สงกรานต์ปีนี้เล่นน้ำสนุก แต่หลังจากนั้นผิวหน้ากลับพังและสิวผดบุกเต็มไปหมด! มันเกิดจากการสัมผัสกับแป้ง ฝุ่น น้ำไม่สะอาด หรือครีมกันแดดที่ทำให้ผิวระคายเคือง รวมถึงความร้อนและเหงื่อที่สะสมจากการเล่นน้ำ การดูแลผิวหลังสงกรานต์จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อฟื้นฟูผิวหน้าและป้องกันไม่ให้สิวผดเกิดขึ้นซ้ำ หากคุณกำลังประสบปัญหานี้อยู่ บทความนี้จะช่วยให้คุณรู้วิธีดูแลผิวอย่างถูกต้อง พร้อมเคล็ดลับดี ๆ ที่จะทำให้ผิวกลับมาใสเนียนอีกครั้ง เพื่อให้ผิวสวย เนียนใส ไม่เสียความมั่นใจหลังสงกรานต์!
หน้าพัง สิวผดบุก เป็นอย่างไร ?
หน้าพัง สิวผดบุก หลังเล่นน้ำสงกรานต์ เป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นหลังจากการเล่นน้ำสงกรานต์ ซึ่งมักมีการสัมผัสกับน้ำและสารเคมีต่าง ๆ เช่น แป้ง ฝุ่น น้ำไม่สะอาด หรือครีมกันแดดที่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและอุดตันรูขุมขน นอกจากนี้ยังมีการสะสมของเหงื่อจากความร้อนในช่วงสงกรานต์ที่อาจทำให้เกิดสิวขึ้นตามผิวหน้า ลักษณะของสิวผดคือการเกิดตุ่มเล็ก ๆ หรือผื่นแดงที่มักทำให้ผิวไม่เรียบเนียนและอาจเกิดอาการคันหรือแสบได้ ซึ่งหากไม่ดูแลอย่างถูกวิธี อาจทำให้สภาพผิวแย่ลงและมีผลกระทบในระยะยาว
สิวผด คืออะไร ?
สิวผด คือ สิวชนิดหนึ่งที่เกิดจากการระคายเคืองของผิวหนัง โดยเฉพาะเมื่อผิวสัมผัสกับความร้อน แสงแดด หรือมีเหงื่อออกมาก ทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นมา สิวผดมักไม่ใช่สิวที่เกิดจากแบคทีเรียโดยตรงเหมือนสิวอักเสบ แต่จะเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมและการดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม
ลักษณะของสิวผดจะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีแดงหรือขาว ไม่มีหัวสิวชัดเจน มักขึ้นรวมกันเป็นกลุ่มคล้ายผื่นผด โดยเฉพาะในคนที่มีผิวมันหรือแพ้ง่าย และอาจไม่ทำให้รู้สึกเจ็บหรืออักเสบรุนแรง แต่สามารถทำให้ผิวดูไม่เรียบและมีความระคายเคืองได้ การดูแลที่เหมาะสมคือ เพื่อช่วยลดการเกิดสิวได้ในระยะยาว
สิวผด เกิดจากอะไร ?
สิวผด เกิดจากหลายปัจจัยที่กระตุ้นให้ผิวเกิดการระคายเคืองและรูขุมขนอุดตัน โดยสาเหตุหลัก ๆ ได้แก่
- ความร้อนและเหงื่อ เมื่อผิวเผชิญกับอากาศร้อนหรือมีเหงื่อออกมาก จะทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวได้ง่าย โดยเฉพาะในผู้ที่ล้างหน้าไม่สะอาดหลังเหงื่อออก
- การแพ้หรือระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ เช่น เครื่องสำอาง ครีมกันแดด แชมพู หรือสกินแคร์ที่มีสารก่อการอุดตันหรือระคายเคืองผิว
- ฝุ่นละอองและมลภาวะ สิ่งสกปรกในอากาศสามารถเกาะบนผิวและอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดสิว
- ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงก่อนมีประจำเดือน หรือความเครียดที่ส่งผลต่อสมดุลผิว อาจทำให้เกิด สิวฮอร์โมนได้
- การใช้หน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดความอับชื้นและระคายเคืองบริเวณผิวหน้า
ประเภทของสิวผด
โดยทั่วไป “สิวผด” ไม่ได้แบ่งประเภทอย่างเป็นทางการเหมือนสิวอุดตันหรือสิวอักเสบ แต่สามารถแยกลักษณะของสิวได้ตามลักษณะการเกิดและลักษณะผิวที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยให้เข้าใจและดูแลรักษาได้ตรงจุดมากขึ้น โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ลักษณะหลัก ๆ ดังนี้
- เกิดจากความร้อนหรือแสงแดด (Heat Rash Acne) มักเกิดในช่วงหน้าร้อนหรือหลังเจอแดดจัด ผิวหน้าจะมีตุ่มเล็ก ๆ คล้ายผด ขึ้นกระจายบริเวณหน้าผาก แก้ม หรือข้างจมูก เกิดจากรูขุมขนอุดตันเพราะเหงื่อและความร้อนสะสม
- เกิดจากการแพ้ผลิตภัณฑ์ (Irritant-Induced Acne) เกิดจากการใช้สกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือซิลิโคน ทำให้ผิวอุดตันและเกิดเป็นตุ่มสิวเล็ก ๆ ขึ้นอย่างเฉียบพลัน
- เกิดจากการสะสมของสิ่งสกปรก (Clogged Pore Acne) มักเกิดจากการล้างหน้าไม่สะอาด การล้างหน้าหลังออกกำลังกายไม่ทันที หรือสะสมฝุ่นควันจากสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดการอุดตันและกลายเป็นสิวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สิวผดสามารถพบได้บ่อยในบริเวณไหน ?
สิวผดสามารถพบได้บ่อยในบริเวณที่ผิวหน้ามีต่อมไขมันมาก หรือบริเวณที่เหงื่อออกง่ายและเกิดการอับชื้น โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนหรือชื้น ซึ่งบริเวณที่พบสิวบ่อย ได้แก่
- หน้าผาก เป็นบริเวณที่เหงื่อออกง่าย และมักสัมผัสกับผมและผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม เช่น แชมพูหรือครีมนวด
- แก้ม โดยเฉพาะช่วงโหนกแก้มที่มักสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
- จมูกและข้างจมูก มีต่อมไขมันเยอะ อับชื้นง่าย
- คาง มักเกิดจากการระคายเคืองจากการสัมผัสหรือฮอร์โมน
- กรอบหน้าและไรผม อาจเกิดจากการอุดตันของครีมกันแดดหรือเครื่องสำอาง
- ลำตัวส่วนบน (ในบางกรณี) เช่น หน้าอกหรือหลัง เมื่อเหงื่อออกมากหรือใส่เสื้อผ้าไม่ระบายอากาศ
*หากสังเกตว่าบริเวณไหนมีสิวผดขึ้นบ่อย ควรใส่ใจเรื่องความสะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือระคายเคือง*
หน้าพัง สิวผดบุก ส่งผลกระทบอย่างไร ?
เมื่อหน้าพัง สิวผดบุก สิ่งที่ตามมานั้นไม่ใช่แค่เรื่องของผิวหน้าเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างเห็นได้ชัด ดังนี้
- ความไม่มั่นใจในตัวเอง ผิวหน้าที่เคยเรียบเนียนกลายเป็นผิวที่มีผดและตุ่มเล็ก ๆ เต็มหน้า ทำให้ไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่มั่นใจเวลาสบตาคน หรือไม่กล้าถ่ายรูปแบบใกล้ชิด
- แต่งหน้าไม่ติด ผิวไม่เรียบ เมื่อมีสิว เครื่องสำอางจะเกาะผิวได้ไม่ดี แต่งหน้าแล้วเป็นคราบ ทำให้ดูไม่เนียนและยิ่งเน้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
- เกิดการระคายเคืองและคัน สิวผดมักทำให้รู้สึกคันหรือระคายเคือง เมื่อเกาจนผิวถลอกหรืออักเสบอาจทำให้ลุกลามเป็นสิวอักเสบได้
- เสี่ยงทิ้งรอยหรือผิวไม่เรียบหลังหาย แม้สิวผดจะเล็ก แต่หากมีมากและดูแลไม่ถูกวิธี ก็สามารถทิ้งรอยแดงหรือทำให้ผิวเป็นหลุมเล็ก ๆ ได้
- กระทบต่อบุคลิกภาพและการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ไม่กล้าเข้าสังคม หลีกเลี่ยงการไปงาน หรือรู้สึกเครียดกับภาพลักษณ์ของตัวเอง
วิธีรักษาสิวผด แบบเร่งด่วน
สิวผด รักษายังไง ? การรักษาแบบเร่งด่วน เน้นลดการอักเสบ ระงับการระคายเคือง และคืนความสมดุลให้ผิวโดยเร็วที่สุด โดยควรทำอย่างอ่อนโยนและตรงจุด ซึ่งวิธีเร่งด่วนที่ได้ผลจริงที่ ลีเอนจาง คลินิก มีให้บริการ มีดังนี้
รักษาสิวผด หน้าพัง ด้วยการฉีด Skin Booster
การรักษาสิวผดและหน้าพังด้วยการฉีด Skin Booster เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในอย่างล้ำลึก และเป็นวิธีที่ลีเอนจาง คลินิก มีให้บริการ โดยเฉพาะในกรณีที่ผิวอ่อนแอ แห้ง ขาดความชุ่มชื้น หรือระคายเคืองง่ายจนเกิดสิว การฉีด Skin Booster จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวฟื้นตัวไว ลดโอกาสการเกิดซ้ำ และทำให้ผิวเรียบเนียน สุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ จึงขอยกตัวอย่างโปรดแกรมยอดฮิตจากลีเอนจาง คลินิก มา 3 โปรแกรม ดังนี้
- โปรแกรม K-Star Dewy Rejuvenate serum ลดผด ลดสิวและรอยจากสิว ลดการระคายเคืองผิว
- โปรแกรม Chanels Ellaster Series 2 เสริมความแข็งแรงให้ผิว เกราะปราการผิว เสริมสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมเซลล
- โปรแกรม The Phyto Serum Treatment ฟื้นฟูผิวเสื่อมสภาพ กระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิวใหม
ดูแลผิวอย่างล้ำลึกด้วย Personalised Treatment
คือการดูแลและฟื้นฟูผิวอย่างตรงจุด ด้วยการวิเคราะห์สภาพผิวเฉพาะบุคคลก่อนเริ่มการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยทีมแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจะประเมินสภาพผิวปัจจุบัน ปัญหาผิวที่กำลังเผชิญ เช่น สิว ผดผื่น ความหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง หรือริ้วรอย แล้วเลือกวิธีการรักษา ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีที่เหมาะกับแต่ละบุคคลที่สุด เช่น โปรแกรม Sensitive Skin + Acne Treatment ดูแลผิวลํ ้าลึกด้วย 7 ขั้นตอน ลดปัญหาสิว ลดผิวระคายเคือง เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
รักษาโดยใช้ยาทาเฉพาะที่
เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เนื่องจากช่วยลดอาการระคายเคือง อักเสบ และป้องกันการเกิดสิวซ้ำได้อย่างตรงจุด โดยยาทาเฉพาะที่ที่ใช้รักษาสิวจะเน้นในเรื่องของการลดการอุดตันของรูขุมขนและปลอบประโลมผิว เช่น
- ยาที่มีส่วนผสมของ BHA (Salicylic Acid) ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดการอุดตันของรูขุมขน และป้องกันการเกิดสิวใหม่ เหมาะกับผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย
- ยาที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide (BPO) ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจทำให้เกิดการอักเสบของสิว และช่วยลดความมันบนผิว ควรเริ่มใช้ในความเข้มข้นต่ำก่อน
- ยาทาที่มีสารต้านการอักเสบ เช่น Clindamycin เหมาะสำหรับสิวที่เริ่มมีอาการอักเสบเล็กน้อย ยาช่วยลดอาการบวมแดงและฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวหน้า
- ยาทาสเตียรอยด์อ่อน (เช่น Hydrocortisone) ใช้ในกรณีที่ผิวระคายเคืองมาก คัน หรือแดงจากการแพ้ โดยต้องใช้ในระยะเวลาสั้น ๆ และภายใต้คำแนะนำของแพทย์
วิธีรักษาสิวผด แบบธรรมชาติด้วยตนเอง
การรักษาสิวผดแบบธรรมชาติด้วยตนเอง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายและไม่อยากใช้สารเคมีแรง ๆ ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน และช่วยบรรเทาอาการสิวอย่างอ่อนโยน ดังนี้
- ล้างหน้าด้วยน้ำเกลือแร่หรือน้ำเกลือสำหรับล้างแผล ช่วยลดแบคทีเรียและทำความสะอาดผิวโดยไม่ระคายเคือง ใช้สำลีชุบเช็ดเบา ๆ วันละ 1-2 ครั้ง
- พอกหน้าด้วยเจลว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) มีฤทธิ์ลดการอักเสบ บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ใช้เจลสดจากใบว่าน (ล้างให้สะอาด) หรือเจลว่านแบบไม่มีน้ำหอม ทาทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออก
- ใช้น้ำผึ้งแท้พอกหน้า น้ำผึ้งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ พอกเบา ๆ บริเวณที่มีสิวผด 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
- อบไอน้ำหน้าเบา ๆ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ช่วยเปิดรูขุมขนและขจัดสิ่งสกปรกสะสม ใช้น้ำอุ่น (ไม่ร้อนจัด) และคลุมหัวด้วยผ้าขนหนู สูดไอน้ำประมาณ 5-10 นาที
- ใช้สำลีชุบชาเขียวเย็นแช่เย็นประคบผิว ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดผดและการอักเสบของผิว ทำเป็นโทนเนอร์ธรรมชาติ ช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี
วิธีการป้องกันการเกิดสิวผด
การป้องกันการเกิดสิวผดสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และใส่ใจเรื่องการดูแลผิวอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้รูขุมขนอุดตันหรือเกิดการระคายเคืองต่อผิว โดยวิธีป้องกันที่แนะนำมีดังนี้
- ล้างหน้าให้สะอาดวันละ 2 ครั้ง โดยใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารระคายเคือง หลีกเลี่ยงการล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น มืออาจมีเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่ทำให้ผิวเกิดการอุดตันและกลายเป็นสิวผด
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันผิว (Non-Comedogenic) ทั้งครีมบำรุง ครีมกันแดด และเครื่องสำอาง ควรเลือกสูตรที่ไม่อุดตันรูขุมขน หลีกเลี่ยงเนื้อครีมหนักหรือมันเกินไป
- ล้างเหงื่อและความมันออกจากผิวหน้าโดยเร็ว โดยเฉพาะหลังออกกำลังกายหรืออยู่กลางแดด เพราะเหงื่ออาจสะสมจนเกิดการอุดตันได้
- เลี่ยงแสงแดดจัดและความร้อนสูง ความร้อนกระตุ้นให้เหงื่อออกและทำให้ผิวระคายเคือง ควรสวมหมวกหรือพกร่มเมื่ออยู่กลางแจ้ง
- เปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าเช็ดหน้าเป็นประจำ สิ่งเหล่านี้สะสมแบคทีเรียและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้
- พักผ่อนให้เพียงพอและลดความเครียด ฮอร์โมนจากความเครียดและการนอนดึกมีผลโดยตรงต่อสุขภาพผิว
- ดื่มน้ำมาก ๆ และทานอาหารที่ดีต่อผิว หลีกเลี่ยงอาหารมัน ของทอด และนมวัวในบางคนที่อาจกระตุ้นสิวได้
ระหว่างสิวผด สิวอุดตันแตกต่างกันอย่างไร ?
สิวผด และ สิวอุดตัน เป็นสิวที่เกิดจากสาเหตุคล้ายกัน แต่มีลักษณะและสาเหตุที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถสังเกตและแยกได้ดังนี้
- สิวผด มักเป็นตุ่มเล็ก ๆ คล้ายผื่น หรือผดผื่นที่ขึ้นเป็นกลุ่ม มักไม่ทำให้เกิดการอักเสบหรือเจ็บปวด แต่ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน สีของตุ่มจะเป็นแดงหรือขาว ขึ้นแบบกระจายตามบริเวณผิวหน้า ส่วนใหญ่เกิดจากการระคายเคืองจากเหงื่อ ความร้อน หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน มักเกิดในช่วงที่อากาศร้อนหรือเมื่อมีการอุดตันจากเครื่องสำอางหรือครีมหนัก
- สิวอุดตัน สิวอุดตันจะมีลักษณะเป็นจุดดำ (สิวหัวดำ) หรือเป็นหัวขาว (สิวหัวขาว) เมื่อมองใกล้ ๆ จะเห็นการอุดตันของไขมันและเซลล์ผิวที่ตกค้างในรูขุมขน เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนจากน้ำมันส่วนเกิน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือสิ่งสกปรกที่สะสมในรูขุมขน สิวอุดตันมักเกิดจากการล้างหน้าที่ไม่สะอาดหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้รูขุมขนอุดตัน เช่น เครื่องสำอางที่ไม่ล้างออกให้หมด
สิวผดหายเองได้ไหม ?
สิวผดสามารถหายเองได้ในหลายกรณี โดยเฉพาะเมื่อเกิดจากการระคายเคืองชั่วคราว เช่น การโดนแดดจัด หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจไม่เหมาะกับผิว แต่หากการระคายเคืองหรือสาเหตุยังคงมีอยู่ สิวอาจยังคงเกิดขึ้นซ้ำ ดังนั้น หากไม่มีอาการอักเสบหรือการติดเชื้อ การรักษาที่อ่อนโยน เช่น การใช้เจลว่านหางจระเข้หรือการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคือง สามารถช่วยให้สิวหายได้เองใน 3-5 วัน แต่หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีสิวเพิ่มขึ้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง
สิวผดแบบไหนที่ต้องให้แพทย์รักษา
สิวผดที่ควรให้แพทย์รักษาคือกรณีที่มีอาการรุนแรงหรือเกิดขึ้นซ้ำ ๆ โดยไม่สามารถหายไปด้วยการดูแลที่บ้าน เช่น สิวที่มีการอักเสบและมีตุ่มหนอง หรือมีอาการปวดและคันมากเกินไป ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ หรือเกิดจากปัจจัยที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ การที่สิวไม่หายไปหลังจากการดูแลทั่วไป อาจหมายความว่ามีปัญหาผิวหนังที่ซับซ้อนกว่าปกติ เช่น ผิวแพ้ง่าย หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว
นอกจากนี้ หากสิวผดเกิดในบริเวณที่ไวต่อการระคายเคืองหรือทำให้ผิวหน้ามีรอยแผลเป็น อาจต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันไม่ให้มีผลกระทบในระยะยาว เช่น การเกิดรอยดำ รอยแดง หรือแม้แต่แผลเป็นที่อาจทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน อีกทั้งแพทย์จะสามารถช่วยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือการรักษาอย่างเหมาะสม เช่น การใช้ยาต้านการอักเสบ หรือการใช้เลเซอร์บำบัดในกรณีที่จำเป็น
หน้าพัง สิวผดบุก ลีเอนจาง คลินิก ช่วยได้ ?
การมารักษาสิวผดที่ ลีเอนจาง คลินิก (Lienjang Clinic Thailand) เป็นทางเลือกที่ดีเนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ที่สามารถให้การวิเคราะห์สภาพผิวได้อย่างแม่นยำ โดยการรักษาจะถูกปรับให้เหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งในกรณีของสิวผดสิวผด หน้าพัง ทีมแพทย์จะพิจารณาทุกปัจจัยที่อาจกระตุ้นการเกิดสิว เช่น ความร้อน ความมันบนผิว หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ แล้วเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม
นอกจากนี้การรักษาด้วยเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ลีเอนจางใช้ จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าผิวจะกลับมาสดใสและไม่เกิดการระคายเคืองเพิ่มเติม การรักษาจึงปลอดภัยและเห็นผลจริงในระยะยาว หากคุณสนใจโปรแกรมดูแลผิวที่ ลีเอนจาง คลินิก สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand
สรุป
หลังจากการเล่นน้ำสงกรานต์ มักมีการสัมผัสกับน้ำที่ไม่สะอาด แสงแดด สารเคมีในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ หรือการเปียกน้ำตลอดทั้งวัน อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองจนเกิดสิวผดได้ง่าย เนื่องจากความร้อนและเหงื่อที่สะสม ซึ่งส่งผลให้รูขุมขนอุดตันและเกิดการอักเสบบนผิวหน้า ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนและอาจเกิดอาการคันหรือแสบได้ การดูแลผิวหลังสงกรานต์จึงสำคัญ เพื่อฟื้นฟูและลดการเกิดสิว และการทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยนหลังออกแดด