ จากผู้ผลิตโดยตรง ซึ่งสามารถมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย

ลีเอนจาง คลินิกใช้เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ที่ทันสมัยและมี การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์เป็นไปอย่างแม่นยำและให้ผลลัพธ์ที่สวยงามตามความต้องการของลูกค้า การฉีดฟิลเลอร์ที่ ลีเอนจาง คลินิก จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และดูเป็นธรรมชาติจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

*หากท่านใดสนใจอยากสอบถามเกี่ยวกับรุ่นของฟิลเลอร์ Belotero ที่ลีเอนจาง คลินิก ว่ามีรุ่นไหน ราคาเท่าไร สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand หรือสามารถเข้ามาติดต่อโดยตรงที่ Lienjang Clinic Thailand ทุกสาขา*

Q&A คำถามที่พบบ่อย

Q: หลังฉีดฟิลเลอร์ Belotero พักหน้ากี่วัน ?

A: หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน แต่ควรให้เวลาในการดูแลตัวเองประมาณ 1-2 วัน โดยหลีกเลี่ยงการนวดหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด เพื่อให้ฟิลเลอร์เซตตัวได้ดีและลดความเสี่ยงในการเกิดบวม ฟกช้ำ หลังจากนั้นคุณสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในช่วง 1-2 วันแรก การฟื้นตัวจากอาการบวมหรือฟกช้ำมักใช้เวลา 7-10 วัน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกาย

Q: ฉีดฟิเลอร์ Belotero เจ็บไหม ? ช้ำไหม ?

A: การฉีดฟิลเลอร์ Belotero โดยทั่วไปมีความเจ็บปวดน้อย เนื่องจากฟิลเลอร์มักจะมีส่วนผสมของ ยาชา (Lidocaine) ที่ช่วยลดอาการเจ็บในระหว่างการฉีด อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและความทนทานของแต่ละบุคคล โดยในบางกรณีที่ฉีดในบริเวณที่มีเส้นประสาทหรือเนื้อเยื่อบอบบาง เช่น ริ้วรอยใต้ตา อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย

ส่วนเรื่อง อาการช้ำ หลังการฉีด ฟิลเลอร์มักจะทำให้เกิดอาการบวมและฟกช้ำเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปภายใน 2-3 วัน หากมีการบวมมากขึ้นหรือนานเกินไป ควรปรึกษาแพทย์ อาการช้ำจะขึ้นอยู่กับวิธีการฉีดและการตอบสนองของร่างกาย โดยทั่วไปแล้วอาการฟกช้ำจะไม่รุนแรงและจะหายไปในระยะเวลาไม่นาน

Q: ฟิลเลอร์ Belotero ทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม ?

A: ฟิลเลอร์ Belotero สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ เช่น HIFU เลเซอร์ และ PRP เพื่อเสริมผลลัพธ์ความงามให้ดียิ่งขึ้น เช่น การฉีด Botox เพื่อลดริ้วรอยจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ขณะที่ ฟิลเลอร์เติมเต็มร่องลึกหรือเพิ่มวอลลุ่ม การทำ HIFU ร่วมจะช่วยยกกระชับผิว ส่วนการทำ เลเซอร์ หรือ PRP จะช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสและมีสุขภาพดี แต่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกหัตถการที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับคุณ

สรุป

ฟิลเลอร์ Belotero เป็นฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid ที่ได้รับความนิยมในวงการเสริมความงาม เนื่องจากมีคุณสมบัติในการเติมเต็มริ้วรอยและเพิ่มวอลลุ่มในบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งรอยนูนหรือก้อนหลังการฉีด มีหลายรุ่นให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละรุ่นเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น เติมเต็มร่องลึกหรือการปรับรูปหน้า มักใช้ในบริเวณที่ต้องการความละเอียด เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยใต้ตา หรือเพิ่มวอลลุ่มให้กับโหนกแก้มและริมฝีปาก โดยการเลือกใช้ฟิลเลอร์นี้ควรทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและสวยงาม

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี