คุณรู้หรือไม่ว่าหน้าแก่ ก่อนวัยสามารถเกิดขึ้นได้จาก “แค่ 3 จุดสำคัญ” หลายคนอาจคิดว่าเป็นเพราะอายุเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้ว ร่องลึกและเป็นตัวการหลักที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อยล้า และดูแก่กว่าวัยแบบไม่รู้ตัว
หากคุณกำลังกังวลกับปัญหาเหล่านี้ อย่าเพิ่งเครียด เพราะเรามีวิธีแก้ไขที่เห็นผลไว ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติมาแชร์ให้คุณแล้ว! อ่านบทความนี้เพื่อรู้ทันต้นตอของความแก่ พร้อมแนะนำวิธีดูแลและฟื้นฟูใบหน้าให้กลับมาดูสดใส อ่อนเยาว์ รับรองว่าคุณจะได้เคล็ดลับดี ๆ ที่ช่วยย้อนวัยให้ใบหน้ากลับมาเปล่งปลั่งมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ปัญหาหน้าแก่ ก่อนวัยเป็นอย่างไร ?
ปัญหาหน้าแก่ ก่อนวัย คือ ภาวะที่ใบหน้าดูมีอายุมากกว่าวัยจริง มักเกิดจากทั้งปัจจัยภายใน เช่น พันธุกรรม อายุที่เพิ่มขึ้น และปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด มลภาวะ ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมอย่างการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือไม่ดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เสียสมดุล และสูญเสียความกระชับและความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ
ลักษณะของใบหน้าที่ดูแก่ก่อนวัยสามารถสังเกตได้จากหลายจุด เช่น การมีริ้วรอยหรือร่องลึกที่เห็นได้ชัด ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ รูขุมขนกว้าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ มีจุดด่างดำหรือฝ้า กระ ใต้ตาคล้ำและมีถุงใต้ตา รวมถึงลักษณะของใบหน้าที่ดูโทรม ขาดความสดใส เมื่อรวมกันหลายปัจจัยจะทำให้ภาพรวมของใบหน้าแลดูเหนื่อยล้า ไม่สดชื่น และดูมีอายุมากกว่าความเป็นจริง
ปัจจัยที่ทำให้หน้าแก่ ก่อนวัยมีอะไรบ้าง ?
หน้าแก่ก่อนวัยเกิดจากอะไร ? มีทั้งจากภายในร่างกายและจากสิ่งแวดล้อมภายนอก โดยปัจจัยภายใน เช่น อายุที่เพิ่มขึ้นซึ่งทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินลดลง ส่งผลให้ผิวเริ่มหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยได้ง่าย รวมถึงฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง ความเครียด การนอนหลับไม่เพียงพอ และพันธุกรรม ล้วนมีผลต่อสุขภาพผิวและกระบวนการเสื่อมของผิวหนัง เมื่อร่างกายฟื้นฟูเซลล์ผิวได้น้อยลง ผิวจึงขาดความยืดหยุ่นและความสดใส
ขณะเดียวกัน ปัจจัยภายนอกก็มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ผิวหน้าแก่เร็ว เช่น การเผชิญแสงแดดโดยไม่ป้องกัน รังสี UV จะทำลายคอลลาเจนใต้ผิวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดฝ้า จุดด่างดำ และริ้วรอย การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง รวมถึงการไม่ดูแลผิวอย่างเหมาะสม เช่น ไม่ทาครีมกันแดด หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงเกินไป ล้วนเป็นตัวกระตุ้นให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้นและทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัยได้ง่ายขึ้น
เกิดอะไรขึ้นกับใบหน้าเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ?
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น กระบวนการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกายจะส่งผลโดยตรงต่อใบหน้า ซึ่งเป็นส่วนที่เห็นได้ชัดที่สุด การผลิต คอลลาเจนและอิลาสติน ใต้ผิวลดลง ทำให้ผิวเริ่ม ขาดความยืดหยุ่น หย่อนคล้อย และเกิด ริ้วรอยร่องลึก ตามบริเวณที่มีการแสดงสีหน้า เช่น หางตา หน้าผาก และร่องแก้ม นอกจากนี้ การผลัดเซลล์ผิว จะช้าลง ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ไม่สดใส และเกิด จุดด่างดำหรือฝ้า ได้ง่ายขึ้น
ไขมันบนใบหน้าที่เคยช่วยพยุงโครงสร้างผิวจะเริ่มลดลงหรือเคลื่อนตัว ทำให้ใบหน้าดู ตอบ แบน หรือไม่กระชับ เช่น โหนกแก้มแบน กรอบหน้าไม่ชัด มีเหนียงหรือคางสองชั้น รวมถึง กระดูกใบหน้า เช่น กรามหรือเบ้าตา เริ่มบางลงหรือเปลี่ยนรูปร่าง ซึ่งเป็นเหตุให้รูปหน้าดูเปลี่ยนไป นอกจากนี้ เส้นเลือดฝอยก็จะเปราะบางขึ้น ทำให้ใต้ตาคล้ำหรือเกิดรอยแดงได้ง่าย ทั้งหมดนี้คือการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ใบหน้าดูแก่ลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น
หน้าแก่ ก่อนวัยส่งผลกระทบอย่างไร ?
หน้าแก่ก่อนวัยส่งผลกระทบได้ทั้งในด้าน บุคลิกภาพ ความมั่นใจ และ ภาพลักษณ์โดยรวม เพราะเมื่อใบหน้าดูเหนื่อยล้า โทรม หรือมีริ้วรอยก่อนวัย อาจทำให้คนรอบข้างมองว่าเราดูเครียด ไม่สดใส หรือดูอายุมากกว่าความเป็นจริง ซึ่งอาจส่งผลต่อโอกาสในเรื่องการทำงาน ความสัมพันธ์ หรือแม้แต่ความรู้สึกมั่นใจในตัวเองเมื่อเข้าสังคม
นอกจากนี้ หากไม่ดูแลหรือปล่อยให้ปัญหาผิวสะสมเป็นเวลานาน การฟื้นฟูหรือย้อนวัยให้ผิวกลับมาดูอ่อนเยาว์จะยิ่งทำได้ยากขึ้น และอาจต้องพึ่งพาการรักษาที่ซับซ้อนหรือมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ดังนั้นการเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เร่งให้หน้าแก่ก่อนวัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งเพื่อสุขภาพผิวที่ดีและความมั่นใจในระยะยาว
3 จุดที่ทำให้หน้าแก่ ก่อนวัย
หน้าแก่ก่อนวัยมักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในจุดสำคัญบนใบหน้าที่เห็นได้ชัด ซึ่งมี 3 จุดหลัก ๆ ที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ได้แก่
ร่องแก้มกับร่องน้ำหมาก
“ร่องแก้ม” และ “ร่องน้ำหมาก” ถือเป็นสองจุดสำคัญที่ทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัยอย่างเห็นได้ชัด เพราะเป็นบริเวณที่เกิด ร่องลึก จากการเสื่อมของผิวและการเคลื่อนตัวของไขมันใต้ผิวหนังตามอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อรูปหน้าทั้งหมด
- ร่องแก้ม (Nasolabial Fold) เป็นรอยพับที่ลากจากข้างจมูกลงมาถึงมุมปาก หากร่องลึกมากจะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อย ดูเศร้า และดูอายุมากขึ้น แม้ว่าจะแสดงสีหน้าเพียงเล็กน้อย ร่องนี้จะเห็นได้ชัดทันที
- ร่องน้ำหมาก (Marionette Lines) เป็นร่องที่ลากจากมุมปากลงไปถึงแนวขากรรไกร คล้ายเส้นที่หุ่นเชิดเคลื่อนไหว หากมีร่องน้ำหมากเด่น จะทำให้มุมปากตก ดูบึ้งตึง และเพิ่มความรู้สึกหน้าแก่แบบไม่รู้ตัว
อ่านบาความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : ร่องน้ำหมาก คืออะไร ? สัญญาณเตือนหน้าแก่ก่อนวัย
ริ้วรอยหน้าผาก
ริ้วรอยหน้าผาก เป็นหนึ่งในสัญญาณที่เห็นได้ชัดที่สุดของความแก่ก่อนวัย เพราะบริเวณหน้าผากเป็นพื้นที่ที่เคลื่อนไหวบ่อยจากการแสดงสีหน้า เช่น การย่นหน้าหรือเลิกคิ้ว ทำให้เกิด เส้นริ้วถาวร ได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่ออายุเพิ่มขึ้นหรือผิวขาดความยืดหยุ่น เมื่อมีริ้วรอยหน้าผากชัดเจน จะทำให้ใบหน้าดูเคร่งเครียด เหนื่อยล้า และดูแก่กว่าวัยจริง แม้ในเวลาที่ไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ก็ตาม นอกจากนี้ รอยเหล่านี้ยังส่งผลให้ภาพรวมของใบหน้าดูไม่เรียบเนียน ไม่สดใส และเสียความอ่อนเยาว์ไปอย่างเห็นได้ชัด
อ่านบาความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : 7 วิธีลดริ้วรอยหน้าผาก บอกลาปัญหาหน้าแก่ก่อนวัย
ริ้วรอยใต้ตาและริ้วรอยตีนกา
ริ้วรอยใต้ตา และ ริ้วรอยตีนกา เป็นสองจุดที่มักทำให้หน้าแก่ก่อนวัย และมักจะเริ่มเกิดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นจากการสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสตินในผิว รวมถึงการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้าและการแสดงอารมณ์ต่าง ๆ เช่น การยิ้มหรือขมวดคิ้ว ซึ่งทำให้เกิด ริ้วรอยหรือร่องลึก ในบริเวณเหล่านี้
- ริ้วรอยใต้ตา บริเวณใต้ตาจะเป็นจุดที่ผิวบางและบอบบางมาก การขาดการนอนหลับเพียงพอ ความเครียด และการสัมผัสกับมลภาวะสามารถทำให้เกิด ถุงใต้ตา และ รอยคล้ำ ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าความจริง การลดริ้วรอยใต้ตาสามารถทำได้ด้วยการใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมช่วยลดความหมองคล้ำ เช่น วิตามิน C หรือ เรตินอยด์ รวมถึงการใช้ ฟิลเลอร์ เพื่อเติมเต็มใต้ตาและลดความลึกของรอย
- ริ้วรอยตีนกา ริ้วรอยบริเวณหางตาหรือที่เรียกกันว่า ตีนกา มักเกิดจากการยิ้ม หัวเราะ หรือการขยับกล้ามเนื้อรอบดวงตาบ่อย ๆ ทำให้กลายเป็น ริ้วรอยที่ฝังลึก เมื่ออายุเพิ่มขึ้นและผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ตีนกาไม่เพียงแต่ทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่ยังทำให้ดวงตาดูเหนื่อยล้าและขาดความสดใส การใช้ โบท็อกซ์ เป็นวิธีที่นิยมในการลดตีนกา เพราะมันช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดการเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดริ้วรอย
อ่านบาความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ : รอยตีนกา เกิดจากอะไร ? ปัญหากวนใจของวัย 30+
หัตถการที่แก้ปัญหาหน้าแก่ ก่อนวัยที่เห็นผลไว
หากคุณต้องการแก้ปัญหาหน้าแก่ ก่อนวัยและเห็นผลไว มีหลายการทำทรีตเมนต์ที่สามารถช่วยฟื้นฟูใบหน้าและลดริ้วรอยได้ทันที โดยการทำทรีตเมนต์เหล่านี้จะช่วยปรับผิวให้ดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้นอย่างชัดเจน หน้าแก่ก่อนวัย แก้ยังไง มีวิธีไหนบ้างมาดูกันเลย
- โปรแกรมโบท็อกซ์ (Botox) หรือเรียกว่า โปรแกรมโบท็อกซ์ริ้วรอย เป็นวิธีที่นิยมมากในการลดริ้วรอยบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า เช่น หน้าผาก ร่องแก้ม ตีนกา และ ร่องน้ำหมาก เนื่องจากโบท็อกซ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอยแบบถาวร จึงช่วยลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและทำให้ใบหน้าดูผ่อนคลายและอ่อนเยาว์ขึ้นทันที
- โปรแกรมฟิลเลอร์ (Filler) ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็ม ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือบริเวณที่ผิวหย่อนคล้อย เช่น ใต้ตา และ ร่องหน้าผาก ซึ่งจะช่วยปรับรูปหน้ากลับมาให้ดูมีมิติและกระชับขึ้น ทำให้ใบหน้าดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์ทันที
- โปรแกรม HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เช่น โปรแกรม Ultraformer iii , Liftera และ Ultherapy โดยเป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวหน้ากระชับและยกขึ้น ลดความหย่อนคล้อยและริ้วรอยได้อย่างเห็นผลทันทีและยาวนาน
- โปรแกรม Skin Booster เช่น โปรแกรมชาแนล (Chanels) โปรแกรม EXO Repair Skin Essence รวมถึงการบูสผิวใสด้วยโปรแกรม Juvelook ซึ่งการทำ Skin Booster จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี สดใส และยืดหยุ่นขึ้น โดยช่วยลดรอยเหี่ยวย่นเล็ก ๆ และทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ทันทีหลังจากการทำทรีตเมนต์
เคล็ดลับในการดูแลผิวหน้าเพื่อไม่ให้หน้าแก่ก่อนวัย
การดูแลผิวหน้าและการป้องกันไม่ให้หน้าแก่ก่อนวัยเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อรักษาความอ่อนเยาว์และผิวสุขภาพดีในระยะยาว หลาย ๆ คนอาจยังไม่รู้ว่าหน้าแก่ก่อนวัย ใช้อะไรดี และทำอย่างไรดีไม่ให้หน้าแก่ก่อนวัย โดยสามารถทำได้ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ ดังนี้
- ทาครีมกันแดดทุกวัน แสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวแก่เร็ว ควรเลือกกันแดด SPF 30 ขึ้นไป และทาซ้ำระหว่างวัน โดยเฉพาะเมื่ออยู่กลางแจ้ง
- บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมต้านริ้วรอย เช่น วิตามิน C, เรตินอล, เปปไทด์ หรือไฮยาลูรอนิค แอซิด ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเพิ่มความชุ่มชื้น
- นอนหลับให้เพียงพอ ร่างกายจะซ่อมแซมเซลล์ผิวขณะนอนหลับ การนอนอย่างมีคุณภาพ 6–8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ผิวสดใสและลดความหมองคล้ำ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ น้ำช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการเกิดริ้วรอย ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5–2 ลิตร
- กินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และปลาที่มีโอเมก้า 3 เพื่อช่วยบำรุงผิวจากภายใน
วิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงไม่ให้หน้าแก่ ก่อนวัย
การป้องกันและหลีกเลี่ยงไม่ให้หน้าแก่ ก่อนวัยสามารถทำได้ง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน หากทำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยชะลอวัยและรักษาความอ่อนเยาว์ของผิวหน้าได้ยาวนาน โดยสามารถเริ่มต้นได้จากพฤติกรรมและการดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอก ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวแห้ง ขาดความยืดหยุ่น และแก่เร็ว
- หลีกเลี่ยงความเครียดสะสม ความเครียดเรื้อรังส่งผลให้ฮอร์โมน Cortisol เพิ่มขึ้น ทำลายคอลลาเจนในผิว
- ไม่ขยี้ตา หรือจับหน้าแรง ๆ พฤติกรรมเหล่านี้อาจเร่งให้เกิดริ้วรอยในจุดบอบบาง
- หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและกระชับขึ้น
- ทำทรีตเมนต์หรือโปรแกรมดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ เช่น Skin Booster, โปรแกรมโบท็อกซ์ หรือโปรแกรมฟิลเลอร์ เพื่อช่วยชะลอวัยอย่างมีประสิทธิภาพ
ระหว่างผู้ชายและผู้หญิง ใครพบปัญหาหน้าแก่ได้มากกว่ากัน
โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะพบปัญหาหน้าแก่ก่อนวัยมากกว่าผู้ชาย ด้วยหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างผิว ฮอร์โมน และพฤติกรรมการใช้ชีวิต สาเหตุที่ผู้หญิงพบปัญหาหน้าแก่ก่อนวัยได้มากกว่า มีดังนี้
- ผิวของผู้หญิงบางและบอบบางกว่าผู้ชาย โครงสร้างผิวของผู้หญิงมี คอลลาเจนและอีลาสตินน้อยกว่า ทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้ง่ายกว่า
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในช่วงมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือวัยหมดประจำเดือน ซึ่งจะส่งผลให้ผิวแห้ง สูญเสียความยืดหยุ่น และเกิดริ้วรอยได้ง่าย
- การแต่งหน้าและล้างหน้า ผู้หญิงมักแต่งหน้าทุกวันและใช้ผลิตภัณฑ์หลายชนิด ซึ่งหากล้างหน้าไม่สะอาดหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้ผิวอ่อนแอและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้
- การแสดงสีหน้าและอารมณ์ ผู้หญิงมักแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้ามากกว่าผู้ชาย เช่น ยิ้ม ขมวดคิ้ว หัวเราะ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยในจุดต่าง ๆ เร็วกว่า
*ดังนั้น ผู้ชายเองก็ไม่ควรละเลยการดูแลตัวเอง เพราะแม้ผิวจะแข็งแรงกว่า แต่หากขาดการบำรุงผิว ใช้ชีวิตเครียด หรือเจอมลภาวะบ่อย ๆ ก็สามารถเจอปัญหาผิวแก่ก่อนวัยได้ไม่ต่างกันเลย*
ทำหัตถการย่อนวัยที่ ลีเอนจาง คลินิก ดีอย่างไร ?
การทำหัตถการที่ Lienjang Clinic Thailand (ลีเอนจาง คลินิก) ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ที่ต้องการฟื้นฟูใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อย่างปลอดภัยและเห็นผลชัดเจน ด้วยมาตรฐานการรักษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านความงาม และการใช้ผลิตภัณฑ์แท้ที่ผ่านการรับรองระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ HIFU เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ผิวต่าง ๆ ล้วนถูกออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและยาวนาน
นอกจากนี้ จุดเด่นของการทำหัตถการที่ลีเอนจาง คลินิก คือแนวคิดแบบ “K-Beauty Solution” ที่เน้นการออกแบบรูปหน้าและการย้อนวัยแบบเฉพาะบุคคล ไม่ทำให้หน้าดูแข็งทื่อหรือเปลี่ยนไปจนดูไม่เป็นธรรมชาติ พร้อมบริการระดับพรีเมียม บรรยากาศสบาย ๆ เป็นส่วนตัว และการดูแลหลังทำที่ใส่ใจในทุกขั้นตอน ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการปรนนิบัติผิวอย่างครบวงจร พร้อมเผยผิวหน้าที่อ่อนเยาว์ สดใส และมั่นใจในแบบที่เป็นตัวเองที่สุด
สรุป
3 จุดสำคัญที่ทำให้หน้าแก่ ก่อนวัย ได้แก่ ร่องแก้มและร่องน้ำหมาก ริ้วรอยหน้าผาก และ ริ้วรอยรอบดวงตา (ใต้ตาและตีนกา) ซึ่งล้วนเกิดจากการสูญเสียคอลลาเจน ความหย่อนคล้อยของผิว และการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ วิธีแก้ไขที่เห็นผลไวคือการทำหัตถการเฉพาะจุด เช่น โปรแกรมฟิลเลอร์เติมเต็มร่องลึก โปรแกรมโบท็อกซ์ลดริ้วรอย และ โปรแกรม Skin Booster เพื่อฟื้นฟูสภาพผิว ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและเห็นผลได้ในเวลาไม่นาน หากสนใจโปรแกรมดูแลผิวที่ ลีเอนจาง คลินิก สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account : @Lienjangthailand