บทความ

Article

หน้าพัง สิวผดบุก หลังเล่นน้ำสงกรานต์ ทำอย่างไรดี ?
Facebook
X
Email

หน้าพัง สิวผดบุก หลังเล่นน้ำสงกรานต์ ทำอย่างไรดี ?

หัวข้อที่น่าสนใจ

สงกรานต์ปีนี้เล่นน้ำสนุก แต่หลังจากนั้นผิวหน้ากลับพังและสิวผดบุกเต็มไปหมด! มันเกิดจากการสัมผัสกับแป้ง ฝุ่น น้ำไม่สะอาด หรือครีมกันแดดที่ทำให้ผิวระคายเคือง รวมถึงความร้อนและเหงื่อที่สะสมจากการเล่นน้ำ การดูแลผิวหลังสงกรานต์จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อฟื้นฟูผิวหน้าและป้องกันไม่ให้สิวผดเกิดขึ้นซ้ำ หากคุณกำลังประสบปัญหานี้อยู่ บทความนี้จะช่วยให้คุณรู้วิธีดูแลผิวอย่างถูกต้อง พร้อมเคล็ดลับดี ๆ ที่จะทำให้ผิวกลับมาใสเนียนอีกครั้ง เพื่อให้ผิวสวย เนียนใส ไม่เสียความมั่นใจหลังสงกรานต์!

หน้าพัง สิวผดบุก เป็นอย่างไร ?

หน้าพัง สิวผดบุก หลังเล่นน้ำสงกรานต์ เป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นหลังจากการเล่นน้ำสงกรานต์ ซึ่งมักมีการสัมผัสกับน้ำและสารเคมีต่าง ๆ เช่น แป้ง ฝุ่น น้ำไม่สะอาด หรือครีมกันแดดที่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและอุดตันรูขุมขน นอกจากนี้ยังมีการสะสมของเหงื่อจากความร้อนในช่วงสงกรานต์ที่อาจทำให้เกิดสิวขึ้นตามผิวหน้า ลักษณะของสิวผดคือการเกิดตุ่มเล็ก ๆ หรือผื่นแดงที่มักทำให้ผิวไม่เรียบเนียนและอาจเกิดอาการคันหรือแสบได้ ซึ่งหากไม่ดูแลอย่างถูกวิธี อาจทำให้สภาพผิวแย่ลงและมีผลกระทบในระยะยาว

สิวผด คืออะไร ?

สิวผด คืออะไร ?

สิวผด คือ สิวชนิดหนึ่งที่เกิดจากการระคายเคืองของผิวหนัง โดยเฉพาะเมื่อผิวสัมผัสกับความร้อน แสงแดด หรือมีเหงื่อออกมาก ทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นมา สิวผดมักไม่ใช่สิวที่เกิดจากแบคทีเรียโดยตรงเหมือนสิวอักเสบ แต่จะเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมและการดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม

ลักษณะของสิวผดจะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีแดงหรือขาว ไม่มีหัวสิวชัดเจน มักขึ้นรวมกันเป็นกลุ่มคล้ายผื่นผด โดยเฉพาะในคนที่มีผิวมันหรือแพ้ง่าย และอาจไม่ทำให้รู้สึกเจ็บหรืออักเสบรุนแรง แต่สามารถทำให้ผิวดูไม่เรียบและมีความระคายเคืองได้ การดูแลที่เหมาะสมคือ เพื่อช่วยลดการเกิดสิวได้ในระยะยาว

สิวผด เกิดจากอะไร ?

สิวผด เกิดจากหลายปัจจัยที่กระตุ้นให้ผิวเกิดการระคายเคืองและรูขุมขนอุดตัน โดยสาเหตุหลัก ๆ ได้แก่

  1. ความร้อนและเหงื่อ เมื่อผิวเผชิญกับอากาศร้อนหรือมีเหงื่อออกมาก จะทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวได้ง่าย โดยเฉพาะในผู้ที่ล้างหน้าไม่สะอาดหลังเหงื่อออก
  2. การแพ้หรือระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ เช่น เครื่องสำอาง ครีมกันแดด แชมพู หรือสกินแคร์ที่มีสารก่อการอุดตันหรือระคายเคืองผิว
  3. ฝุ่นละอองและมลภาวะ สิ่งสกปรกในอากาศสามารถเกาะบนผิวและอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดสิว
  4. ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงก่อนมีประจำเดือน หรือความเครียดที่ส่งผลต่อสมดุลผิว อาจทำให้เกิด สิวฮอร์โมนได้
  5. การใช้หน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดความอับชื้นและระคายเคืองบริเวณผิวหน้า

ประเภทของสิวผด

โดยทั่วไป “สิวผด” ไม่ได้แบ่งประเภทอย่างเป็นทางการเหมือนสิวอุดตันหรือสิวอักเสบ แต่สามารถแยกลักษณะของสิวได้ตามลักษณะการเกิดและลักษณะผิวที่แตกต่างกัน ซึ่งช่วยให้เข้าใจและดูแลรักษาได้ตรงจุดมากขึ้น โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ลักษณะหลัก ๆ ดังนี้

  1. เกิดจากความร้อนหรือแสงแดด (Heat Rash Acne) มักเกิดในช่วงหน้าร้อนหรือหลังเจอแดดจัด ผิวหน้าจะมีตุ่มเล็ก ๆ คล้ายผด ขึ้นกระจายบริเวณหน้าผาก แก้ม หรือข้างจมูก เกิดจากรูขุมขนอุดตันเพราะเหงื่อและความร้อนสะสม
  2. เกิดจากการแพ้ผลิตภัณฑ์ (Irritant-Induced Acne) เกิดจากการใช้สกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือซิลิโคน ทำให้ผิวอุดตันและเกิดเป็นตุ่มสิวเล็ก ๆ ขึ้นอย่างเฉียบพลัน
  3. เกิดจากการสะสมของสิ่งสกปรก (Clogged Pore Acne) มักเกิดจากการล้างหน้าไม่สะอาด การล้างหน้าหลังออกกำลังกายไม่ทันที หรือสะสมฝุ่นควันจากสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดการอุดตันและกลายเป็นสิวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สิวผดสามารถพบได้บ่อยในบริเวณไหน ?

สิวผดสามารถพบได้บ่อยในบริเวณไหน ?

สิวผดสามารถพบได้บ่อยในบริเวณที่ผิวหน้ามีต่อมไขมันมาก หรือบริเวณที่เหงื่อออกง่ายและเกิดการอับชื้น โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนหรือชื้น ซึ่งบริเวณที่พบสิวบ่อย ได้แก่

  1. หน้าผาก เป็นบริเวณที่เหงื่อออกง่าย และมักสัมผัสกับผมและผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม เช่น แชมพูหรือครีมนวด
  2. แก้ม โดยเฉพาะช่วงโหนกแก้มที่มักสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
  3. จมูกและข้างจมูก มีต่อมไขมันเยอะ อับชื้นง่าย
  4. คาง  มักเกิดจากการระคายเคืองจากการสัมผัสหรือฮอร์โมน
  5. กรอบหน้าและไรผม อาจเกิดจากการอุดตันของครีมกันแดดหรือเครื่องสำอาง
  6. ลำตัวส่วนบน (ในบางกรณี) เช่น หน้าอกหรือหลัง เมื่อเหงื่อออกมากหรือใส่เสื้อผ้าไม่ระบายอากาศ

*หากสังเกตว่าบริเวณไหนมีสิวผดขึ้นบ่อย ควรใส่ใจเรื่องความสะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือระคายเคือง*

หน้าพัง สิวผดบุก ส่งผลกระทบอย่างไร ?

เมื่อหน้าพัง สิวผดบุก สิ่งที่ตามมานั้นไม่ใช่แค่เรื่องของผิวหน้าเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างเห็นได้ชัด ดังนี้

  • ความไม่มั่นใจในตัวเอง ผิวหน้าที่เคยเรียบเนียนกลายเป็นผิวที่มีผดและตุ่มเล็ก ๆ เต็มหน้า ทำให้ไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่มั่นใจเวลาสบตาคน หรือไม่กล้าถ่ายรูปแบบใกล้ชิด
  • แต่งหน้าไม่ติด ผิวไม่เรียบ เมื่อมีสิว เครื่องสำอางจะเกาะผิวได้ไม่ดี แต่งหน้าแล้วเป็นคราบ ทำให้ดูไม่เนียนและยิ่งเน้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
  • เกิดการระคายเคืองและคัน สิวผดมักทำให้รู้สึกคันหรือระคายเคือง เมื่อเกาจนผิวถลอกหรืออักเสบอาจทำให้ลุกลามเป็นสิวอักเสบได้
  • เสี่ยงทิ้งรอยหรือผิวไม่เรียบหลังหาย แม้สิวผดจะเล็ก แต่หากมีมากและดูแลไม่ถูกวิธี ก็สามารถทิ้งรอยแดงหรือทำให้ผิวเป็นหลุมเล็ก ๆ ได้
  • กระทบต่อบุคลิกภาพและการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ไม่กล้าเข้าสังคม หลีกเลี่ยงการไปงาน หรือรู้สึกเครียดกับภาพลักษณ์ของตัวเอง

วิธีรักษาสิวผด แบบเร่งด่วน

วิธีรักษาสิวผด แบบเร่งด่วน

สิวผด รักษายังไง ? การรักษาแบบเร่งด่วน เน้นลดการอักเสบ ระงับการระคายเคือง และคืนความสมดุลให้ผิวโดยเร็วที่สุด โดยควรทำอย่างอ่อนโยนและตรงจุด ซึ่งวิธีเร่งด่วนที่ได้ผลจริงที่ ลีเอนจาง คลินิก มีให้บริการ มีดังนี้

รักษาสิวผด หน้าพัง ด้วยการฉีด Skin Booster

การรักษาสิวผดและหน้าพังด้วยการฉีด Skin Booster เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในอย่างล้ำลึก และเป็นวิธีที่ลีเอนจาง คลินิก มีให้บริการ โดยเฉพาะในกรณีที่ผิวอ่อนแอ แห้ง ขาดความชุ่มชื้น หรือระคายเคืองง่ายจนเกิดสิว การฉีด Skin Booster จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวฟื้นตัวไว ลดโอกาสการเกิดซ้ำ และทำให้ผิวเรียบเนียน สุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ จึงขอยกตัวอย่างโปรดแกรมยอดฮิตจากลีเอนจาง คลินิก มา 3 โปรแกรม ดังนี้

  • โปรแกรม K-Star Dewy Rejuvenate serum ลดผด ลดสิวและรอยจากสิว ลดการระคายเคืองผิว
  • โปรแกรม Chanels Ellaster Series 2 เสริมความแข็งแรงให้ผิว เกราะปราการผิว เสริมสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมเซลล
  • โปรแกรม The Phyto Serum Treatment ฟื้นฟูผิวเสื่อมสภาพ กระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิวใหม

ดูแลผิวอย่างล้ำลึกด้วย Personalised Treatment

คือการดูแลและฟื้นฟูผิวอย่างตรงจุด ด้วยการวิเคราะห์สภาพผิวเฉพาะบุคคลก่อนเริ่มการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยทีมแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจะประเมินสภาพผิวปัจจุบัน ปัญหาผิวที่กำลังเผชิญ เช่น สิว ผดผื่น ความหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง หรือริ้วรอย แล้วเลือกวิธีการรักษา ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีที่เหมาะกับแต่ละบุคคลที่สุด เช่น โปรแกรม Sensitive Skin + Acne Treatment ดูแลผิวลํ ้าลึกด้วย 7 ขั้นตอน ลดปัญหาสิว ลดผิวระคายเคือง เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

รักษาโดยใช้ยาทาเฉพาะที่ 

เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เนื่องจากช่วยลดอาการระคายเคือง อักเสบ และป้องกันการเกิดสิวซ้ำได้อย่างตรงจุด โดยยาทาเฉพาะที่ที่ใช้รักษาสิวจะเน้นในเรื่องของการลดการอุดตันของรูขุมขนและปลอบประโลมผิว เช่น

  • ยาที่มีส่วนผสมของ BHA (Salicylic Acid) ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดการอุดตันของรูขุมขน และป้องกันการเกิดสิวใหม่ เหมาะกับผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย
  • ยาที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide (BPO) ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจทำให้เกิดการอักเสบของสิว และช่วยลดความมันบนผิว ควรเริ่มใช้ในความเข้มข้นต่ำก่อน
  • ยาทาที่มีสารต้านการอักเสบ เช่น Clindamycin เหมาะสำหรับสิวที่เริ่มมีอาการอักเสบเล็กน้อย ยาช่วยลดอาการบวมแดงและฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวหน้า
  • ยาทาสเตียรอยด์อ่อน (เช่น Hydrocortisone) ใช้ในกรณีที่ผิวระคายเคืองมาก คัน หรือแดงจากการแพ้ โดยต้องใช้ในระยะเวลาสั้น ๆ และภายใต้คำแนะนำของแพทย์

วิธีรักษาสิวผด แบบธรรมชาติด้วยตนเอง

การรักษาสิวผดแบบธรรมชาติด้วยตนเอง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายและไม่อยากใช้สารเคมีแรง ๆ ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน และช่วยบรรเทาอาการสิวอย่างอ่อนโยน ดังนี้

  1. ล้างหน้าด้วยน้ำเกลือแร่หรือน้ำเกลือสำหรับล้างแผล ช่วยลดแบคทีเรียและทำความสะอาดผิวโดยไม่ระคายเคือง ใช้สำลีชุบเช็ดเบา ๆ วันละ 1-2 ครั้ง
  2. พอกหน้าด้วยเจลว่านหางจระเข้ (Aloe Vera)  มีฤทธิ์ลดการอักเสบ บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น  ใช้เจลสดจากใบว่าน (ล้างให้สะอาด) หรือเจลว่านแบบไม่มีน้ำหอม ทาทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออก
  3. ใช้น้ำผึ้งแท้พอกหน้า น้ำผึ้งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ  พอกเบา ๆ บริเวณที่มีสิวผด 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
  4. อบไอน้ำหน้าเบา ๆ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ช่วยเปิดรูขุมขนและขจัดสิ่งสกปรกสะสม ใช้น้ำอุ่น (ไม่ร้อนจัด) และคลุมหัวด้วยผ้าขนหนู สูดไอน้ำประมาณ 5-10 นาที
  5. ใช้สำลีชุบชาเขียวเย็นแช่เย็นประคบผิว ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดผดและการอักเสบของผิว ทำเป็นโทนเนอร์ธรรมชาติ ช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี

วิธีการป้องกันการเกิดสิวผด

วิธีการป้องกันการเกิดสิวผด

การป้องกันการเกิดสิวผดสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และใส่ใจเรื่องการดูแลผิวอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้รูขุมขนอุดตันหรือเกิดการระคายเคืองต่อผิว โดยวิธีป้องกันที่แนะนำมีดังนี้

  1. ล้างหน้าให้สะอาดวันละ 2 ครั้ง โดยใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารระคายเคือง หลีกเลี่ยงการล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองมากขึ้น
  2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น มืออาจมีเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่ทำให้ผิวเกิดการอุดตันและกลายเป็นสิวผด
  3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันผิว (Non-Comedogenic) ทั้งครีมบำรุง ครีมกันแดด และเครื่องสำอาง ควรเลือกสูตรที่ไม่อุดตันรูขุมขน หลีกเลี่ยงเนื้อครีมหนักหรือมันเกินไป
  4. ล้างเหงื่อและความมันออกจากผิวหน้าโดยเร็ว โดยเฉพาะหลังออกกำลังกายหรืออยู่กลางแดด เพราะเหงื่ออาจสะสมจนเกิดการอุดตันได้
  5. เลี่ยงแสงแดดจัดและความร้อนสูง ความร้อนกระตุ้นให้เหงื่อออกและทำให้ผิวระคายเคือง ควรสวมหมวกหรือพกร่มเมื่ออยู่กลางแจ้ง
  6. เปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าเช็ดหน้าเป็นประจำ สิ่งเหล่านี้สะสมแบคทีเรียและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้
  7. พักผ่อนให้เพียงพอและลดความเครียด ฮอร์โมนจากความเครียดและการนอนดึกมีผลโดยตรงต่อสุขภาพผิว
  8. ดื่มน้ำมาก ๆ และทานอาหารที่ดีต่อผิว หลีกเลี่ยงอาหารมัน ของทอด และนมวัวในบางคนที่อาจกระตุ้นสิวได้

ระหว่างสิวผด สิวอุดตันแตกต่างกันอย่างไร ?

สิวผด และ สิวอุดตัน เป็นสิวที่เกิดจากสาเหตุคล้ายกัน แต่มีลักษณะและสาเหตุที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถสังเกตและแยกได้ดังนี้

  • สิวผด มักเป็นตุ่มเล็ก ๆ คล้ายผื่น หรือผดผื่นที่ขึ้นเป็นกลุ่ม มักไม่ทำให้เกิดการอักเสบหรือเจ็บปวด แต่ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน สีของตุ่มจะเป็นแดงหรือขาว ขึ้นแบบกระจายตามบริเวณผิวหน้า ส่วนใหญ่เกิดจากการระคายเคืองจากเหงื่อ ความร้อน หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน มักเกิดในช่วงที่อากาศร้อนหรือเมื่อมีการอุดตันจากเครื่องสำอางหรือครีมหนัก
  • สิวอุดตัน สิวอุดตันจะมีลักษณะเป็นจุดดำ (สิวหัวดำ) หรือเป็นหัวขาว (สิวหัวขาว) เมื่อมองใกล้ ๆ จะเห็นการอุดตันของไขมันและเซลล์ผิวที่ตกค้างในรูขุมขน เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนจากน้ำมันส่วนเกิน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือสิ่งสกปรกที่สะสมในรูขุมขน สิวอุดตันมักเกิดจากการล้างหน้าที่ไม่สะอาดหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้รูขุมขนอุดตัน เช่น เครื่องสำอางที่ไม่ล้างออกให้หมด

สิวผดหายเองได้ไหม ?

สิวผดหายเองได้ไหม ?

สิวผดสามารถหายเองได้ในหลายกรณี โดยเฉพาะเมื่อเกิดจากการระคายเคืองชั่วคราว เช่น การโดนแดดจัด หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจไม่เหมาะกับผิว แต่หากการระคายเคืองหรือสาเหตุยังคงมีอยู่ สิวอาจยังคงเกิดขึ้นซ้ำ ดังนั้น หากไม่มีอาการอักเสบหรือการติดเชื้อ การรักษาที่อ่อนโยน เช่น การใช้เจลว่านหางจระเข้หรือการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคือง สามารถช่วยให้สิวหายได้เองใน 3-5 วัน แต่หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีสิวเพิ่มขึ้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง

สิวผดแบบไหนที่ต้องให้แพทย์รักษา

สิวผดที่ควรให้แพทย์รักษาคือกรณีที่มีอาการรุนแรงหรือเกิดขึ้นซ้ำ ๆ โดยไม่สามารถหายไปด้วยการดูแลที่บ้าน เช่น สิวที่มีการอักเสบและมีตุ่มหนอง หรือมีอาการปวดและคันมากเกินไป ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ หรือเกิดจากปัจจัยที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ การที่สิวไม่หายไปหลังจากการดูแลทั่วไป อาจหมายความว่ามีปัญหาผิวหนังที่ซับซ้อนกว่าปกติ เช่น ผิวแพ้ง่าย หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว

นอกจากนี้ หากสิวผดเกิดในบริเวณที่ไวต่อการระคายเคืองหรือทำให้ผิวหน้ามีรอยแผลเป็น อาจต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันไม่ให้มีผลกระทบในระยะยาว เช่น การเกิดรอยดำ รอยแดง หรือแม้แต่แผลเป็นที่อาจทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน อีกทั้งแพทย์จะสามารถช่วยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือการรักษาอย่างเหมาะสม เช่น การใช้ยาต้านการอักเสบ หรือการใช้เลเซอร์บำบัดในกรณีที่จำเป็น

หน้าพัง สิวผดบุก ลีเอนจาง คลินิก ช่วยได้ ?

การมารักษาสิวผดที่ ลีเอนจาง คลินิก  (Lienjang Clinic Thailand) เป็นทางเลือกที่ดีเนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ที่สามารถให้การวิเคราะห์สภาพผิวได้อย่างแม่นยำ โดยการรักษาจะถูกปรับให้เหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งในกรณีของสิวผดสิวผด หน้าพัง ทีมแพทย์จะพิจารณาทุกปัจจัยที่อาจกระตุ้นการเกิดสิว เช่น ความร้อน ความมันบนผิว หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ แล้วเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม 

นอกจากนี้การรักษาด้วยเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ลีเอนจางใช้ จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าผิวจะกลับมาสดใสและไม่เกิดการระคายเคืองเพิ่มเติม การรักษาจึงปลอดภัยและเห็นผลจริงในระยะยาว หากคุณสนใจโปรแกรมดูแลผิวที่ ลีเอนจาง คลินิก สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand

สรุป

หลังจากการเล่นน้ำสงกรานต์ มักมีการสัมผัสกับน้ำที่ไม่สะอาด แสงแดด สารเคมีในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ หรือการเปียกน้ำตลอดทั้งวัน อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองจนเกิดสิวผดได้ง่าย เนื่องจากความร้อนและเหงื่อที่สะสม ซึ่งส่งผลให้รูขุมขนอุดตันและเกิดการอักเสบบนผิวหน้า ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนและอาจเกิดอาการคันหรือแสบได้ การดูแลผิวหลังสงกรานต์จึงสำคัญ เพื่อฟื้นฟูและลดการเกิดสิว และการทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยนหลังออกแดด

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี