นวัตกรรมการดูแลผิว ปี 2024 ที่กำลังมาแรงสุด ๆ ในเรื่องของการยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด นั่นก็คือ “ไหมน้ำ” ซึ่งเป็นหัตถการงานผิวที่คืนความอ่อนเยาว์ คืนความเต่งตึงให้กับใบหน้า และยังช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง เมื่ออายุมากขึ้นหลาย ๆ คนมักเจอกับปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย และใบหน้าดูหมองคล้ำ เพราะการสูญเสียคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ไหมน้ำจึงเป็นวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ แต่ก่อนที่จะไปดูวิธีทำให้หน้าเด็กเราต้องรู้กันก่อนว่าไหมน้ำคืออะไร ? ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ได้จริงหรือไม่ ? สามารถตามมาดูได้ในบทความนี้
ไหมน้ำ คืออะไร ?
ไหมน้ำ คือ เทคนิคการฉีดไหมรูปแบบหนึ่งที่ใช้สารเติมเต็มชนิดน้ำ ที่มีส่วนประกอบหลักเป็นสาร PCL (Polycaprolactone) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยกกระชับผิว และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง และเป็นสารชนิดเดียวกันกับไหมละลายที่ใช้ในการร้อยไหม เทคนิคนี้เรียกว่า “ไหมน้ำ” เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับการใช้ไหมละลายในการยกกระชับ แต่แทนที่จะใช้ไหมจริง ๆ จะเป็นการฉีดสารเติมเต็มชนิดน้ำเข้าไปใต้ผิวแทน
ไหมน้ำมีหลักการทำงานอย่างไร ?
ไหมน้ำมีหลักการทำงานโดยใช้สารเติมเต็มชนิดน้ำฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง เมื่อถูกฉีดเข้าสู่ชั้นผิว จะกระตุ้นเซลล์ผิวให้สร้างคอลลาเจนและอิลาสตินมากขึ้น ส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่นและยกกระชับผิวให้เต่งตึงขึ้น ช่วยลดความหย่อนคล้อยและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น แม้ไหมน้ำจะค่อย ๆ สลายไปตามเวลา แต่การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนยังคงส่งผลให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระชับต่อไป โดยรวมแล้วเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเสริมความงาม ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
ไหมน้ำช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
หลายคนมักสงสัยว่า ไหมน้ำช่วยเรื่องอะไร ? ไหมน้ําดีไหม ? ซึ่งมีประโยชน์และช่วยในหลายด้านเกี่ยวกับการดูแลผิวพรรณและความงาม เช่น
- ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูเรียวและกระชับขึ้น
- ช่วยเติมเต็มผิวที่ดูแห้งกร้าน ให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นมากขึ้น ทำให้ผิวดูสดใสและอิ่มน้ำ
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา รอยย่นที่หน้าผาก หรือรอยย่นบริเวณมุมปาก
- ช่วยแก้ไขปัญหารูขุมขนกว้าง กระชับรูขุมขนให้เล็กลง ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหน้าดูสดชื่นและอ่อนเยาว์ขึ้น
- นอกจากการยกกระชับแล้ว ยังสามารถใช้ในการปรับรูปหน้าให้สมส่วนและได้รูปมากขึ้น
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว สร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้นทำให้ลดการเกิดริ้วรอย
การฉีดไหมน้ำ เหมาะกับใคร ?
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวและต้องการฟื้นฟูหรือปรับปรุงใบหน้าให้ดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการการดูแลผิวโดยไม่ต้องผ่าตัดและพักฟื้นนาน ผู้ที่เหมาะสมกับการฉีดไหมน้ำมีดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย : เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีสัญญาณของผิวหย่อนคล้อย และต้องการยกกระชับผิวให้ดูเต่งตึงขึ้น
- ผู้ที่มีผิวแห้งหรือขาดความชุ่มชื้น : ผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำ จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูสดใสและอิ่มน้ำมากขึ้น
- ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย : ผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ หรือรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยเหล่านี้ได้
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้า : ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น อิ่มฟูและเรียบเนียน
- ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดหรือทำศัลยกรรม : เป็นเทคนิคที่ไม่ต้องมีการผ่าตัด จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการเจ็บตัวมาก และไม่ต้องการพักฟื้นนาน
โปรแกรม The Glory ไหมน้ำตัวดังของลีเอนจาง
หากใครที่กำลังมีปัญหาหน้าแห้งกร้าน ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระจ่างใส และต้องการแก้ไขอย่างเร่งด่วนแต่ไม่รู้ต้องทำอะไร ที่ลีเอนจาง คลินิก ก็ได้มีนวัตกรรมใหม่ที่ส่งตรงจากเกาหลีอย่างโปรแกรม The Glory Gorgeous Treatment (ไหมน้ำ Gouri) ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างตรงจุด ซึ่งโปรแกรม The Glory เป็นหนึ่งในโปรแกรมดูแลผิวพรรณที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งมุ่งเน้นการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ฟื้นฟูผิวจากผิวที่เสื่อมสภาพ ด้วยสาร PCL (Polycaprolactone) ที่รูปแบบเป็นของเหลว (Fully Liquid) เป็นสารละลาย 100% จึงทำให้ไม่มีการตกค้างในร่างกาย
จุดเด่นของโปรแกรม The Glory
- ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ หน้าฟู รูขุมขนกระชับ
- ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำและความไม่สม่ำเสมอของสีผิว
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนส่งเสริมให้ผิวมีความยืดหยุ่นและมีความกระชับขึ้น
- ช่วยลดริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าให้ตื้นขึ้น ปรับผิวเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
- ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในสู่ภายนอก ชะลอวัย คืนความอ่อนเยาว์
หากท่านใดสนใจโปรแกรม The Glory สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand
โปรแกรม Radiesse ไหมน้ำตัวดังของลีเอนจาง
โปรแกรม Radiesse Reset Young Radiesse เป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากของลีเอนจาง Biostimulator ที่ประกอบด้วยสาร calcium hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึงและดูอ่อนเยาว์ขึ้น โปรแกรม Radiesse ช่วยในการปรับรูปหน้า เติมเต็มริ้วรอย และเพิ่มความกระชับให้กับผิว โดยสามารถใช้ในบริเวณต่าง ๆ เช่น กรอบหน้า คาง ขากรรไกร แก้ม และหลังมือ Radiesse มีความพิเศษในการที่ไม่เพียงแค่เติมเต็ม แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า Skin Booster ชนิดอื่น ๆ โดยปกติจะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของแต่ละบุคคล
ฉีดไหมน้ำใช้เวลานานเท่าไรจึงจะเห็นผล ?
การฉีดไหมน้ำจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ โดยเฉพาะในด้านของความชุ่มชื้นและความเต่งตึงของผิว แต่ผลลัพธ์เต็มที่และชัดเจนจะปรากฏหลังจาก 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากสารเติมเต็มจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ซึ่งต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูและปรับปรุงโครงสร้างผิว สำหรับการยกกระชับและลดเลือนริ้วรอย ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่สองและอาจคงอยู่ได้ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่ใช้และลักษณะผิวของแต่ละคน
ไหมน้ำ ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง ?
สามารถฉีดได้หลายบริเวณบนใบหน้า เพื่อฟื้นฟูผิวและยกกระชับในส่วนต่าง ๆ ตามความต้องการของแต่ละบุคคล บริเวณที่นิยมฉีด มีดังนี้
- บริเวณแก้ม ยกกระชับผิวบริเวณแก้มและลดความหย่อนคล้อย
- บริเวณร่องแก้ม เติมเต็มร่องแก้มลึกให้ดูเรียบเนียนและอิ่มฟูขึ้น
- บริเวณใต้ตา ช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาและริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา
- บริเวณแนวกราม ปรับรูปหน้าให้กรอบหน้าชัดเจนและดูเรียวขึ้น
- บริเวณหน้าผากลดริ้วรอยย่นบริเวณหน้าผาก ทำให้ผิวดูเรียบเนียน
- บริเวณคิ้ว ยกคิ้วให้ดูสูงขึ้นและเพิ่มความคมชัดให้ใบหน้า
- บริเวณมุมปาก แก้ปัญหามุมปากตก ทำให้รอยยิ้มดูสดใสและไม่เศร้า
- บริเวณลำคอ ช่วยยกกระชับผิวบริเวณคอที่เริ่มหย่อนคล้อย ให้คอดูเต่งตึงและเรียบเนียนมากขึ้น
- บริเวณบริเวณอื่น ๆ นอกจากใบหน้าและลำคอ ยังสามารถฉีดในบริเวณอื่นที่ต้องการฟื้นฟู เช่น หลังมือ เพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์
ฉีดไหมน้ำอยู่ได้นานไหม ?
ผลลัพธ์โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของสารที่ใช้ ความลึกที่ฉีด และสภาพผิวของแต่ละบุคคล นอกจากนี้หากดูแลผิวดีและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การดื่มน้ำเพียงพอ หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด หรือการใช้ครีมบำรุงที่เหมาะสม ผลลัพธ์ก็อาจอยู่ได้นานขึ้น จากนั้นร่างกายจะค่อย ๆ ย่อยสลายสารไปตามธรรมชาติ ซึ่งจะส่งผลให้ผลลัพธ์ค่อย ๆ ลดลงตามระยะเวลา หลังจากนั้น หากต้องการคงผลลัพธ์ต่อไป ก็สามารถกลับมาฉีดเพิ่มเติมได้ การฉีดไหมน้ำมักเป็นเทคนิคที่ไม่ต้องการการพักฟื้นนาน ผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีหลังทำ และจะค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อสารเติมเต็มเริ่มกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
การฉีดไหมน้ำ ราคาอยู่ที่เท่าไร ?
การฉีดไหมน้ำ ราคาจะแตกต่างกันไปตามคลินิกและปริมาณไหมที่ใช้ในการรักษา โดยราคาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของสารที่ใช้ พื้นที่ที่ต้องการยกกระชับ และประสบการณ์ของแพทย์ โดยทั่วไป ราคามักจะอยู่ในช่วงประมาณ 10,000 – 30,000 บาท ต่อครั้ง หากต้องการข้อมูลที่แม่นยำ ควรปรึกษาคลินิกที่สนใจโดยตรงเพื่อประเมินราคาและโปรโมชั่นที่คุ่มค่า
การเตรียมตัวก่อนฉีดไหมน้ำ
การเตรียมตัวก่อนฉีดมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ต่อไปนี้คือขั้นตอนการเตรียมตัวที่ถูกต้อง
- ควรเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและความต้องการในการรักษา รวมถึงการสอบถามเกี่ยวกับผลลัพธ์และความเสี่ยง
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพรินหรือยาแก้ปวดอื่น ๆ ที่อาจทำให้เลือดออกง่ายขึ้น อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการรักษา
- หลีกเลี่ยงการใช้เสริมอาหารที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี และสมุนไพรบางชนิด
- หากมีอาการป่วยหรือผิวหนังอักเสบ ควรเลื่อนการรักษาออกไปจนกว่าจะหายดี
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอในวันก่อนและวันของการรักษา เพื่อช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจระคายเคืองผิวหน้า เช่น สกินแคร์ที่มีสารเคมีรุนแรง ก่อนการรักษา
ขั้นตอนการฉีดไหมน้ำ
ขั้นตอนในการฉีดมีหลายขั้นตอนที่ช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ต่อไปนี้คือขั้นตอนหลัก ๆ ในการรักษา
- แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับความต้องการและเป้าหมายการรักษา จากนั้นจะประเมินสภาพผิวหน้าเพื่อตัดสินใจว่าต้องฉีดในบริเวณไหนบ้าง
- บริเวณที่ต้องการรักษาจะถูกทำความสะอาดอย่างละเอียดเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
- แพทย์จะทายาชาเฉพาะที่ในบริเวณที่จะฉีด เพื่อให้ผู้รับการรักษารู้สึกสบายที่สุดระหว่างการฉีด
- แพทย์จะใช้เข็มที่เล็กในการฉีดเข้าสู่ผิวตามจุดที่กำหนด โดยอาจใช้เทคนิคต่าง ๆ ตามความต้องการ เช่น การฉีดแบบตื้นหรือลึก
- หลังจากฉีดเสร็จ แพทย์จะตรวจสอบผลลัพธ์และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลผิวหลังการรักษา
- แพทย์อาจนัดตรวจติดตามผลในระยะเวลาหลังจากการรักษาเพื่อตรวจสอบความพึงพอใจและผลลัพธ์
*โดยทั่วไปจะใช้เวลาในการฉีดประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ที่ต้องการรักษาและปริมาณที่ใช้*
การดูแลตัวเองหลังจากฉีดไหมน้ำ
การดูแลตัวเองหลังจากฉีดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง และนี่คือข้อแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการรักษาอย่่างถูกต้อง
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางใน 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด เพื่อป้องกันการระคายเคืองและติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส บีบ หรือถูบริเวณที่ฉีดในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพื่อไม่ให้เกิดการเคลื่อนตัวของไหมน้ำ
- ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การอบซาวน่า หรือการสัมผัสกับน้ำร้อนในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
- ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงในช่วงแรก และใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง
- สามารถใช้มอยส์เจอไรเซอร์หรือครีมบำรุงผิวที่เหมาะสมกับผิวเพื่อรักษาความชุ่มชื้น
- หากมีอาการบวม แดง หรือเจ็บที่ไม่หายไป หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรติดต่อแพทย์ทันที
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
ฉีดไหมน้ำต่างจากการร้อยไหมชนิดเส้นอย่างไร ?
การฉีดไหมน้ำและการร้อยไหมชนิดเส้น (Thread Lift) เป็นเทคนิคที่ใช้ในการยกกระชับผิวหน้าแต่มีความแตกต่างกันในหลายด้าน และทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อด้อยที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยมีความแตกต่างกันดังนี้
ไหมน้ำ : ใช้สารเติมเต็มที่มีลักษณะเป็นของเหลวฉีดเข้าผิวหนัง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและกระชับผิว แต่ไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้เหมือนไหมชนิดเส้น จะทำงานโดยการเพิ่มปริมาณน้ำและความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ผิวดูเต่งตึงและกระชับ แต่ไม่มีการยกผิวในลักษณะเด่นชัด ผลลัพธ์จะเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นและให้ผิวดูเต่งตึงขึ้น ผลลัพธ์มักอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ฟื้นตัวได้เร็วมาก โดยทั่วไปไม่ต้องมีเวลาพักฟื้นนาน
ร้อยไหม : ใช้เข็มร้อยไหมซึ่งมีการดึงไหมเข้าผิวในแนวที่ต้องการยกกระชับ ใช้ไหมที่มีลักษณะเป็นเส้น ที่สามารถมองเห็นได้ และมีการยึดติดกับเนื้อเยื่อเพื่อยกกระชับผิว จะช่วยยกกระชับผิวได้โดยตรง ทำให้เกิดการยกขึ้นของผิวในบริเวณที่ต้องการ ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดในทันทีหลังการทำ และอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมและการดูแลผิวหลังการรักษา อาจมีการบวมและความรู้สึกไม่สบายในช่วงแรก และอาจต้องใช้เวลาฟื้นตัวประมาณ 1-2 สัปดาห์
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : ร้อยไหม
สรุป
ไหมน้ำ เป็นนวัตกรรมที่ต้องยอมรับเลยว่าเป็นที่นิยมมากจริง ๆ เพราะในปัจจุบันคนต่างหันมาให้ความสนใจกันมากกว่าการร้อยไหม ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มใบหน้าให้ดูอิ่มน้ำและเรียบเนียนขึ้น โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ทำให้เป็นต้องการอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและไม่ซับซ้อน