บทความ

Article

3 จุดที่ทำให้หน้าแก่ ก่อนวัย พร้อมบอกวิธีแก้ไขที่เห็นผลไว
Facebook
X
Email

3 จุดที่ทำให้หน้าแก่ ก่อนวัย พร้อมบอกวิธีแก้ไขที่เห็นผลไว

หัวข้อที่น่าสนใจ

คุณรู้หรือไม่ว่าหน้าแก่ ก่อนวัยสามารถเกิดขึ้นได้จาก “แค่ 3 จุดสำคัญ” หลายคนอาจคิดว่าเป็นเพราะอายุเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้ว ร่องลึกและเป็นตัวการหลักที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อยล้า และดูแก่กว่าวัยแบบไม่รู้ตัว 

หากคุณกำลังกังวลกับปัญหาเหล่านี้ อย่าเพิ่งเครียด เพราะเรามีวิธีแก้ไขที่เห็นผลไว ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติมาแชร์ให้คุณแล้ว! อ่านบทความนี้เพื่อรู้ทันต้นตอของความแก่ พร้อมแนะนำวิธีดูแลและฟื้นฟูใบหน้าให้กลับมาดูสดใส อ่อนเยาว์ รับรองว่าคุณจะได้เคล็ดลับดี ๆ ที่ช่วยย้อนวัยให้ใบหน้ากลับมาเปล่งปลั่งมีชีวิตชีวาอีกครั้ง 

ปัญหาหน้าแก่ ก่อนวัยเป็นอย่างไร ?

ปัญหาหน้าแก่ ก่อนวัยเป็นอย่างไร ?

ปัญหาหน้าแก่ ก่อนวัย คือ ภาวะที่ใบหน้าดูมีอายุมากกว่าวัยจริง มักเกิดจากทั้งปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรม อายุที่เพิ่มขึ้น และปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด มลภาวะ ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมอย่างการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือไม่ดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เสียสมดุล และสูญเสียความกระชับและความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ

ลักษณะของใบหน้าที่ดูแก่ก่อนวัยสามารถสังเกตได้จากหลายจุด เช่น การมีริ้วรอยหรือร่องลึกที่เห็นได้ชัด ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ รูขุมขนกว้าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ มีจุดด่างดำหรือฝ้า กระ ใต้ตาคล้ำและมีถุงใต้ตา รวมถึงลักษณะของใบหน้าที่ดูโทรม ขาดความสดใส เมื่อรวมกันหลายปัจจัยจะทำให้ภาพรวมของใบหน้าแลดูเหนื่อยล้า ไม่สดชื่น และดูมีอายุมากกว่าความเป็นจริง

ปัจจัยที่ทำให้หน้าแก่ ก่อนวัยมีอะไรบ้าง ?

หน้าแก่ก่อนวัยเกิดจากอะไร ? มีทั้งจากภายในร่างกายและจากสิ่งแวดล้อมภายนอก โดยปัจจัยภายใน เช่น อายุที่เพิ่มขึ้นซึ่งทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินลดลง ส่งผลให้ผิวเริ่มหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยได้ง่าย รวมถึงฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง ความเครียด การนอนหลับไม่เพียงพอ และพันธุกรรม ล้วนมีผลต่อสุขภาพผิวและกระบวนการเสื่อมของผิวหนัง เมื่อร่างกายฟื้นฟูเซลล์ผิวได้น้อยลง ผิวจึงขาดความยืดหยุ่นและความสดใส

ขณะเดียวกัน ปัจจัยภายนอกก็มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ผิวหน้าแก่เร็ว เช่น การเผชิญแสงแดดโดยไม่ป้องกัน รังสี UV จะทำลายคอลลาเจนใต้ผิวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดฝ้า จุดด่างดำ และริ้วรอย การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง รวมถึงการไม่ดูแลผิวอย่างเหมาะสม เช่น ไม่ทาครีมกันแดด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงเกินไป ล้วนเป็นตัวกระตุ้นให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้นและทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัยได้ง่ายขึ้น

เกิดอะไรขึ้นกับใบหน้าเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ?

เกิดอะไรขึ้นกับใบหน้าเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ?

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น กระบวนการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกายจะส่งผลโดยตรงต่อใบหน้า ซึ่งเป็นส่วนที่เห็นได้ชัดที่สุด การผลิต คอลลาเจนและอิลาสติน ใต้ผิวลดลง ทำให้ผิวเริ่ม ขาดความยืดหยุ่น หย่อนคล้อย และเกิด ริ้วรอยร่องลึก ตามบริเวณที่มีการแสดงสีหน้า เช่น หางตา หน้าผาก และร่องแก้ม นอกจากนี้ การผลัดเซลล์ผิว จะช้าลง ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ไม่สดใส และเกิด จุดด่างดำหรือฝ้า ได้ง่ายขึ้น

ไขมันบนใบหน้าที่เคยช่วยพยุงโครงสร้างผิวจะเริ่มลดลงหรือเคลื่อนตัว ทำให้ใบหน้าดู ตอบ แบน หรือไม่กระชับ เช่น โหนกแก้มแบน กรอบหน้าไม่ชัด มีเหนียงหรือคางสองชั้น รวมถึง กระดูกใบหน้า เช่น กรามหรือเบ้าตา เริ่มบางลงหรือเปลี่ยนรูปร่าง ซึ่งเป็นเหตุให้รูปหน้าดูเปลี่ยนไป นอกจากนี้ เส้นเลือดฝอยก็จะเปราะบางขึ้น ทำให้ใต้ตาคล้ำหรือเกิดรอยแดงได้ง่าย ทั้งหมดนี้คือการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ใบหน้าดูแก่ลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น

หน้าแก่ ก่อนวัยส่งผลกระทบอย่างไร ?

หน้าแก่ก่อนวัยส่งผลกระทบได้ทั้งในด้าน บุคลิกภาพ ความมั่นใจ และ ภาพลักษณ์โดยรวม เพราะเมื่อใบหน้าดูเหนื่อยล้า โทรม หรือมีริ้วรอยก่อนวัย อาจทำให้คนรอบข้างมองว่าเราดูเครียด ไม่สดใส หรือดูอายุมากกว่าความเป็นจริง ซึ่งอาจส่งผลต่อโอกาสในเรื่องการทำงาน ความสัมพันธ์ หรือแม้แต่ความรู้สึกมั่นใจในตัวเองเมื่อเข้าสังคม

นอกจากนี้ หากไม่ดูแลหรือปล่อยให้ปัญหาผิวสะสมเป็นเวลานาน การฟื้นฟูหรือย้อนวัยให้ผิวกลับมาดูอ่อนเยาว์จะยิ่งทำได้ยากขึ้น และอาจต้องพึ่งพาการรักษาที่ซับซ้อนหรือมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ดังนั้นการเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เร่งให้หน้าแก่ก่อนวัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งเพื่อสุขภาพผิวที่ดีและความมั่นใจในระยะยาว

3 จุดที่ทำให้หน้าแก่ ก่อนวัย

หน้าแก่ก่อนวัยมักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในจุดสำคัญบนใบหน้าที่เห็นได้ชัด ซึ่งมี 3 จุดหลัก ๆ ที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ได้แก่

3 จุดที่ทำให้หน้าแก่ ก่อนวัย

ร่องแก้มกับร่องน้ำหมาก

“ร่องแก้ม” และ “ร่องน้ำหมาก” ถือเป็นสองจุดสำคัญที่ทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัยอย่างเห็นได้ชัด เพราะเป็นบริเวณที่เกิด ร่องลึก จากการเสื่อมของผิวและการเคลื่อนตัวของไขมันใต้ผิวหนังตามอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อรูปหน้าทั้งหมด

  • ร่องแก้ม (Nasolabial Fold) เป็นรอยพับที่ลากจากข้างจมูกลงมาถึงมุมปาก หากร่องลึกมากจะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย ดูเศร้า และดูอายุมากขึ้น แม้ว่าจะแสดงสีหน้าเพียงเล็กน้อย ร่องนี้จะเห็นได้ชัดทันที
  • ร่องน้ำหมาก (Marionette Lines) เป็นร่องที่ลากจากมุมปากลงไปถึงแนวขากรรไกร คล้ายเส้นที่หุ่นเชิดเคลื่อนไหว หากมีร่องน้ำหมากเด่น จะทำให้มุมปากตก ดูบึ้งตึง และเพิ่มความรู้สึกหน้าแก่แบบไม่รู้ตัว

อ่านบาความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : ร่องน้ำหมาก คืออะไร ? สัญญาณเตือนหน้าแก่ก่อนวัย

ริ้วรอยหน้าผาก

ริ้วรอยหน้าผาก เป็นหนึ่งในสัญญาณที่เห็นได้ชัดที่สุดของความแก่ก่อนวัย เพราะบริเวณหน้าผากเป็นพื้นที่ที่เคลื่อนไหวบ่อยจากการแสดงสีหน้า เช่น การย่นหน้าหรือเลิกคิ้ว ทำให้เกิด เส้นริ้วถาวร ได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่ออายุเพิ่มขึ้นหรือผิวขาดความยืดหยุ่น เมื่อมีริ้วรอยหน้าผากชัดเจน จะทำให้ใบหน้าดูเคร่งเครียด เหนื่อยล้า และดูแก่กว่าวัยจริง แม้ในเวลาที่ไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ก็ตาม นอกจากนี้ รอยเหล่านี้ยังส่งผลให้ภาพรวมของใบหน้าดูไม่เรียบเนียน ไม่สดใส และเสียความอ่อนเยาว์ไปอย่างเห็นได้ชัด

อ่านบาความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : 7 วิธีลดริ้วรอยหน้าผาก บอกลาปัญหาหน้าแก่ก่อนวัย

ริ้วรอยใต้ตาและริ้วรอยตีนกา

ริ้วรอยใต้ตา และ ริ้วรอยตีนกา เป็นสองจุดที่มักทำให้หน้าแก่ก่อนวัย และมักจะเริ่มเกิดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นจากการสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสตินในผิว รวมถึงการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้าและการแสดงอารมณ์ต่าง ๆ เช่น การยิ้มหรือขมวดคิ้ว ซึ่งทำให้เกิด ริ้วรอยหรือร่องลึก ในบริเวณเหล่านี้

  • ริ้วรอยใต้ตา บริเวณใต้ตาจะเป็นจุดที่ผิวบางและบอบบางมาก การขาดการนอนหลับเพียงพอ ความเครียด และการสัมผัสกับมลภาวะสามารถทำให้เกิด ถุงใต้ตา และ รอยคล้ำ ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าความจริง การลดริ้วรอยใต้ตาสามารถทำได้ด้วยการใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมช่วยลดความหมองคล้ำ เช่น วิตามิน C หรือ เรตินอยด์ รวมถึงการใช้ ฟิลเลอร์ เพื่อเติมเต็มใต้ตาและลดความลึกของรอย
  • ริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยบริเวณหางตาหรือที่เรียกกันว่า ตีนกา มักเกิดจากการยิ้ม หัวเราะ หรือการขยับกล้ามเนื้อรอบดวงตาบ่อย ๆ ทำให้กลายเป็น ริ้วรอยที่ฝังลึก เมื่ออายุเพิ่มขึ้นและผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ตีนกาไม่เพียงแต่ทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังทำให้ดวงตาดูเหนื่อยล้าและขาดความสดใส การใช้ โบท็อกซ์ เป็นวิธีที่นิยมในการลดตีนกา เพราะมันช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดการเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดริ้วรอย

อ่านบาความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : รอยตีนกา เกิดจากอะไร ? ปัญหากวนใจของวัย 30+

หัตถการที่แก้ปัญหาหน้าแก่ ก่อนวัยที่เห็นผลไว

หากคุณต้องการแก้ปัญหาหน้าแก่ ก่อนวัยและเห็นผลไว มีหลายการทำทรีตเมนต์ที่สามารถช่วยฟื้นฟูใบหน้าและลดริ้วรอยได้ทันที โดยการทำทรีตเมนต์เหล่านี้จะช่วยปรับผิวให้ดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้นอย่างชัดเจน หน้าแก่ก่อนวัย แก้ยังไง มีวิธีไหนบ้างมาดูกันเลย

  • โปรแกรมโบท็อกซ์ (Botox) หรือเรียกว่า โปรแกรมโบท็อกซ์ริ้วรอย เป็นวิธีที่นิยมมากในการลดริ้วรอยบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า เช่น หน้าผาก ร่องแก้ม ตีนกา และ ร่องน้ำหมาก เนื่องจากโบท็อกซ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอยแบบถาวร จึงช่วยลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและทำให้ใบหน้าดูผ่อนคลายและอ่อนเยาว์ขึ้นทันที
  • โปรแกรมฟิลเลอร์ (Filler) ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็ม ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือบริเวณที่ผิวหย่อนคล้อย เช่น ใต้ตา และ ร่องหน้าผาก ซึ่งจะช่วยปรับรูปหน้ากลับมาให้ดูมีมิติและกระชับขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์ทันที
  • โปรแกรม HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เช่น โปรแกรม Ultraformer iii , Liftera และ Ultherapy โดยเป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวหน้ากระชับและยกขึ้น ลดความหย่อนคล้อยและริ้วรอยได้อย่างเห็นผลทันทีและยาวนาน
  • โปรแกรม Skin Booster เช่น โปรแกรมชาแนล (Chanels) โปรแกรม EXO Repair Skin Essence รวมถึงการบูสผิวใสด้วยโปรแกรม Juvelook ซึ่งการทำ Skin Booster จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี สดใส และยืดหยุ่นขึ้น โดยช่วยลดรอยเหี่ยวย่นเล็ก ๆ และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ทันทีหลังจากการทำทรีตเมนต์

เคล็ดลับในการดูแลผิวหน้าเพื่อไม่ให้หน้าแก่ก่อนวัย

เคล็ดลับในการดูแลผิวหน้าเพื่อไม่ให้หน้าแก่ก่อนวัย

การดูแลผิวหน้าและการป้องกันไม่ให้หน้าแก่ก่อนวัยเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อรักษาความอ่อนเยาว์และผิวสุขภาพดีในระยะยาว หลาย ๆ คนอาจยังไม่รู้ว่าหน้าแก่ก่อนวัย ใช้อะไรดี และทำอย่างไรดีไม่ให้หน้าแก่ก่อนวัย โดยสามารถทำได้ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ ดังนี้

  1. ทาครีมกันแดดทุกวัน แสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวแก่เร็ว ควรเลือกกันแดด SPF 30 ขึ้นไป และทาซ้ำระหว่างวัน โดยเฉพาะเมื่ออยู่กลางแจ้ง
  2. บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมต้านริ้วรอย เช่น วิตามิน C, เรตินอล, เปปไทด์ หรือไฮยาลูรอนิค แอซิด ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเพิ่มความชุ่มชื้น
  3. นอนหลับให้เพียงพอ ร่างกายจะซ่อมแซมเซลล์ผิวขณะนอนหลับ การนอนอย่างมีคุณภาพ 6–8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ผิวสดใสและลดความหมองคล้ำ
  4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ น้ำช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการเกิดริ้วรอย ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5–2 ลิตร
  5. กินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และปลาที่มีโอเมก้า 3 เพื่อช่วยบำรุงผิวจากภายใน

วิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงไม่ให้หน้าแก่ ก่อนวัย

การป้องกันและหลีกเลี่ยงไม่ให้หน้าแก่ ก่อนวัยสามารถทำได้ง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน หากทำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยชะลอวัยและรักษาความอ่อนเยาว์ของผิวหน้าได้ยาวนาน โดยสามารถเริ่มต้นได้จากพฤติกรรมและการดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอก ดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวแห้ง ขาดความยืดหยุ่น และแก่เร็ว
  2. หลีกเลี่ยงความเครียดสะสม ความเครียดเรื้อรังส่งผลให้ฮอร์โมน Cortisol เพิ่มขึ้น ทำลายคอลลาเจนในผิว
  3. ไม่ขยี้ตา หรือจับหน้าแรง ๆ พฤติกรรมเหล่านี้อาจเร่งให้เกิดริ้วรอยในจุดบอบบาง
  4. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและกระชับขึ้น
  5. ทำทรีตเมนต์หรือโปรแกรมดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ เช่น Skin Booster, โปรแกรมโบท็อกซ์ หรือโปรแกรมฟิลเลอร์ เพื่อช่วยชะลอวัยอย่างมีประสิทธิภาพ

ระหว่างผู้ชายและผู้หญิง ใครพบปัญหาหน้าแก่ได้มากกว่ากัน

ระหว่างผู้ชายและผู้หญิง ใครพบปัญหาหน้าแก่ได้มากกว่ากัน

โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะพบปัญหาหน้าแก่ก่อนวัยมากกว่าผู้ชาย ด้วยหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างผิว ฮอร์โมน และพฤติกรรมการใช้ชีวิต สาเหตุที่ผู้หญิงพบปัญหาหน้าแก่ก่อนวัยได้มากกว่า มีดังนี้

  • ผิวของผู้หญิงบางและบอบบางกว่าผู้ชาย  โครงสร้างผิวของผู้หญิงมี คอลลาเจนและอีลาสตินน้อยกว่า ทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้ง่ายกว่า
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในช่วงมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือวัยหมดประจำเดือน ซึ่งจะส่งผลให้ผิวแห้ง สูญเสียความยืดหยุ่น และเกิดริ้วรอยได้ง่าย
  • การแต่งหน้าและล้างหน้า ผู้หญิงมักแต่งหน้าทุกวันและใช้ผลิตภัณฑ์หลายชนิด ซึ่งหากล้างหน้าไม่สะอาดหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้ผิวอ่อนแอและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้
  • การแสดงสีหน้าและอารมณ์ ผู้หญิงมักแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้ามากกว่าผู้ชาย เช่น ยิ้ม ขมวดคิ้ว หัวเราะ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยในจุดต่าง ๆ เร็วกว่า

*ดังนั้น ผู้ชายเองก็ไม่ควรละเลยการดูแลตัวเอง เพราะแม้ผิวจะแข็งแรงกว่า แต่หากขาดการบำรุงผิว ใช้ชีวิตเครียด หรือเจอมลภาวะบ่อย ๆ ก็สามารถเจอปัญหาผิวแก่ก่อนวัยได้ไม่ต่างกันเลย*

ทำหัตถการย่อนวัยที่ ลีเอนจาง คลินิก ดีอย่างไร ?

การทำหัตถการที่ Lienjang Clinic Thailand (ลีเอนจาง คลินิก) ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ที่ต้องการฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อย่างปลอดภัยและเห็นผลชัดเจน ด้วยมาตรฐานการรักษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านความงาม และการใช้ผลิตภัณฑ์แท้ที่ผ่านการรับรองระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ HIFU เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ผิวต่าง ๆ ล้วนถูกออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน

นอกจากนี้ จุดเด่นของการทำหัตถการที่ลีเอนจาง คลินิก คือแนวคิดแบบ “K-Beauty Solution” ที่เน้นการออกแบบรูปหน้าและการย้อนวัยแบบเฉพาะบุคคล ไม่ทำให้หน้าดูแข็งทื่อหรือเปลี่ยนไปจนดูไม่เป็นธรรมชาติ พร้อมบริการระดับพรีเมียม บรรยากาศสบาย ๆ เป็นส่วนตัว และการดูแลหลังทำที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการปรนนิบัติผิวอย่างครบวงจร พร้อมเผยผิวหน้าที่อ่อนเยาว์ สดใส และมั่นใจในแบบที่เป็นตัวเองที่สุด

สรุป

3 จุดสำคัญที่ทำให้หน้าแก่ ก่อนวัย ได้แก่ ร่องแก้มและร่องน้ำหมาก ริ้วรอยหน้าผาก และ ริ้วรอยรอบดวงตา (ใต้ตาและตีนกา) ซึ่งล้วนเกิดจากการสูญเสียคอลลาเจน ความหย่อนคล้อยของผิว และการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ วิธีแก้ไขที่เห็นผลไวคือการทำหัตถการเฉพาะจุด เช่น โปรแกรมฟิลเลอร์เติมเต็มร่องลึก โปรแกรมโบท็อกซ์ลดริ้วรอย และ โปรแกรม Skin Booster เพื่อฟื้นฟูสภาพผิว ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและเห็นผลได้ในเวลาไม่นาน หากสนใจโปรแกรมดูแลผิวที่ ลีเอนจาง คลินิก สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี

สอบถามปรึกษาแพทย์ฟรี